ลิสต์ 15 หนัง/ซีรีส์ LGBTQIAN+ ที่คุณอาจจะไม่เคยดู ไม่ค่อยคุ้นหู หรือรู้จักแต่ยังไม่ได้เริ่มดูสักที

| | ,

เดือนไพรด์แบบนี้ แน่นอนว่า The Noize Team ก็มาพร้อมกับลิสต์หนังและซีรีส์ LGBTQIAN+ ที่คุณไม่ควรพลาดมาฝากกันเป็นประจำ หลังจากปี 2021 ที่คัดลิสต์ผลงานที่อยู่บนสตรีมมิ่งมาฝากคุณแล้ว อย่างใน ‘รวมลิสต์หนังและซีรีส์ LGBTQIAN+ ที่คุณไม่ควรพลาด‘ นั่นเอง

สำหรับปี 2022 พวกเราก็ได้รวบรวมหนังและซีรีส์ LGBTQIAN+ ดีๆ ที่คุณอาจจะไม่เคยได้รับชม หรือไม่ค่อยคุ้นหูมาฝากกัน จากทีมเขียนหลากหลาย ที่คุณอาจจะคุ้นชื่อหรือไม่คุ้นชื่อ แต่ก็สามารถติดตามผลงานของพวกเขาได้เลย แล้วในปีนี้จะมีเรื่องไหนกันบ้าง ก็ต้องห้ามพลาด รีบตามมาดูกันเลย

Summerland (2020)

Summerland - Official Trailer - Rent From Home Now

โดย เนยถั่วบนดวงจันทร์

เมื่อความเจ็บปวดจากอดีตทำให้เธอโดดเดี่ยว
และในบางความทรงจำยังคงตรึงตราอยู่ที่ใจ

Summerland หนัง Sapphic สุดงดงาม เล่าถึงนักเขียนสาวชาวอังกฤษ Alice Lamb (รับบทโดย Gemma Arterton) ที่มีปมฝังใจ ทำให้เธอกลายเป็นคนแปลกแยก ไม่เป็นมิตร เธอถูกบังคับให้ต้องดูแลผู้ลี้ภัยจากลอนดอนอย่าง Frank (รับบทโดย Lucas Bond) เด็กชายผู้ร่าเริงที่ไม่รู้ว่าชะตากรรมของพ่อแม่เขาจะเป็นเช่นไรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ ทว่าการพากันค้นหาความจริงของการปรากฏขึ้นอย่าง ‘summerland’ กลับทำให้ทั้งคู่ค่อยๆ เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายของชีวิตให้กันและกัน อีกทั้งอดีตของอลิซจะค่อยๆ เปิดเผยอย่างละเมียดละไม ไม่ว่าจะเป็นสภาพสังคม และอดีตแฟนสาว Vera (รับบทโดย Gugu Mbatha-Raw) ที่ยังคงตรึงอยู่ในใจแม้เวลาจะล่วงเลยไปไกลแล้วก็ตาม 

สิ่งที่ประทับใจคือภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามตั้งคำถามกับคนดูถึงตำนาน ความเชื่อต่างๆที่มีทั้งที่มา ที่ไป ซึ่งหากลองพินิจให้ดีคงจะเห็นว่าความเชื่อเหล่านั้นคือการปิดกั้นความเป็นปัจเจก ความหลากหลายของมนุษย์ด้วยกันเองทั้งนั้น อลิซก็คือหนึ่งในคนที่ถูกสภาพสังคมหล่อหลอมให้เธอต้องจำยอม ใช้ชีวิตด้วยความกลัวจนได้สร้างกำแพงกั้นระหว่างเธอและผู้คนเอาไว้ แต่เมื่อดูจบ คุณจะรู้สึกได้ถึงการถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ การถูกโอบกอดด้วยความรัก และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องงดงามตรึงตราอยู่ใจเสมอมา

LOEV (2015)

LOEV | Official Trailer [HD] (2017) | Shiv Pandit, Dhruv Ganesh, Siddharth Menon

โดย plustard

LOEV หนังเกย์จากประเทศอินเดียเรื่องนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์คนที่ต้องการความรักหวานฉ่ำ เพราะแม้เรื่องราวจะย่อยง่าย แต่ก็มีประเด็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะซับซ้อนไปกว่าเรื่องทั่วๆ ไประหว่างซาฮิล ไจและอเล็กซ์ ทั้งความสัมพันธ์ของเพื่อนตั้งแต่วัยเด็กที่ก็เหมือนจะไม่ใช่เพื่อนและความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักเกย์ที่ต้องออกแรงประคองกันอยู่พอสมควร แต่ด้วยแนวคิดของผู้กำกับที่บอกว่าภาพยนตร์ไม่ได้ผูกติดอยู่กับเรื่องการเมือง แต่ตัวเรื่องกลับเชื่อมโยงความเป็นเกย์ในอินเดียกับระบอบการเมืองแบบจัดหนักจัดเต็ม ก็ทำให้รู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ควรค่าแค่รับชมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

