นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธงของผู้มีความหลากหลายทางเพศจะมีความแตกต่างกันออกไปนอกเหนือจากธงรุ้ง เพราะธงแต่ละแบบ ก็จะมีความแตกต่างและมีความหมายที่ไม่เหมือนกัน สำหรับธง LGBTQIAN+ Pride ที่เราเห็นกันก็มักจะเป็นแถบสีรุ้งหลายๆ สี แต่สำหรับธง Sapphic นั้น กลับกลายเป็นแถบสีและมีดอกไม้อยู่ตรงกลางอีกด้วย
แน่นอนว่าหลังจากที่เราทำความเข้าใจกับความหมายของคำว่าแซฟฟิคคืออะไรไปแล้วนั้น วันนี้เราก็เลยอยากที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับความหมายของธงแซฟฟิคกันให้มากขึ้น และรู้จักกับดอกไม้ตรงกลางธงให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทำความรู้จักธง Sapphic Pride Flag
ธงแซฟฟิคเป็นธงที่มีสีชมพูสว่างคาดสองแถบ ทั้งด้านบนและด้านล่าง สีขาว และดอกไม้สีม่วงตรงกลาง ที่เป็นดอกไวโอเล็ตนั่นเอง ซึ่งผู้ออกแบบธงแซฟฟิค (ต้นฉบับ) ก็คือผู้ใช้ Tumblr รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า lesbeux-moved ที๋สร้างและโพสต์มาในวันที่ 14 สิงหาคม 2015 โดยจะมีทั้งสีชมพูสองแถบที่ด้านบนและด้านล่าง เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ตรงกลางมีดอกไวโอเล็ต ที่ในอดีต เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิง ซึ่งจุดตรงกลางของธงดั้งเดิมนั้น จะเป็นดอกไวโอเล็ตเหมือนจริงวางไว้ตรงกลางของธง
แต่เมื่อมีการพิมพ์ซ้ำ ก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะคงรายละเอียดของดอกไม้ให้ชัดเจนได้อย่างต้นฉบับ ผู้ใช้ Tumblr นาม pride-color-schemes ก็ได้ทำการปรับรูปแบบของธงแซฟฟิคให้สามารถพิมพ์ซ้ำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเปลี่ยนจากดอกไวโอเล็ตเหมือนจริง ให้กลายเป็นเวคเตอร์ดอกไวโอเล็ตสีม่วง 5 กลีบ และจุดตรงกลางสีชมพูและสีเหลือง ไม่ติดกับกลีบ Sapphic Pride Flag โมเดิร์นเผยแพร่ออกมาในวันที่ 25 มิถุนายน 2017 ซึ่งธงแซฟฟิคโมเดิร์นก็ได้มีการใช้งนกันมานับตั้งแต่ตอนนั้น ควบคู่กับธงต้นฉบับ
แล้วทำไมถึงต้องเป็นดอกไวโอเล็ต?
โดยทั่วไปแล้ว ดอกไวโอเล็ตเป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับความรัก เพราะเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงาม มีกลิ่นหอมให้ชวนหลงใหลและตกหลุมรักอีกครั้ง นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ การปกป้อง ความฝัน การเยียวยา ความมุ่งมั่น แม้กระทั่งในช่วงยุคกลางของศาสนาคริสต์ ดอกไวโอเล็ตก็ยังถูกเรียกว่าเป็นสมุนไพรแหงตรีเอกานุภาพ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่มีสามสี ทั้งสีม่วง สีเหลือง และสีเขียว
และสำหรับแซฟฟิค ดอกไวโอเล็ตก็ถือเป็นดอกไม้ที่อยู่คู่ชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศมาอย่างยาวนาน ก็นับตั้งแต่แซฟโฟก็ตั้งแต่ประมาณ 600 ปีก่อนคริสตกาล จากบทความครั้งก่อน เราจะเห็นว่าแซฟโฟได้เขียนบทกวีที่เกี่ยวข้องกับความปรารถนาและรักเพศเดียวกันของเพศหญิงอีกด้วย ซึ่งผลงานของเธอนั้นก็ได้มีการพูดถึงความงดงามและความน่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติและดอกไว้เอาไว้ที่ว่า
“Many crowns of violets,
roses, and crocuses together
. . . you put on by my side
and many scented wreaths
woven from blossoms
around your delicate throat.
And . . . with pure, sweet oil
[for a queen] . . .
you anointed . . .
and on soft beds
. . . delicate . . .
you quenched your desire.
