หากคุณกำลังมองหาซีรีส์แนว Sci-fi เหนือธรรมชาติ ที่ดูแล้วรู้สึกถึงพลังแห่งความเป็นหญิงอย่างเต็มเหนี่ยว เชื่อเถอะว่า Motherland: Fort Salem จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
ในโลกที่ผู้หญิงก้าวขึ้นเป็นผู้นำ อีกทั้งยังปราศจากบรรทัดฐานเดิมของสังคม
Motherland: Fort Salem เป็นเรื่องราวของสหรัฐอเมริกาในจักรวาลที่มีทั้งเหล่าพลเมืองและแม่มดอยู่ร่วมกันในสังคม แถมแม่มดเหล่านี้ยังคอยทำหน้าที่เสมือนรั้วของชาติ คอยเป็นแนวหน้าดูแลปกป้องพลเมืองด้วยกองทัพที่เต็มไปแม่มดเยาว์วัย หากแต่พลเมืองส่วนใหญ่จะยินดีกับการมีอยู่และการพยายามทำหน้าที่ของทหารเหล่านี้หรือไม่ คงต้องลองไปหาคำตอบกันเอาเองในเรื่อง
Motherland: Fort Salem
ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอความเป็นเฟมินิสต์ออกมาผ่านตัวละครผู้หญิงในเรื่อง โดยเฉพาะเหล่าแม่มดที่มีบทบาทสำคัญและเต็มไปด้วยพลังอย่างเห็นได้ชัด เพราะแค่เพียงตอนแรก ซีรีส์ก็แสดงให้เห็นถึงเหล่าแม่มดที่ทำได้ทั้งรักษาแผล, เรียกพายุ, ปั่นจิตใจ รวมทั้งกองทัพแม่มดอันทรงพลัง โดยพลังทั้งหมดทั้งมวลนั้นมาจาก “เสียง” ของพวกเขานั่นเอง — แต่ถึงอย่างนั้น หากลองมองดูดีๆ เหล่าแม่มดทั้งหลายที่ถูกเกณฑ์เข้าไปอยู่ในกองทัพนั้นไม่ได้ไปด้วยความเต็มใจทั้งหมด พวกเขาไม่ได้มีแม้แต่ทางเลือกด้วยซ้ำ (ชวนให้ผู้เขียนนึกถึงระบบเกณฑ์ทหารของเกาหลีใต้) แม่มดเหล่านี้ถูกส่งออกไปทำหน้าที่ปกป้องผู้คนที่ครั้งหนึ่งเคยจดจ้องเอาแต่จะเผาทำลายพวกเธอทั้งเป็น จุดนี้ถือเป็นประเด็นหนึ่งของซีรีส์ที่น่าสนใจ
แม้ว่าจะเต็มไปด้วยตัวละครผู้หญิงแสนสตรอง แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็มีตัวละครผู้ชายเช่นกัน แน่นอนว่ามีไม่มากเท่าจำนวนตัวละครผู้หญิง และตัวละครชายที่ได้โผล่มามักจะเป็นตัวละครที่มีความสัมพันธ์กับตัวละครหญิงอีกทีเท่านั้น อีกทั้งเรื่องนี้ยังนำเสนอผู้ชายในแบบที่มีไว้คอยหล่อเลี้ยงและค่อนข้างเป็นรองผู้หญิงอย่างเห็นได้ชัด อารมณ์เดียวกับสำนวนช้างเท้าหน้ากับช้างเท้าหลัง ต่างกันตรงที่ซีรีส์เรื่องนี้ตีความเรื่องบทบาทของเพศตรงข้ามกับบรรทัดฐานของเราเท่านั้น
นอกเหนือจากประเด็นที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น ยังมีประเด็นอื่นๆ อีกมากมายที่ทางซีรีส์ทำการสอดแทรกไว้ได้อย่างครบรส อาทิเช่น การนำเสนอความสัมพันธ์ของตัวละคร LGBTQIAN+ ในมิติใหม่ผ่านความสัมพันธ์ของ Raelle กับ Scylla ซึ่งในเรื่องนั้นไม่ได้ถูกมองว่าเป็น Queer relationship เสียด้วยซ้ำ เพราะในโลกของซีรีส์เรื่องนี้นั้นไม่มี Heteronorm (หรือบรรทัดฐานรักต่างเพศ ที่ทำให้เห็นหรือแสดงออกให้คิดว่าความสัมพันธ์แบบคู่ชาย-หญิง ถือเป็นสิ่งปกติ) เข้ามาครอบเหมือนกับโลกที่เราอยู่ในปัจจุบัน พวกเขาจึงไม่เคยถูกตั้งคำถามหรือถูกปฏิบัติแปลกแยกไป มิหนำซ้ำยังมีแรงเชียร์มากมายจากเพื่อนรอบตัวอีกด้วย
รวมถึงการนำเสนอผู้คนหลากหลายเชื้อชาติในซีรีส์ เช่น ตัวละคร Abigail ทายาทคนสำคัญของตระกูล Bellweather และ Anacostia หนึ่งในมือขวาคนสำคัญของกองทัพ ซึ่งทั้งสองเป็นผู้หญิงผิวดำด้วยกันทั้งคู่ หรือจะเป็นตัวละคร Gregorio ชายหนุ่มที่ถูกจับตามองว่าจะเป็นคู่หมั้นหมายที่เหมาะสมของ Abigail เองก็เป็นคนอินเดีย นอกจากนี้เรายังมีเหล่าแม่ทัพที่เป็นคนเอเชีย รวมถึงเหล่า Biddy ที่ไม่ได้มีแค่คนขาวอีกด้วย
อีกเรื่องที่ตัวผู้เขียนประทับใจในซีรีส์เรื่องนี้คือการที่ซีรีส์ไม่ได้นำเสนอแบบแยกฝั่งคนดี-คนเลวแบบชัดเจน ทุกฝั่งมีเหตุผลในการตัดสินของตัวเอง แถมเหตุผลนั้นยังมีแต่เหตุผลที่ฟังขึ้นเสียด้วย ทำเอาคนดูอย่างเราๆ เองก็ตัดสินใจเข้าข้างถูกเช่นกัน มิติสีเทาๆ นี้แหละที่ทำให้โลกของเหล่าแม่มดน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ทั้งประเด็นเล็กประเด็นใหญ่เหล่านี้ถูกสอดแทรกไว้ตลอดการดำเนินเรื่อง แถมยังทำได้กลมกล่อมเหลือเกิน Motherland: Fort Salem จึงถือเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด โดยสามารถรับชมได้แล้ววันนี้ผ่าน Disney+ Hotstar.