Anaïs in Love (2021)

Anaïs in Love - Official Trailer

โดย sharphorn

หากใครกำลังมองหาหนังแซฟฟิกดีๆ แต่เบื่อโทรปเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวพีเรียด, Bury your gay, รักต้องห้ามในสังคมที่เกลียดกลัวผู้มีความหลากหลายทางเพศ ยังไม่นับภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องที่สร้างมาเพื่อขายฉากเซ็กซ์ชวนอึดอัดอีก Anaïs in Love (2021) ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดีจากฝรั่งเศสเรื่องนี้อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหาอยู่ก็ได้

Anaïs (Anaïs Demoustier) หญิงสาววัย 30 ปี ผู้ไม่เอาการเอางานใดๆ ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบราวกับกลัวว่ากาลเวลาจะตามทัน เธอตกหลุมรักนักเขียนคนหนึ่งผ่านตัวอักษร ซึ่งนักเขียนผู้นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล หากแต่เป็นคนรักของหนุ่มใหญ่คราวพ่อที่กำลังคบชู้อยู่กับเธอนั่นเอง ภารกิจพิชิตใจสาวนักเขียน ณ เมืองชายทะเลของเธอจึงเริ่มขึ้น! 

หากเปรียบ Anaïs in Love เป็น The Worst Person in The World เวอร์ชันเฟรนช์+แซฟฟิก ก็คงไม่แปลกนัก ต่อให้ Anaïs จะก่อเรื่องแค่ไหนแต่เราที่เป็นคนดูกลับไม่ตัดสินการกระทำของเธอเลย สุดท้ายแล้วไม่ว่า Anaïs จะสมหวังกับรักครั้งนี้หรือไม่ เชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะชวนให้ผู้ชมยกยิ้มทุกครั้งที่นึกถึง

Anne+: The Film (2021)

ANNE+ The Film | Official Trailer | Netflix

โดย Kinder Joy

หลังจากฉบับซีรีส์ในปี 2018 ได้การตอบรับจากผู้ชมในในประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นอย่างดี ในช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา Anne+ กลับมาในรูปแบบของภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า “Anne+ : The Film” ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวหลังจากที่ Sara แฟนของเธอย้ายไปทำงานที่แคนาดา ทั้งสองพยายามที่จะประคับประคองความสัมพันธ์ระยะไกลนี้ แต่ก็เหมือนจะมีเรื่องที่ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถพูดคุยได้เหมือนก่อน ทางด้านตัว Anne เองก็กำลังวุ่นอยู่กับการเขียนหนังสือเล่มแรกของเธอ ตัวละครในหนังสือที่เธอเขียนยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน อะไรคือสิ่งตัวละครต้องการจะบอก ซึ่งก็เหมือนชีวิตของ Anne ตอนนี้ที่ดูจะติดๆ ขัดๆ ไปเสียหมด จนวันหนึ่งเธอได้ไปพบกับ Non-binary drag king ชื่อว่า Lou ที่จะพาเธอไปค้นพบมุมมองใหม่ๆ ในชีวิต

Anne+: The Film ยังคงมาตรฐานที่เคยทำไว้ในฉบับซีรีส์ได้เป็นอย่างดี แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามี Anne+ ฉบับซีรีส์มาก่อน ซึ่งต้องบอกว่าแนะนำให้ดูฉบับซีรีส์ก่อน เพื่ออรรถรสในการรับชมอย่างเต็มที่ เนื่องจากฉบับภาพยนตร์จะไม่เล่าย้อนความสัมพันธ์ของตัวละครให้เราเลย และความสัมพันธ์ของ Anne นั้นเป็นส่วนสำคัญมากของซีรีส์ชุดนี้ เพราะชื่อเรื่อง “Anne+” มีที่มาจาก Anne “plus” someone in her life. ใครกำลังตามหาซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ดีๆ และถ่ายทอดความ Queer ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ  Anne+ คือซีรีส์ที่คุณไม่สามารถข้ามไปได้เลย สามารถรับชมซีซั่น 1 ได้ทาง YouTube ซีซัน 2 ทาง Channel 4 และ Anne+: The Film ทาง Netflix

I am Jonas (2018)

I Am Jonas - Trailer

โดย plustard

I am Jonas ภาพยนตร์ coming of age สัญชาติฝรั่งเศสที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงนี้ ว่าด้วยเรื่องของเด็กชายวัยมัธยมคนหนึ่งที่เข้ากับเพื่อนไม่ได้อย่างโจนาส แต่แล้วก็มีเด็กหนุ่มเข้าใหม่กลางเทอมที่พร้อมจะเป็นเพื่อนกับเขาอย่างเต็มใจ จนความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด แต่ท่ามกลางความรักอันหอมหวาน จู่ๆ ก็มีเรื่องหักมุมที่ทำให้คนดูอย่างเราต้องน้ำตาแตกไปตามๆ กัน

