“It’s not “bromantic”, it’s ROMANTIC.” – Taika Waititi
(นี่ไม่ใช่มิตรภาพลูกผู้ชาย นี่คือความรัก)
หลังการเปิดตัวซีรีส์ Our Flag Means Death ไปในวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาอย่างเงียบเชียบเมื่อเทียบกับการโปรโมทเปิดตัวซีรีส์เรื่องอื่นๆ ในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ กลุ่มแฟนๆ ในโลกอินเทอร์เน็ตกลับก่อตัวกันขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งงานแฟนอาร์ตและแฟนฟิคชั่นถูกสร้างขึ้นอย่างล้นหลาม กระแสตอบรับดีเกินความคาดหมายทั้งจากมุมมองของทีมผู้สร้างและผู้ชม อะไรกันที่ทำให้ซีรีส์คอเมดี้ความยาวสิบตอน ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับยุครุ่งเรืองของโจรสลัด ให้กลายเป็นที่รักของผู้คนได้มากขนาดนี้ โดยเฉพาะแฟนๆ ในกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศและพันธมิตร ที่ต่างกล่าวกันว่านี่คืออีกก้าวที่สำคัญของสื่อบันเทิงที่มีการนำเสนอความหลากหลายอย่างที่ควรจะเป็น ผ่านสื่อ Pop culture ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยนักในวงการที่เต็มไปด้วยเนื้อหาแบบเควียร์เบต (Queerbait) ที่สร้างความผิดหวังให้พวกเขามานับครั้งไม่ถ้วน
แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงที่เหลือเชื่อ
Photograph by Aaron Epstein/HBO Max
Our Flag Means Death หยิบเอาเรื่องราวของ Stede Bonnet บุรุษชนชั้นสูงที่มีทุกอย่างพรั่งพร้อมทั้งเงินทองและที่ดินอีกมากมายในบาเบดอส เขตการปกครองอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ ผู้มีความฝันอยากเป็นโจรสลัด นั่นทำให้เขาทิ้งทุกอย่างและออกตามล่าความฝันของเขาในทะเลแคริเบียนด้วยเรือชื่อ The Revenge จนได้สมญานามว่า Gentleman Pirate (สุภาพบุรุษโจรสลัด) จากการที่เขาเขียนกฎเกณฑ์ของเรือโจรสลัดของตัวเองที่แหกกรอบธรรมเนียมปฏิบัติของโจรสลัด อย่างการจ่ายเงินเดือนให้ลูกเรือ และการพกเอาวิถีชีวิตหรูหราไปบนเรือกับเขาในรูปแบบของห้องสมุดและเตาผิงส่วนตัว แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษผู้ดีของเขานี่เอง ทำให้เขาไม่ใช่กัปตันเรือที่ลูกน้องเกรงกลัวหรือให้ความเคารพมากนัก จนกระทั่งเขาได้พบกับโจรสลัดชื่อดังที่สุดแห่งยุคอย่าง Blackbeard กัปตันเรือที่ไม่ว่าใครก็รู้ถึงชื่อเสียงความบ้าเลือดและความโหดเหี้ยม บันทึกทางประวัติศาสตร์ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรชัดเจนมากนักว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้ Stede และ Blackbeard มีข้อตกลงที่จะเป็นกัปตันร่วมกันบนเรือ The Revenge บ้างว่าอาจจะเป็นเพราะ Blackbeard ต้องการเงินจาก Stede และตัว Stede เองก็ต้องการความน่าเกรงขามของ Blackbeard ในการคุมลูกเรือของตน ข้อตกลงการร่วมกันบัญชาการเรือเลยดูเป็นการยื่นหมูยื่นแมวที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล
แต่นั่นมันก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ของเรื่องนี้พอให้กับทีมผู้สร้าง Our Flag Means Death เติมจินตนาการของพวกเขาลงไปได้เยอะทีเดียว
ใครจะไปคาดคิดว่าซีรีส์ Romantic-comedy โดยมีตัวละครหลักเป็นโจรสลัดจะเป็นไปได้กันล่ะ? หลังจากที่แฟรนไชส์ดังอย่าง Pirates of the Caribbean จบลงไปพร้อมกับความสำเร็จในการเล่าเรื่องราวของโจรสลัดที่มักจะเชื่อกันว่ามันเป็นเนื้อหาต้องคำสาป ที่เมื่อกลายมาเป็นหนังทีไร ก็ต้องพังทุกที นี่เป็นอีกครั้งที่ความเชื่อของฮอลลีวูดถูกท้าทาย และ Our Flag means death ก็ได้พิสูจน์ว่าพวกเขาทำสำเร็จ
