สำหรับแฟนๆ ซีรีส์ไซไฟสุดคลาสสิกอย่าง Doctor Who ก็ต้องบอกว่าเตรียมตัวให้พร้อม เพราะว่าปลายปีนี้ เตรียมรอชมซีซั่นใหม่ที่กำลังจะฉายได้เลย!
หลังจากที่ได้ร่วมพูดคุยและตอบคำถามต่างๆ เกี่ยวกับซีรีส์ชุดใหม่ กับทาง Comic-Con@Home แน่นอนว่าแฟนๆ ซีรีส์ Doctor Who ก็รอคอยและคาดหวังมากๆ ว่าในมันจะดำเนินไปในเส้นทางไหน และจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากเกรแฮมและไรอันตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ก่อนที่จะได้ไปผจญภัยกับด็อกเตอร์ พร้อมด้วยเทรลเลอร์แรกที่แฟนๆ รอคอยกัน
Doctor Who ซีซั่น 13 จะออกมาเป็นแบบไหน
สำหรับซีซั่น 13 นั้น จะเป็นเรื่องราวเดียวกันทั้งหมด ซึ่งจะแตกต่างจากซีซั่นก่อนๆ ของซีรีส์ชุดนี้ นั่นหมายความว่าในแต่ละตอนของ ด็อกเตอร์ฮู ซีซั่น 13 จะเชื่อมกัน Chris Chibnall ในฐานะโชว์รันเนอร์ก็บอกด้วยว่าภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เขาต้องเลือกว่าจะดำเนินเรื่องไปแบบไหน ระหว่างจะทำให้มันเป็นตอนเล็กๆ ที่อยู่ภายในห้องเดียว และไม่มีมอนสเตอร์เลย หรือจะออกไปผจญภัยแล้วทำให้มันเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “พวกเราจะไปยังสถานที่ที่แตกต่างกัน เต็มไปด้วยตัวละครและมอนสเตอร์ต่างๆ และทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ” เขายังบอกอีกด้วยว่า “มันเป็นสิ่งที่ทะเยอทยานที่สุดที่พวกเราเคยได้ทำมากับซีรีส์ชุดนี้ มันทั้งยิ่งใหญ่และทะเยอทยาน แล้วก็ได้ไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วย”
ในส่วนของสมาชิกใหม่ในทีมทาร์ดิสอย่าง John Bishop ผู้รับบท Dan Lewis ก็บอกว่า มันเป็นอะไรที่แตกต่างจากที่เขาเคยทำมาก่อน “ในฐานะที่ผมเคยเป็นสแตนอัพคอเมเดี้ยน และเคยแสดงมาบ้างเล็กน้อย แต่นี่มันเป็นซีรีส์สุดไอคอนิก ในสเกลระดับนานาชาติที่ใหญ่กว่าทุกอย่างที่ผมเคยทำมาก่อนเลย”
เขายังบอกอีกว่า “แล้วผมก็ได้เข้ามาสู่ครอบครัวนี้ ที่มันแตกต่างสำหรับผม เพราะแบบที่โจดี้บอกว่า พวกเรามีระเบียบนะ นั่นหมายความว่า คนที่อยู่ในจอก็จะไม่สวมมาสก์ แต่คนอื่นๆ ที่อยู่หลังกล้องก็จะสวมมาสก์กัน ตอนนี้ผมไม่รู้จักพวกเขาเลย พอผมเข้ามาในโลกนี้ ทั้งโจดี้กับแมนดิปก็รู้จักเหล่าทีมงานและชื่อของพวกเขาด้วย แต่ผมได้แค่เห็นแค่ดวงตาของพวกเขา ผมทำงานกับคนเหล่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแล้วผมก็อาจจะเดินผ่านพวกเขาบนถนน