ตัวหนังเล่าเรื่องแตกต่างจากหนังทั่วไปเพราะสลับการเล่าเหตุการณ์ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ให้เราได้เห็นทั้งอารมณ์ ความรู้สึก และค่อยๆ ทำความเข้าใจว่าทำไมตัวละครที่ทำหน้าที่ดำเนินเรื่องทั้งหมดอย่างโจนาสถึงเป็นชายหนุ่มที่ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ขนาดนี้

สามารถรับชมได้ทาง Netflix

Kajillionaire (2020)

KAJILLIONAIRE - Official Trailer [HD] - In Theaters September 25

โดย Poyhooood (ภวังค์​หนัง​)

จะทำอย่างไร ไม่ให้ “ลัก” แบบผิด ๆ

พบกับ “Kajillionaire” ผลงานกำกับและเขียนบทจาก Miranda July ว่าด้วยเรื่องราวของ Old Dolio (Evan Rachel Wood) หญิงสาวในวัย 26 ปี ที่เติบโตมากับครอบครัวนักต้มตุ๋น ทั้งพ่อและแม่ต่างสอนให้เธอลักเล็กขโมยน้อยเป็นอาชีพ แต่เรื่องราวทุกอย่างกลับเริ่มบานปลาย เมื่อพวกเขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน จนกระทั่งได้พบกับแนวร่วมหัวขโมยคนใหม่อย่าง Melanie (Gina Rodriguez) เหตุการณ์ไม่คาดฝันและเรื่องราววุ่นๆ จึงเกิดขึ้น ทำให้ Old Dolio ที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร้หัวจิตหัวใจ ได้สัมผัสและรู้จักกับคำว่า “รัก” อย่างแท้จริง

เมื่อพูดถึงหนัง LGBTQIAN+ หลายคนอาจมองข้ามเรื่องนี้ไป ด้วยเพราะประเด็นหลักของมัน คือการบอกเล่าถึงปัญหาครอบครัว ฉายให้เห็นถึงปลายทางผลผลิตของคนชายขอบ ที่ถูกสังคมผลักออกจากกรอบตรงกลาง คล้ายเป็นการตั้งคำถามถึงบทบาทของพ่อ แม่ และสังคม ว่าเด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาอย่างไร ในสภาพแวดล้อมที่บีบบังคับให้พวกเขาต้องเอาตัวรอด แต่ความงดงามของมัน คือการทำให้เราได้เห็นว่า แม้ Old Dolio จะถูกเลี้ยงดูอย่างไร้ความรัก ความเอาใจใส่ และหล่อหลอมให้เธอเติบโตมาอย่างไร้ความรู้สึก ไร้หัวจิตหัวใจ แต่เนื้อแท้ข้างในนั้นแสนเปราะบางและพร้อมบุบสลาย หากแต่เศษซากผุพังของเธออาจประกอบขึ้นใหม่ได้ ด้วย “รัก” จากใครบางคน

นี่คือหนังที่จะทำให้เราได้ปลดปล่อยทั้งน้ำตาและหัวใจ เยียวยาทุกบาดแผลและโอบกอดเราไว้ ไปพร้อมๆ กัน

Handsome Devil (2016)

Handsome Devil Trailer

โดย First S.

คนเราไม่จำเป็นต้องชอบเพียงอย่างเดียว
นายอาจจะเป็นทั้งนักรักบี้ และนักดนตรีได้เหมือนกัน

Handsome Devil เป็นหนัง LGBTQIAN+ coming-of-age ของเด็กชายในโรงเรียนประจำที่ประเทศไอร์แลนด์ ที่ชวนให้เรามองเห็นถึงความแตกต่าง และกล้าที่จะยอมรับมัน แม้ว่าคนในสังคมจะไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามันไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็เปิดรับมันซะ

เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของเด็กสองแบบในโรงเรียนประจำชายล้วน ที่แบบหนึ่งก็คลั่งไคล้กีฬารักบี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทีมนักกีฬาเอง หรือเป็นกองเชียร์ก็ตาม กับอีกแบบที่ไม่ได้สนใจกีฬาเลย แถมยังโดนบุลลี่อยู่บ่อยๆ เพราะความแตกต่างของเขาเอง ซึ่งเด็กในโรงเรียนแห่งนี้ก็ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เน็ดและคอเนอร์ก็เช่นกัน ทั้งคู่เป็นรูมเมท แถมยังเป็นเด็กหนุ่มทั้งสองแบบข้างต้นอีกด้วย