มหาสมุทรแห่งความหลากหลายกับเสียงหัวเราะที่ไม่ได้มาจากความเจ็บปวดของผู้อื่น
เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์
Photograph by Aaron Epstein/HBO Max
ทีมผู้สร้าง Our Flag Means Death อย่าง David Jenkins ในฐานะของ Creator/Show-runner กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Polygon ถึงการสร้างซีรีส์นี้เอาไว้ว่า
“ผมคิดว่านี่คือการเคลื่อนไหวที่แข็งเเกร่งและเรียบง่ายไปในเวลาเดียวกัน พวกเราก็เเค่ออกมาพูดว่า ‘ใช่แล้ว เรามีตัวละครที่เป็น Queer เเละ Non-Binary ในโชว์นี้’ ซึ่งมาในจังหวะเดียวกับปรากฏการระดับชาติที่กำลังพูดถึงในเรื่องนี้กันอยู่ ผมรู้สึกดีที่ผู้คนสามารถดูโชว์ของเราและเห็นพวกเขาเองรวมอยู่ในนั้น และผมก็รู้สึกว่า ‘ใช่ พวกเราเป็นสื่อหลัก พวกเราจะไม่ยอมโดยเขี่ยลงข้างทางแน่ๆ ’ นี่ไม่ใช่ซีรีส์สำหรับคนเฉพาะกลุ่ม นี่คือซีรีส์สำหรับทุกคน ซึ่งมันทำให้ผมแฮปปี้มากๆ ที่ผู้ชมรู้สึกแบบนั้น”
“I think that’s a strong move, and a simple move. We’re just saying [casually] , “Yeah, OK, we have queer and non-binary characters.” The fact that it’s lining up with this national moment means I feel good that people can watch the show and see themselves, and feel like, “Yes, we are mainstream. We’re not being shuttled off to the side.” It’s not a specialty show. It’s for everyone. It makes me so happy that it’s been received that way.”
ในบทสนทนาดังกล่าว ได้มีการพูดถึงเหตุการณ์ #DisneyWalkout การประท้วงของพนักงานบริษัท Disney ที่รวมตัวกันหยุดงานประท้วงการกีดกันเนื้อหาของ LGBTQIA+ ในสื่อของ Disney การลบเลือนตัวตนของตัวละคร LGBTQIA+ และการผ่านร่างกฎหมายที่เรียกกันสั้นๆ ว่า Don’t say gay bill ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นนโยบายการห้ามพูดถึงความสัมพันธ์เเละเพศวิถีที่มีความหลากหลาย นอกไปจากเพศสภาพตามกำเนิดและความสัมพันธ์แบบ Straight ในบทเรียนของนักเรียนที่อายุต่ำกว่าชั้นเกรด 3 ซึ่งถือความล้าหลังทางความคิดเป็นอย่างมาก
เดวิดไม่เพียงแต่สร้างความหลากหลายด้วยการรวบรวมนักแสดงมากความสามารถที่มีความหลากหลายในทุกด้านๆ แต่เขายังเปิดโอกาสให้เหล่านักแสดงได้ร่วมสร้างตัวละครไปกับเขาด้วย
นักแสดงหลักและผู้กำกับในบางตอนอย่าง Taika Waititi เป็นที่รู้จักจากภาพยนต์/ซีรีส์ Mockumentary (สารคดีเทียม) อย่าง What we do in the shadows และผลงานที่ชิงรางวัลออสการ์ปี 2020 อย่าง Jojo rabbit ภาพยนตร์ Dark comedy ที่หยิบเอาประเด็นที่อ่อนไหวของมนุษยชาติอย่างสงครามโลกครั้งที่สองและนาซีเยอรมัน มาเล่าผ่านสายตาของเด็กชายวัยสิบขวบที่มีเพื่อนในจินตนาการเป็นอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ซึ่งตัวเขารับบทนี้ด้วยตัวเองเป็นความท้าทายที่หลายๆ คนได้แต่ลุ้นตัวโก่งว่าเขาจะทำมันออกมาได้ดีหรือไม่ แต่ในที่สุดความเสี่ยงที่เขาตัดสินใจทำลงไปก็ออกมาเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องความโหดร้ายของสงครามได้ดีและสวยงามที่สุดอีกครั้งหนึ่ง
Photograph by Aaron Epstein/HBO Max
ใน Our Flag Means Death ไทก้า รับบทเป็น Blackbeard โจรสลัดผู้น่าเกรงขามแห่งมหาสมุทรแคริบเบียน เขาได้พูดถึงการทำรีเสิชเกี่ยวกับตัวละครในช่วงการเตรียมตัวก่อนการแสดงว่าเขาได้เห็นการตีความ Blackbeard ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในสารคดีใน Netflixจาก Pirate of the Caribbean รวมไปถึงภาพวาดจากหนังสือต่างๆ และเขาคิดว่านั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเบื่อ ผู้คนเห็น Blackbeard ในรูปแบบเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เเละเขาอยากจะสร้าง Blackbeard ในเวอร์ชั่นของเขาเอง