ถ้าพวกเขาเห็นใบหน้าทั้งหมดมันก็อาจจะทำให้ผมช็อกได้ แบบ ‘นี่มันคนที่ฉันทำงานด้วยตั้งแต่พฤศจิกาแต่ไม่เคยได้เห็นแม้กระทั่งคางของเขา’ เพราะงั้นนี่ก็คือโลกที่แตกต่างมากๆ สำหรับผม แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือผมดีใจมากๆ ที่ได้มาอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ซัพพอร์ตขนาดนี้ ในที่ที่ผู้คนต่างทำในสิ่งที่พวกเขาต้องทำเพื่อให้ซีรีส์ชุดนี้เดินหน้าต่อไปได้ และรวมไปถึงทุกๆ คนที่ผมได้พูดคุยด้วยทั้งนักแสดงรับเชิญ แล้วพวกเขาก็บอกว่า คุณรู้มั้ย จากงานอื่นๆ ที่พวกเขาได้ทำมา พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาได้รับการต้อนรับสู่พื้นที่ที่ดีและซัพพอร์ตกันอย่างมาก ที่จะพาให้ซีรีส์ไปถึงตอนจบให้ได้ ที่นี่ไม่มีอีโก้เลย”
ทางฟากของ The Doctor ที่รับบทโดย Jodie Whittaker นั้นก็บอกว่าที่พวกเขาไม่ได้สวมมาสก์ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของงาน Comic-Con@Home 2021 และอยู่ในห้องเดียวกันก็เพราะว่าพวกเขากำลังยังคงถ่ายทำด้วยกันอยู่นั่นเอง
ความรู้สึกครั้งแรกเมื่อก้าวเข้าไปในทาร์ดิส
จอห์นบอกว่ามันแปลก “มันไอคอนิกมาก ผมหมายถึง ไม่มีใครไม่รู้จักทาร์ดิส คือเวลาถ่ายทำมันก็แบ่งเป็นสองฝั่ง แต่นี่มันเป็นประตูจริงๆ ที่คุณเข้าไปได้ ในกองถ่ายในคาร์ดิฟฟ์ แล้วคุณก็ได้ไปอยู่ในนั้น ได้ไปอยู่ในที่นั้น ในที่ที่คุณเคยได้เห็นมาก่อน มันดีสำหรับผม มันค่อนข้างเต็มไปด้วยความรู้สึก เพราะว่าสัปดาห์แรกที่เราถ่ายทำก็คืออยู่แต่ในทาร์ดิส ผมได้อยู่ที่นี่ตั้งแต่วันแรก มันเจ๋งมากๆ มันเหมือนกับว่าคุณได้อยู่ในบางสิ่งที่มันสำคัญมากๆ และสำหรับคนนอกอย่างผมที่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ชุดนี้”
เขายังเสริมอีกว่า “มันเป็นสิ่งที่ผมจะต้องทำตัวให้ชินก็คือความจริงที่ว่า เวลาที่เราไปถ่ายทำในโลเคชั่นต่างๆ มันก็อาจจะมีกล้องตามไปด้วย นั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คาดหมายนะ แล้วมันก็มีอยู่ครั้งนึงในโลเคชั่นแรกที่เราไปถ่ายในคาร์ดิฟฟ์ตอนกลางคืน ปกติแล้วชาวบ้านก็จะหงุดหงิดเพราะว่าเราต้องปิดถนนและไม่มีใครอยากให้คุณอยู่ที่นั่น แต่สำหรับ ด็อกเตอร์ ฮู ที่ไปถ่ายตอนกลางคืนที่นั่น มันเต็มไปด้วยฝูงชน แล้วพอเรามองไปยังคนตรงนั้น พวกเขาก็แต่งตัวเหมือนกับตัวละครในเรื่องนี้ ผมก็แบบ ‘พวกเขารู้ได้ยังไงว่าพวกเราอยู่ที่นี่’ แล้วผมก็เปลี่ยนชุดคอสตูมแล้วก็ออกมา มันเป็นเวลาตีหนึ่ง!”