เน็ด เด็กผมแดงที่ดูอ่อนแอและเหมือนจะเป็นเด็กที่โดนบุลลี่อยู่บ่อยๆ ในโรงเรียน เพียงเพราะว่าเขาไม่สนใจกีฬา ชอบอ่านหนังสือ เล่นดนตรี แต่ทุกคนก็เอาแต่ล้อว่าเขาเป็นเกย์ เพียงเพราะเขาไม่ได้เหมือนเด็กในอื่นๆ ในโรงเรียนแค่เพียงเท่านั้น ต้องมาเป็นรูมเมทกับคอเนอร์ หนุ่มนักกีฬารักบี้ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ เพราะเป็นพวกโมโหร้าย ชอบใช้กำลัง ทำให้ต้องย้ายมาเรียนที่นี่แทน 

หลายคนอาจจะคิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในเรื่องนี้มันก็เหมือนคู่เกย์จากเรื่องอื่นรึเปล่า ต้องบอกเลยว่าทั้งความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ได้ไดรฟ์ไปในด้านโรแมนติกเลยเป็นหลัก แต่กลับชวนให้เราทบทวนและมองเห็นถึงพัฒนาการในด้านต่างๆ การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว การยอมรับคนอื่น ไปจนถึงการยอมรับตัวเองอย่างแท้จริง ถ้าใครอยากที่จะหาหนังอบอุ่นหัวใจ ก็ต้องห้ามพลาดกับเรื่องนี้

สามารถรับชมได้ทาง Netflix

The Half of It (2020)

รักครึ่งๆ กลางๆ (The Half of It) | ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ | Netflix

โดย เนยถั่วบนดวงจันทร์

The Half of it ภาพยนตร์แฝงปรัชญาแนว coming of age บอกเล่าถึง วัยรุ่น 3 คน ได้แก่ ‘พอล’ ที่ดันไปตกหลุมรักสาวสวยคนหนึ่ง ‘เอสเตอร์’ และเขาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปพูดคุยด้วย จึงจ้าง ‘เอลลี่ ชู’ หญิงสาวชาวเอเชียนักเรียนหัวกะทิที่รับจ้างเขียนเรียงความวิชาปรัชญาให้เพื่อนร่วมห้องอยู่ก่อนแล้ว เพราะขาดแคลนทางการเงินภายในครอบครัว ชู จึงยอมเขียนจดหมายรักเสมือนเป็นสื่อกลางสร้างสะพานรักให้พอลกับเอสเตอร์ แต่แล้วความรักอย่างลับๆ ก็เริ่มต้นขึ้น เพราะชูเองก็สนใจเอสเตอร์เช่นกันในการเขียนจดหมายรักตอบกลับกันและกัน แม้ชูจะเขียนในนามของ พอล ทว่าถ้อยคำที่แลกเปลี่ยนร่วมกันกลับมีบางสิ่งบางอย่างเชื่อมโยงพวกเธอให้ดึงดูดเข้าหากัน จนเส้นแบ่งกั้นเริ่มทลายเปลี่ยนแปรเปลี่ยนเป็นการเปิดใจซึ่งกันระหว่าง ชู และ เอสเตอร์

เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงตำนานว่า “เดิมทีมนุษย์มี 4 แขน 4 ขา 2 หัวติดกัน ก่อนจะถูกพระเจ้าทำให้แยกจากกัน นั่นทำให้มนุษย์ถวิลหาอีกครึ่งหนึ่งที่เคยเป็นคู่ของเราเสมอ” หากมองผิวเผินอาจดูเหมือนการตามหาคนรักเพื่อเติมเต็มชีวิต ทว่าหากมองลึกลงไปอีกคงไม่ได้มีแค่นั้น หนังชี้ชวนให้เห็นถึงชีวิตที่เรากำหนดเอง และหากมันผิดพลพาดก็สามารถที่จะเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้งเหมือนอย่างที่ชู ได้พูดไว้ ““ความรักคือการยินดีที่จะทำลายภาพวาดดีๆ ที่เราวาดขึ้นเพื่อโอกาสที่จะวาดภาพชิ้นใหม่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม” ด้วยการเล่าเรื่องไม่หวือหวา แต่บทพูดที่ลุ่มลึก กระทั่งสายตาระหว่างตัวละครเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ดึงดูดเราตลอดทั้งเรื่อง ถือเป็นภาพยนตร์คุณภาพงามที่ควรค่าแก่การดูถึงที่สุด

Gentleman Jack (2019-2022)

Gentleman Jack 🎩 Series 2 Trailer | BBC

โดย Pinot Noir

ซีรีส์แนวย้อนยุคจากฝั่งอังกฤษที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านไดอารี่ของ “Anne Lister” หญิงชนชั้นสูงผู้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์อังกฤษ ทุกเหตุการณ์ในช่วงชีวิตของเธอถูกบันทึกไว้ในไดอารี่กว่า 4 ล้านคำ และได้นักเขียนฝีมือดีอย่าง Sally Wainwright มาเรียบเรียง และถ่ายทอดให้เข้มข้น ขบขัน และคมคาย ตลอดทั้งเรื่อง