“เอาจริงๆ แค่การที่ไทก้ารับบทเป็น Blackbeard มันก็ฮาแล้วครับ” David Jenkins กล่าวเราจะได้เห็น Blackbeard ในชุดหนังเอวเกือบลอยที่ดูเหมือนสิงห์มอเตอร์ไซด์มากกว่าโจรสลัดตามกระแสนิยม (เดวิด : ‘ใช่ครับ มันไม่สมเหตุสมผลเลยเขาคงได้แต่ยืนเหงื่อท่วม’, ไทก้า : ‘สิงห์มอเตอร์ไซด์ในทะเลแหละน่า’) ที่กำลังตามหาสิ่งที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไรที่จะพาเขาหนีออกจากความน่าเบื่อของชีวิต Blackbeard ผู้ยิ่งใหญ่นี้ได้ เขาซ่อนความอ่อนโยนและอ่อนแอที่เขาซ่อนไว้ให้พ้นจากสายตาของลูกเรือทุกคนจนกระทั่งเขาได้พบกับ Stede Bonnet ตัวตนที่เขาพยายามผลักไสมาตลอดถึงกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
Stede Bonnet ตัวละครที่เขียนขึ้นจากบุคคลที่น่าสนใจที่สุดในประวัติศาสตร์โจรสลัดคนหนึ่ง ในซีรีส์เรื่องนี้ได้มีการใส่รายละเอียดที่ทำให้เขาเป็นคนที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก Rhys Darby เปิดเผยว่ามันค่อนข้างยากสำหรับเขาในการแสดงเป็นคนไม่ประสีประสากับการเดินเรือทั้งๆ ที่เขาเคยเป็นทหารเรือในกองทัพของนิวซีแลนด์มาก่อน แต่เขาหลงรักความเป็นสุภาพบุรุษโจรสลัดของ Stede และได้ดึงเอาความไม่เข้าท่าของตัวละครตัวนี้ ตีความออกมาเป็นคุณสมบัติของกัปตันที่ทุกคนหลงรัก
“We talk it through as a crew” (เราจะหันหน้าคุยกันอย่างลูกเรือ) – Stede Bonnet
Our Flag Means Death ไม่เพียงแต่พูดถึงความไลฟ์สไตล์ที่หรูหราไม่เข้ากับวิธีชีวิตโจรสลัดของ Stede แต่ยังพูดถึงแง่มุมที่เขานำพาความเจริญทางความคิดเข้ามาสู่กลุ่มลูกเรือของเขา อย่างการจ่ายเงินเดือน ถามความเห็น รับฟังข้อเสนอแนะ และเห็นทุกคนเป็นเพื่อนมากกว่าที่จะเป็นลูกน้องของเขา รวมถึงความโหดร้ายสไตล์สังคมชั้นสูงที่บ้าเลือด ป่าเถื่อนและสร้างความเจ็บปวดได้ดี ทัดเทียมกับคมดาบหรือลูกปืนของโจรสลัด อย่างการใช้คำพูดเป็นอาวุธเชือดเฉือนกันต่อหน้า กล่าวคือทักษะการต่อสู้ที่ Blackbeard ไม่เคยเจอและมีมาก่อนในชีวิต ไปจนถึงความอ่อนโยน ความเข้าอกเข้าใจของสุภาพบุรุษโจรสลัดคนนี้เองที่กลายมาเป็นศรปักอกของ Blackbeard ในที่สุด
Photograph by Aaron Epstein/HBO Max
ลูกเรือแต่ละคนของกัปตันทั้งสองนั้นมีชีวิตชีวาและเป็นที่น่าจดจำไม่แพ้ตัวละครหลักเลยแม้แต่น้อย จุดร่วมของลูกเรือโจรสลัดในฐานะของตัวละครที่อาจจะเป็นอีกหนึ่งมุมมองของการเล่าเรื่องราวของพวกเขาคือกลุ่มคนที่มีความสามารถเฉพาะตัวเแต่ขาดโอกาสที่จะแสดงมันออกมาและโดนกดทับด้วยค่านิยมของสังคม การจำลองภาพความหลากหลายในโลกออกมาเป็นกลุ่มคนขนาดเล็กที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในเรือลำหนึ่งทำให้เราได้เห็นว่าความแตกต่างทั้งวิถีชีวิต ความเชื่อ และเพศวิถีไม่ใช่ข้ออ้างของความเกลียดชังเลย
กฎหลักของเรือโจรสลัดก็คือ ”การห้ามมีผู้หญิงอยู่บนเรือเพราะจะนำโชคร้ายมาสู่การเดินทาง” ถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงอย่างน่าสนใจภายในหมู่ตัวละครลูกเรือ หลังจากตัวละคร Jim รับบทโดย Vico Ortiz นักแสดง Non-Binary เปิดเผยตัวออกมาว่าเขาใช่ผู้ชายอย่างที่ปลอมตัวมาตลอด คำถามที่ถูกพูดขึ้นกลางวงสนทนาของโจรสลัดก็คือ “แกไม่ใช่ผู้ชายอย่างนั้นเหรอ? ” “ไม่ใช่ว่าการเอาผู้หญิงขึ้นเรือมาจะทำให้เรือของเรามีโชคร้ายหรอกเหรอ? ” หรือ “แกเป็นนางเงือกหรือเปล่าน่ะ?”