Vinder ตัวละครใหม่ใน Doctor Who ซีซั่น 13
นอกจาก John Bishop ผู้รับบท Dan Lewis แล้ว คริสก็บอกด้วยว่าตัวละครใหม่อื่นๆ ในซีรีส์ชุดนี้ก็ยังมีอีกเยอะมาก แล้วก็มีหลายคนเลยที่ได้เล่นในหลายเอพิโสด ซึ่งมันไม่เหมือนปกติกับซีรีส์ชุดนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ Jacob Anderson นักแสดงจาก Game of Thrones, นักดนตรีในชื่อของ Raleigh Ritchie ผู้รับบท Vinder เจคอบบอกว่าการที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน Doctor Who ก็คือความฝันวัยเด็กที่เป็นจริง มันเป็นช่วงเวลาดีๆ มากๆ
“ในวันแรกที่ผมไปที่กอง มันจะต้องมีการถ่ายรูปสำหรับสื่อก่อน แล้วผมก็หันไปเห็นประตูทาร์ดิสที่ปิดอยู่ ผมเลยแบบ ก่อนที่จะทำอะไร ผมขอทำอย่างนี้ก่อน มันเป็นโมเมนต์ทียิ่งใหญ่มากๆ สำหรับผม แล้วผมก็เดินเข้าไปในทาร์ดิส ผมได้อยู่ในทาร์ดิส ผมรู้สึกเหมือนอายุ 14 อีกครั้งนึง ได้ดูด็อกเตอร์ฮูครั้งแรก แล้วมันเป็นจริง มันเป็นสถานที่จริงๆ ที่แบบคุณจะไปไหนก็ได้ ผมสัมผัสทุกๆ ปุ่มในทาร์ดิส นี่มันเป็นความฝันของผมเลย ผมก็เลยตื่นเต้นมากๆ ผมทำทุกๆ อย่าง แต่ว่าผมเองก็มียานของตัวเอง มีปุ่ม มีสวิตช์ มีทุกๆ อย่างที่สามารถกดได้ สามารถเล่นได้ ผมรู้สึกเลยว่านี่แหละ ผมถึงบ้านแล้ว นี่คือสถานที่ที่ผมอยากที่จะอยู่ ผมดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับซีรีส์ชุดนี้ ได้ร่วมงานกับทีมงานทุกคน ทั้งคริส โจดี้ จอห์น และคนอื่นๆ ผมตื่นเต้นมากๆ ที่ได้รับบท Vinder และรอไม่ไหวแล้วที่จะให้คนอื่นได้เจอเขา ได้รู้จักเขา”
เขายังให้สัมภาษณ์กับ doctorwho.tv ด้วยว่า “The Doctor คือส่วนหนึ่งของชีวิตผมตลอดไป ตั้งแต่ดูและย้อนดูรายการทีวีบน VHS ตอนเด็กๆ และหวาดกลัว ไปจนถึงพบว่าน้ำตาซึมโดยไม่คาดคิด เมื่อ the 10th Doctor (รับบทโดย David Tenneth) บอกว่า ‘ฉันไม่อยากไป’ ผมเนี่ยต้องการอยู่ใน Whoniverse มาโดยตลอดเลย ตอนนี้ไม่เพียงแต่ความฝันของผมตลอดชีวิตได้เป็นจริงแล้ว แต่ยังได้เล่นเป็นตัวละครที่สนุก ผจญภัย และมีพลังเหมือน Vinder คือเชอร์รี่ที่อยู่ด้านบนสุด นี่มันเจ๋งมาก”
ตัวโชว์รันเนอร์อย่าง Chris Chibnall ก็บอกว่าเขาเคยเขียนบทสำหรับเจคอบในซีรีส์เรื่อง Broadchurch มาก่อน และเขาก็เป็นนักแสดงที่ดูดีมากๆ หลายคนอาจจะรู้จักเขาจากซีรีส์ Game of Thrones หรือในฐานะนักแสดง “ผมเขียนบทนี้ขึ้นมาเพื่อเขา เอาไปพิตช์เขา แล้วก็แบบ ขอร้องเขา ส่งบทไปให้เขา แล้วก็คุยกับเขาเยอะมากๆ คือเขาเป็นคนที่อบอุ่นนะ แต่เขาก็สามารถรับบทฮีโร่ที่ต่อสู้ได้อีกด้วย แล้วเขาก็เจ๋งมากๆ
และในการทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ในกองถ่าย ทุกคนล้วนแล้วแต่รักเขา Mandip Gill ผู้รับบท Yasmin Khan บอกว่า เขาเป็นคนที่น่ารักมากๆ ที่ได้ทำงานด้วย “มันเหมือนเป็นช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตเลย ตอนนั้นโจดี้ไม่ได้เข้ากองวันนึง แล้วเราก็คุยกันแบบเจ็ดชั่วโมงเลย” ทางฟากของโจดี้ก็เสริมด้วยว่า “ฉันได้วิดีโอจากทีมงานคนนึง ไม่สิ มันคือ whatsapp ที่กำลังอัดคลิปที่แมนดิปกำลังคุยกับเจคอบอย่างออกรส” ส่วนแมนดิปก็หัวเราะแล้วก็บอกว่า “ตอนนั้นเจคอบเหนื่อยมาก เราเหนื่อยกันมาก แต่สุดท้ายก็จบที่การระเบิดหัวเราะ มันสนุกมาก” เธอยังเสริมด้วยว่า “ตัวละครต่างๆ นอกเหนือจากคอมแพเนียน ก็จะไม่ค่อยได้อยู่ในซีรีส์ซ้ำๆ แต่ตัวละครของเขาก็กลับมาอยู่บ่อยๆ มันก็เลยเป็นโอกาสที่ดีที่ได้รู้จักกันและกัน ได้หัวเราะกัน และฉันก็ชอบที่จะได้ร่วมงานกับเขา”