Gentleman Jack นำเสนอชีวิตของหญิงสาวที่มีจิตวิญญาณและลักษณะนิสัยไม่เข้าขนบของผู้หญิงในศตวรรษที่ 18 ด้วยความที่ Anne Lister ชอบเรียนรู้ ชอบเดินทาง ชอบทำธุรกิจ และที่สำคัญเธอรักและชื่นชอบผู้หญิง ทำให้ตลอดชีวิตเธอต้องหลบซ่อนความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เธอคบหาด้วยมาตลอด

ความพิเศษของ Gentleman Jack คือการสะท้อนประสบการณ์จริงระหว่างผู้หญิงสองคนในยุคสมัยที่การรักเพศเดียวกันยังไม่เป็นที่ยอมรับ การถูกตรีตราจากสังคมภายนอกเพียงเพราะตัวตนไม่เป็นไปตามกรอบที่สังคมกำหนดไว้ โดยเรื่องนี้จะชี้ให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิด การเติบโตของตัวละครในเรื่อง ซึ่งสะท้อนประสบการณ์ของการถูกกดทับ และความยากลำบากในแง่มุมต่าง ๆ ของคนในกลุ่ม LGBTQIAN+ ได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้ ซีรีส์ยังได้นำเสนอประเด็นที่เข้มข้น เช่น ครอบครัวที่สร้างบาดแผลให้ลูกหลาน การต่อสู้ทางธุรกิจ การเจรจาต่อรอง การชิงไหวชิงพริบระหว่างนักธุรกิจผู้หญิงและผู้ชาย ในบริบทที่กรอบปิตาธิปไตย และอำนาจของเพศชายเข้มข้นในยุคสมัยนั้น เรียกได้ว่าใครที่ชอบชมซีรีส์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวละครผู้หญิงที่ทั้งเก่ง และกระตือรือร้น มีความเป็นผู้นำ Gentleman Jack จะเป็นตัวเลือกที่ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน 

The Way He Looks (2014)

The Way He Looks Official Trailer Thailand

โดย Poyhooood (ภวังค์​หนัง​)

The Way He Looks ภาพยนตร์อินดี้แนว Coming-of-Age จากประเทศบราซิล ที่ได้ Daniel Ribeiro นั่งแท่นเขียนบทและกำกับด้วยตัวเอง มันถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ Leonardo (Ghilherme Lobo) เด็กหนุ่มผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็นตั้งแต่เกิด ทำให้เขาต้องพบเจอกับอุปสรรคอยู่บ่อยครั้ง ทั้งจากชีวิตประจำวันและในรั้วโรงเรียนเองก็ตาม หากไม่พบเจอกับ Giovana (Tess Amorim) เพื่อนสนิทที่คอยดูแลและช่วยเหลืออยู่เสมอ ชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายและไร้สีสันดำเนินไปอย่างปกติ จนกระทั่งเด็กหนุ่มอัธยาศัยดีอย่าง Gabriel (Fabio Audi) ย้ายเข้ามาเป็นเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ ก้าวแรกที่ Gabriel เดินเข้ามา ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่นำพาแสงสว่างมาสู่ชีวิตอันมืดมนและสับสนของ Leonardo ด้วยเช่นกัน

หนังพาเราร่วมสำรวจไปในช่วงวัยแห่งความสับสน ทั้งเรื่องตัวตน เพศ และอนาคตการเรียนของเด็กมัธยมคนหนึ่ง ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เขาต้องเผชิญ ยามถูกผลักให้แปลกแยกและเป็นอื่น เพียงเพราะ “ความแตกต่าง” ของตัวเอง ในขณะเดียวกัน มันก็นำเสนอให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันอบอุ่นของครอบครัว มิตรภาพอันงดงามระหว่างเพื่อน และความรักอันบริสุทธิ์ระหว่างเด็กผู้ชายทั้งสองคน เป็นการย้ำเตือนได้ดีว่าบางสิ่งบางอย่างแม้ไม่อาจมองเห็นด้วยตา ก็ไม่ได้ทำให้เราสูญเสียความรู้สึกที่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ

The Way He Looks เป็นหนังที่อบอวลไปด้วยมวลแห่งความสุข ที่เราอยากให้หลายคนได้มาพิสูจน์ ร่วมออกเดินทาง ก้าวข้ามผ่านวัย และปล่อยให้ “แสงสว่าง” นำทางไปด้วยกัน

Genera+ion (2021)