จิมตอบกลับไปสั้นๆ ว่า “แล้วเรือมันล่มหรือยังล่ะ?”และหลังจากนั้นลูกเรือคนอื่นๆ ก็เริ่มพูดถึงจิมด้วยสรรพนาม (Pronounce) they/them แทนโดนทันที นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าการให้เกียรติและเคารพในตัวตนของคนอีกคนไม่ใช่อะไรที่ซับซ้อนเลย แม้แต่โจรสลัดเองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนเถื่อนก็ยังสามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ นี่อาจจะเป็นหนึ่งในข้อความที่ส่งออกไปจิกกัดสังคมปัจจุบันที่ในหลายครั้งความไม่เข้าใจไม่ได้มาจากความไม่รู้ แต่เป็นความไม่อยากจะเข้าใจเสียมากกว่า
ลูเซียสเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีความโดดเด่น ในฐานะของผู้จดบันทึกเรื่องราวประจำเรือ The Revenge เขาเป็นที่รักของทุกๆ บนเรือ ทั้งในด้านมิตรภาพที่ดีและความสัมพันธ์ที่ในเชิงโรแมนติกเเบบ Polymerous โดยความยินยอมจากทุกๆ ฝ่าย และเมื่อความสัมพันธ์และเพศวิถีของเขาถูกล้อเลียนจากตัวละครชื่อ Izzy Hand ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของปิตาธิปไตยในสังคมโจรสลัด ลูเซียสไม่ได้รู้สึกอับอายกับสิ่งที่เขาได้ยิน แต่เขาเดินเข้าเผชิญหน้ากับคนแก่ปากเสีย และทำให้เขากลายเป็นตัวตลกในสายตาของลูกเรือคนอื่นๆ แทน
ยังมีรายละเอียดอีกมากมายในซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนออกมาถึงความใส่ใจของทีมผู้สร้าง เสียงหัวเราะของเราเหล่าผู้ชมเกิดขึ้นจากมุกตลกที่สร้างมาด้วยความใส่ใจ ที่ทำให้เราหัวเราะได้อย่างมีความสุขและสบายใจไปกับทุกช่วงตอนของเรื่องราวโดยที่ไม่ต้องมาหวาดระแวงกับความตลกโบราณที่แฝงไปด้วยการล้อเลียนปมด้อยหรือความแตกต่างของผู้อื่นเหมือนที่หลายๆ สื่อในประเทศไทยยังคงสร้างซ้ำต่อไป
ในประเทศไทย สามารถรับชม Our Flag Means Death ได้แล้วผ่านแอปพลิเคชัน HBO Go พร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทย
ด้วยความยาวเพียงแค่สิบตอนนั้นไม่เพียงพอกับความต้องการของแฟนๆ ที่เริ่มทำการเรียกร้องกันผ่านแฮชแท็กบนทวิตเตอร์ #RenewOurFlagMeansDeath กันแล้ว ทาง HBO ยังไม่ได้มีท่าทีตอบรับกับกระแสเรียกร้องนี้แต่อย่างใด แต่ในฝั่งของทีมผู้สร้างและนักเแสดงต่างกล่าวขอบคุณแฟนๆ ตามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ และประกาศว่า พวกเขาพร้อมเสมอสำหรับการสานต่อซีรีส์เรื่องนี้ในซีซั่นต่อไป
แล้วคุณล่ะ พร้อมที่จะออกเดินเรือไปกับพวกเขาหรือยัง?
Bon Voyage!
sources:
- https://www.indiewire.com/2022/03/our-flag-means-death-taika-waititi-finale-love-story-interview-rhys-darby-1234709947/
- https://www.polygon.com/22996627/our-flag-means-death-season-2-plan-david-jenkins-interview
- https://www.youtube.com/watch?v=6R03t5QbrCM
- https://www.youtube.com/watch?v=VWhiTkIifyg
- https://www.youtube.com/watch?v=IYGaskFfyGo
- https://www.youtube.com/watch?v=FHFVEvYh_Bw
- https://www.youtube.com/watch?v=lYe722rfDgs