Not any . . .
no holy site . . .
we left uncovered,
no grove . . . dance
. . . sound”
Sappho: Fragment 94
ไม่ใช่แค่บทกวีของแซฟโฟเท่านั้น ดอกไวโอเล็ตยังเป็นสัญลักษณ์ของแซฟฟิคที่ปรากฏขึ้นมาในผลงานสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน อย่างเรื่อง “The Captive” ละครบรอดเวย์ของ Édouard Bournet ในปี 1927 ที่เล่าเรื่องราวของเลสเบี้ยนสองคน และเล่าเรื่องราวในเชิงโรแมนติก ซึ่งหนึ่งในสองคนนั้น ก็จะส่งช่อดอกไวโอเล็ตไปให้กับอีกคนหนึ่งด้วย แน่นอนว่าละครบรอดเวย์เรื่องนี้สร้างความโกลาหลเป็นอย่างมาก เพราะมีมผู้ประท้วง และทำให้ตำรวจปิดการแสดงรอบสุดท้ายในฝรั่งเศส รวมไปถึงการจับกุมตัวนักแสดงนำทั้งสอง หลังจากนั้นไม่นาน ชาวเลสเบี้ยนและไบเซ็กชวลก็เริ่มที่จะสวมชุดสีม่วงหรือกลัดดอกไวโอเล็ตไว้ที่อกเพื่อเป็นการประท้วงอีกด้วย นั่นก็เลยทำให้ดอกไวโอเล็ตก็เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของเลสเบี้ยน และมีการเรียกถึงดอกไม้ดอกนี้ว่าเป็นดอกไม้เลสเบี้ยนอีกด้วย
แต่บางที่ก็มีพูดถึงดอกลาเวนเดอร์ด้วย มันหมายความว่ายังไงกันแน่
นอกจากดอกไวโอเล็ตแล้ว ดอกลาเวนเดอร์ก็ยังเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความรักของเพศเดียวกันและถูกนำมาใช้ในบริบทนี้ตั้งแต่ช่วงปี 1920 เหมือนอย่างที่ตอนนี้ก็มีการใช้คำว่า rainbow หรือว่า รุ้ง เพื่อสื่อถึง LGBTQIAN+ นั่นเอง เช่นงาน Lavender Graduations หรืองาน Lavender Law Conference เป็นต้น และถ้าหากเทียบกับในประวัติศาสตร์ ก็ยังมีการใช้คำว่า ลาเวนเดอร์ เพื่อสื่อถึงเควียร์อีกด้วย อย่างนักประวัติศาสตร์ Carl Sandburg ที่เขียนเกี่ยวกับ อับราฮัม ลินคอล์น ในปี 1926 ว่า “A streak of lavender ran through him; he had spots soft as May violets” ที่ทำให้หลายๆ คนตีความถึงความเควียร์ของ Abraham Lincoln ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Joshua Fry Speed เป็นต้น และนี่อาจจะทำให้เห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าในช่วงทศวรรษที่ 1920 ก็จะมีการใช้คำว่า ลาเวนเดอร์ เพื่อหมายถึงสิ่งนี้
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับลาเวนเดอร์ในโลกของเควียร์ด้วยเช่นกัน อย่าง The Lavender Scare และ Lavender Menace ที่เป็นการล่าแม่มดในกลุ่มข้าราชการที่รักเพศเดียวกันช่วงยุค 1950 ของสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับ Red Scare ของคอมมิวนิสต์ ซึ่งคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน “The Lavender Scare and Empire: Rethinking Cold War Antigay Politics” โดยนักประวัติศาสตร์ นาโอโกะ ชิบุซาวะ
รวมไปถึงสถานการณ์ในช่วงปี 1970 ที่สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มเฟมินิสต์ และตัวของ Betty Friedan ก็ก็ได้มีการโจมตีกลุ่ม Lavender Menace ที่เป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวเลสเบี้ยน ทำให้ Lavender Menace บุกเข้าสภาคองเกรสครั้งที่สองเพื่อรวมพลังสตรี เพราะว่าพวกเขาต้องการตอบสนองต่อความคิดเห็นของ Betty Friedan ที่โจมตีว่าเป็นบ่อนทำลายการเคลื่อนไหวของผู้หญิง และเมื่อถึงจุดนี้ ลาเวนเดอร์ ก็เลยกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำหรับเกย์ เควียร์ และกลุ่มคนเพศหลากหลายอย่างเห็นได้ชัด
อาจจะบอกได้ว่า สีม่วง ดอกไวโอเล็ต และดอกลาเวนเดอร์ เป็นสัญลักษณ์ของแซฟฟิคด้วยก็ว่าได้ เพราะได้มีการนำมาใช้ทั้งในการสนับสนุนกลุ่มหญิงรักหญิง ใช้ในการเรียกร้อง เดินขบวน ประท้วง ไปจนถึงซัพพอร์ตและสนับสนุนกลุ่มหญิงรักหญิงด้วยนั่นเอง
Sources:
- http://lit.human.ku.ac.th/past/web_new51/link_16/_2/Friedan%20B.pdf
- https://botanicgardens.uw.edu/about/blog/2021/12/21/queer-botany-the-sapphic-violet/
- https://daily.jstor.org/four-flowering-plants-decidedly-queered/
- https://dressingdykes.com/2021/08/20/from-lavender-to-violet/
- https://edition.cnn.com/style/article/lgbtq-lavender-symbolism-pride/index.html
- https://florgeous.com/violet-flower-meaning/
- https://lesbeux-moved.tumblr.com/post/126717498095/sapphic-wlw-sga-women-flag-pink-love-violets
- https://lgbtqia.fandom.com/wiki/Sapphic
- https://pride-color-schemes.tumblr.com/post/162230388064/sapphic
- https://sweetbitterpodcast.com/2020/10/25/fragment-94/
- https://taimi.com/wiki/sapphic-what-is-it-what-does-it-mean
- https://www.lgbtqnation.com/2022/06/sapphic-pride-flag/