HBO Asia | Genera+ion trailer

โดย sharphorn

หากเอ่ยถึงซีรีส์วัยรุ่นทางช่อง HBO แล้ว ใครๆ ก็คงนึกถึง Euphoria กันทั้งนั้น น้อยคนนักที่จะรู้จัก Hidden gem อย่าง Genera+ion (2021) ในขณะที่ Euphoria พาผู้ชมไปสำรวจโลกสีเทาเข้มของวัยรุ่น Genera+ion เลือกที่จะพาเราไปสำรวจ เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และโอบอุ้มโลกสีรุ้งของกลุ่มนักเรียนไฮสคูลในรัฐแคลิฟอร์เนีย

ใน Genera+ion นั้นไม่มีตัวละครใดเป็นตัวหลักชัดเจนเพราะแต่ละคาแรคเตอร์ต่างก็โดดเด่น ต้องเผชิญปัญหา และก้าวข้ามอุปสรรคแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการตั้งครรภ์ในวัยเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างครู-นักเรียน เฟมินิสต์ อาการจิตเวช รวมถึงชีวิตของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศซึ่งถือเป็นจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ 

Genera+ion ถือเป็นหนึ่งในโชว์ที่มี LGBTQIAN+ representation ที่หลากหลายที่สุดเลยก็ว่าได้ น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นตัวละครที่เป็น asexual ผ่านสื่อแบบนี้ นั่นถือว่าเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่ทำให้เราเห็นภาพได้ชัดมากยิ่งขึ้น และหลายคาแรคเตอร์ในเรื่องก็รับบทโดยนักแสดง LGBTQIAN+ จริงๆ โดยเฉพาะ Sydney Mae Diaz ทรานส์เจนเดอร์ที่ได้มารับบทเป็น cis gender ในซีรีส์เรื่อง

ถึงแม้ว่า Genera+ion จะถูกแคนเซิลหลังจากสร้างได้เพียง 1 ซีซั่นไปอย่างน่าเสีย แต่เชื่อว่าเพชรสีรุ้งเม็ดงามเรื่องนี้จะอยู่ในลิสต์ซีรีส์แนะนำของทุกคนแน่นอน

DC’s Legends of Tomorrow (2016-2022)

Gideon Joins The Legends - Legends of Tomorrow 7x03 (100th Episode) | Arrowverse Scenes

โดย Zugroß

DC’s Legends of Tomorrow ซีรีส์ซุปเปอร์ฮีโร่ในจักรวาล Arrowverse ที่มีจุดกำเนิดจากการรวมกลุ่มซุปเปอร์ฮีโร่เกรดซีนั่งยานย้อนเวลาออกไปแก้ไขเหตุผิดปกติในประวัติศาสตร์ เหตุผลที่ถูกเลือกขึ้นยานนั้นสุดจะดราม่าคือเป็นพวกที่ไม่มีความสำคัญต่อไทม์ไลน์ ฟังดูแล้วอาจเป็นซีรีส์แอคชั่นจริงจัง แต่เปล่าเลย เพราะเรื่องนี้เน้นความตลก แฟนตาซี และกาวสุดเหวี่ยง ดูได้จากตัวละครที่โผล่มาในทั้ง 7 ซีซั่น เช่น ยูนิคอร์นกินหัวใจมนุษย์ กอริลล่ายักษ์ลักพาตัวโอบาม่า ตุ๊กตาขนฟูสีฟ้าต่อสู้กับปีศาจโบราณ (Praise Beebo!)

แม้ว่าเหล่าเลเจนด์ (ใช่แล้ว พวกเขาเรียกตัวเองแบบนี้) อาจไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่ต้นแบบ ไม่เคยดำเนินตามแผนการที่วางไว้และกลับสร้างหายนะกว่าเดิมในบางครั้ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นและเป็นหัวใจของซีรีส์เรื่องนี้คือ ‘การยอมรับในความแตกต่างของแต่ละคน‘ ทั้งในเรื่องของเชื้อชาติ ศาสนา เพศ เป้าหมายในชีวิต ทุกคนล้วนมีความสำคัญและได้เล่าเรื่องของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการถูกมองเป็นผู้ก่อการร้ายของชาวมุสลิม การถือศีลอด การไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ การให้คนผิวดำพูดถึงการใช้แรงงานทาสเองโดยไม่ต้องผ่านมุมมองของคนผิวขาว การมีซุปเปอร์ฮีโร่สูงวัยชาวยิว และที่สำคัญซีรีส์เรื่องนี้สนับสนุน LGBTQIAN+ อย่างแท้จริง ด้วยการมีกัปตันร่วมของยานเป็นคู่แซฟฟิค ไบเซ็กชวลและเลสเบี้ยน ที่เป็นคู่ชีวิตด้วยเพราะพวกเขาแต่งงานกันแล้ว (เย้!) นอกจากนี้ยังมีตัวละครไบเซ็กชวล เกย์ชาย แพนเซ็กชวลที่เป็นนอนไบนารี่ และน้องใหม่ล่าสุดคือ อะเซ็กชวลที่เพิ่งคัมเอาท์ไปเมื่อซีซั่น 7

ท่ามกลางความวุ่นวายของโลกชีวิตจริง อยากเชิญให้ทุกคนลองมาสัมผัสความกาวแฝงสาระ และอ้อมกอดแสนอบอุ่น ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชายขอบของสังคมหรือมนุษย์สุดห่วยแค่ไหน แต่ครอบครัวเลเจนด์พร้อมโอบรับทุกคนอย่างจริงใจ ร่วมติดตามแก๊งที่บอกว่า “We screw things up for the better” แก๊งนี้ได้ทาง Netflix และ HBO GO

Her Story (2016)

HER STORY | For Your EMMY Consideration: Her Story

โดย First S.

TW: Transphobic

หากคุณเคยสงสัยว่า แท้จริงแล้ว ทรานส์วูแมนสามารถเป็นแซฟฟิคหรือเป็นคนกลุ่มหญิงรักหญิงได้หรือไม่ อ่านบทความ L with the T แล้วก็ยังสงสัยอยู่ว่ามันจะมีปัญหาแบบนั้นจริงๆ หรือ ที่ทรานส์วูแมนยังโดนเหยียดจากกลุ่มเลสเบี้ยนอยู่ Her Story จะมาเผยเรื่องราวในส่วนนี้ให้คุณเห็นกัน และทำความเข้าใจว่า ในกลุ่มของเลสเบี้ยนเอง ก็ยังมีการกีดกันกลุ่มคนข้ามเพศอยู่ดี

Her Story (2016) เรื่องราวของทรานส์เจนเดอร์สองคนในโลกที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว กับการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ ที่แม้กระทั่งคนในคอมมูนิตี้ LGBTQIAN+ ที่ยังคงกีดกันคนในกลุ่มนี้กันเอง ซึ่งทรานส์เจนเดอร์ทั้งสองคนก็คือ ไวโอเล็ต และ เพจ สำหรับไวโอเล็ตเป็นทรานส์วูแมนที่คนอื่นเห็นแล้วก็อาจจะรู้ แต่สำหรับเพจ เธอเป็นทรานส์วูแมนที่ไม่ได้ปิดบัง แต่คนอื่นๆ ก็จะมองไม่ออกว่าเธอเป็นคนข้ามเพศ

เรื่องราวมันเกิดขึ้นเอาตอนที่ อัลลี่ เลสเบี้ยน นักเขียนบทความเกี่ยวกับ LGBTQIAN+ มาขอสัมภาษณ์ไวโอเล็ตลงนิตยสารของเธอ ไปๆ มาๆ ก็เกิดสปาร์คกัน แต่ว่าไวโอเล็ตอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ที่ความสัมพันธ์นั้นก็เป็น Toxic Relationship แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นมา อัลลี่ก็เลยอยู่เป็นเพื่อนคอยปลอบคอยให้กำลังใจกัน จนกระทั่งวันที่ไวโอเล็ตตัดสินใจเดินออกจากความสัมพันธ์นั้น

ซึ่งตัวซีรีส์ทำให้เราเห็นได้ชัดเลยว่ากลุ่ม cis women ก็ยังคงเหยียดทรานส์วูแมนอยู่ดี อีกทั้งคอมมูนิตี้เลสเบี้ยนก็ยังคงกีดกันคนข้ามเพศอยู่เช่นกัน แม้ว่าอัลลี่จะพยายามป้อนข้อมูลให้กับกลุ่มเพื่อนแล้วก็ตาม แต่ใจคนมันจะเหยียดก็ยังคงเหยียดอยู่วันยังค่ำ นอกจากนี้แล้ว ตัวซีรีส์เรื่องนี้ยังพาเราไปให้เห็นถึงช่วงเวลาและความรู้สึกของทรานส์เจนเดอร์ ทั้งความรู้สึกตอนที่เธออยู่กับผู้ชาย และความรู้สึกกังวลเวลาที่อยู่กับผู้หญิง ว่าเธอจะไม่กลมกลืนไปกับกลุ่มคนเหล่านั้นหรือไม่ ใครจะสังเกตเห็นบ้างนะ ไปจนถึง การที่เธอเป็นทรานส์เจนเดอร์ มันจะทำให้เธอชอบผู้หญิงไม่ได้รึเปล่า เป็นตัวตลกในมุมมองของคนอื่นหรือไม่ ต้องลองไปรับชมกัน

Her Story เข้าชิง Emmy ปี 2016 รับชมได้ทาง YouTube

Giant Little Ones (2018)

GIANT LITTLE ONES trailer | BFI Flare 2019

โดย GR

ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับใคร แต่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจตัวเอง

ภาพยนตร์นอกกระแสแนว Coming of age ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย แต่น่าจะโดนใจคนวัยกำลังค้นหาตัวเอง บอกเล่าเรื่องราวของวัยรุ่นวัยวุ่นที่โฟกัสไปที่ Franky (Josh Wiggins) และ Ballas (Darren Mann) สองเพื่อนรักที่วันหนึ่งดันมีเรื่องให้หักเหลี่ยมโหด เมื่อคืนหลังปาร์ตี้วันเกิดของ Franky กลับนำพามาซึ่งเหตุการณ์ที่เขาสองคนเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน และมันก็ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองอย่างยากที่จะหวนกลับ

Giant Little Ones ดำเนินเรื่องไปอย่างไม่หวือหวา ซึ่งถือเป็นเสน่ห์สำคัญของมัน หนังพาเราไปเฝ้าดูชีวิตของวัยรุ่นที่กำลังเจอกับความทุลักทุเล ความไม่มั่นใจ ความสงสัย และความกลัวที่จะต้องเข้าไปสัมผัสกับตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง รวมถึงถ่ายทอดถึงความสำคัญของสภาพแวดล้อมรอบข้าง ว่ามีผลต่อชีวิตของเด็กคนหนึ่งได้มากแค่ไหน นอกจากนี้ยังสอดแทรกประเด็นเรื่องของครอบครัว, Sexual Harassment ในวัยรุ่น และการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนอีกด้วย 

ด้วยเนื้อเรื่องที่ดูไม่มีอะไร กลับทำให้รายละเอียดเล็กๆ ในนั้นสำคัญขึ้น เราชอบที่สุดท้ายแล้ว หนังไม่ได้เฉลยในสิ่งที่อาจจะเป็นข้อสงสัยสำหรับใครหลายคน แต่มันกลับไม่ได้ทิ้งความรู้สึกค้างคาใจไว้ให้เลยสักนิด

หวังว่า 1 ชั่วโมง 33 นาทีของหนังเรื่องนี้ จะทำให้คุณพบเจอกับความสบายใจที่จะเป็นตัวเอง แม้จะเพียงมุมเล็กๆ ก็ยังดี

They (2017)

They - Official Trailer

โดย First S.

ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของ J วัยรุ่นตอนต้นที่ต้องก้าวข้ามผ่านเหตุการณ์และสถานการณ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทบทวนกับตัวเองเกี่ยวกับการข้ามเพศ การใช้ชีวิตในวงสังคม การทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ การเลือกแต่งกายที่ตัวเองต้องการ ไปจนถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับเพศสภาพของตัวเอง

ด้วยความที่หนังเรื่องนี้พูดถึงความพร่าเลือนของกรอบต่างๆ ตัวของผู้กำกับเองก็เลือกที่จะถ่ายทอดตัวของ J ผ่านทางเงาสะท้อนของกระจก หรือเบลอภาพของเจ และถ่ายทอดออกมาให้เราได้เห็นถึงภาพเหล่านั้น ซึ่งเราเองก็รู้สึกไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ และรู้สึกว่าผู้กำกับเขาตัดสินใจได้ดีมากๆ อีกด้วยที่จะเลือกการสะท้อนความเบลอเหล่านั้นออกมาให้เราได้รับชมกัน

เรื่องราวของ They เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์สั้นๆ ที่พี่สาวของเจกลับมาเยี่ยมบ้านพร้อมพาแฟนหนุ่มชาวอิหร่านมาด้วย ซึ่งเธอก็ได้บอกแฟนตัวเองแล้วว่าน้องของเธอใช้สรรพนามว่า they นะ เป็นใครก็อาจจะงง แต่แฟนของพี่สาวเขาเลือกที่จะถามทุกครั้งเมื่อไม่เข้าใจ มันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราสามารถถามได้ และแน่นอนว่าเจและพี่สาวของเจก็พร้อมที่จะอธิบายให้กับแฟนพี่สาวให้เข้าใจอีกด้วย ซึ่งมันทำให้เราเห็นเลยว่า มันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่ผู้กำกับตัดสินใจที่จะใส่มันลงมาให้เราได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

และท่ามกลางการตัดสินใจระหว่างสองสิ่ง ซึ่งมันชวนให้เรากลับมาคิดทบทวนว่าทางเลือกมันมีแค่นั้นจริงๆ เหรอ เราจะเป็นที่จะต้องเลือกจริงๆ ใช่หรือไม่ นอนไบนารี่จำเป็นที่จะต้องเลือกระหว่างสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่งจริงๆ หรือไม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ชวนให้เรากลับไปคิดต่อถึงทางเลือกเหล่านั้น และอาจจะทำให้คุณฉุกคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง ที่คุณอาจจะเคยหลงลืมไป

Previous

Horsegirl ปล่อย Versions of Modern Performance อัลบั้มเต็มชุดแรกออกมาให้ฟังกันแล้ว

Stillwater กำลังจะเข้าฉายใน HBO GO วันที่ 18 มิถุนายนนี้

Next