Favourite Moment on season 13
Jodie Whittaker บอกว่า “ตอนที่ถ่ายทำร่วมกับ Jacob Anderson คือตัวละครของเราไม่จำเป็นจะต้องเป็นเพื่อนกับอีกตัวละครหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ที่เป็นช่วงการถ่ายทำฉากใหญ่ๆ ตอนอยู่ด้วยกันก็เป็นเพื่อนกัน แต่พอเข้าฉากแล้ว ก็เหมือนกลายไปเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย ตอนนี้พวกเราก็เลยกลายมาเป็นเพื่อนสนิทในชีวิตจริงกันเลย”
Mandip Gill บอกว่า “สิ่งที่ฉันรักมากที่สุดก็คือการที่ได้เฝ้ามองดูจอห์น เพราะว่าเขาชอบมันมาก มันแบบว่า พระเจ้า มันสนุกมากที่ได้ดูเขา ฉันหมายถึงว่า อย่างวันนี้ ตอนที่เขาเล่าว่าครั้งแรกที่เขารู้เกี่ยวกับกองถ่าย เขาก็จะแบบ นี่คือกองถ่ายใช่มั้ย ฉันแบบ ฉันก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน แบบสามปีก่อนฉันก็ยังแบบนี่มันไม่ใช่เรื่องจริง” จอห์นเสริมบอกว่า “ก็มันเป็นตึกเก่าๆ ที่ข้างในมีลิฟต์ขนส่ง แล้วผมก็เดินไปข้างหลังแล้วก็คิดว่า อ้าว นี่มันไม่ใช่ของจริง มีคนสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้เราใช้แสดงนี่” แมนดิปก็บอกต่อว่า “มีอยู่ครั้งนึงตอนเขาอยู่ข้างนอกในวันที่ถ่ายซีนกลางคืนที่ต้องเจอกับมอนสเตอร์ตัวเก่า แล้วจอห์นก็แบบ พระเจ้า นี่มันเจ๋งมาก ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วก็หนาวมากด้วย หลังจากนั้นสามชั่วโมง เขาก็แบบ พระเจ้า เราจะอยู่อีกนานแค่ไหน มันเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้ทำงานร่วมกับใครสักคนที่ตื่นเต้นกับกองถ่าย เพราะว่าพวกเราเห็นกองถ่ายเยอะมาก ฉันก็ยังคงตื่นเต้นกับมันอยู่นะ แต่มันก็ดีมากๆ ที่ได้เห็นคนอื่นตื่นเต้นกับมันไปพร้อมๆ กับฉัน”
John Lewis บอกว่า “มันมีหลายโมเมนต์มากๆ เลยตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ แล้วผมก็มองย้อนกลับไปพบว่ามันท้าทายสำหรับทุกๆ คนที่จะสร้างมันขึ้นมา ที่ผมอยากจะให้เครดิตกับ BBC กับคริส และทีมงานทุกคนที่สร้างมัน และในตอนนี้ที่เป็นช่วง pandemic มันก็เลยทำให้มุมมองต่างๆ มันต่างออกไป แล้วเราก็ยังสร้างมันขึ้นมาได้เหมาะสม แล้วถ้าให้เลือกช่วงเวลานึงก็คงจะเป็น ในคืนนึงที่พวกเราได้มีโอกาสนั่งทานมื้อเย็นด้วยกัน แล้วก็ไม่ได้ทำงาน ที่เรานั่งด้วยกัน แล้วก็เป็นเพื่อนกัน แล้วนั่นก็จะไม่เอามันจากไปไหนเลย มันเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ชุดนี้”
คำถามจากแฟนๆ
- สิ่งที่ตื่นเต้นที่สุดที่จะได้แชร์ให้กับแฟนๆ
โจดี้บอกว่า “สำหรับ whovians ฉันตื่นเต้นที่พวกเขาจะได้เห็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์กับการได้พบกับมอนสเตอร์ตัวเก่าๆ” แมนดิปก็ตื่นเต้นมากๆ แต่เธอบอกว่าเธอจะไม่พูดว่าคือมอนสเตอร์ตัวไหน “มันเป็นสิ่งพิเศษมากๆ ที่ได้ทำงานร่วมกับมอนสเตอร์ตัวใหม่ แต่สำหรับมอนสเตอร์ตัวเก่าตัวนี้ ฉันตื่นเต้นสุดๆ เลย”
จอห์นบอกว่า “สำหรับซีซั่นนี้ คุณจะอยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากจบในแต่ละตอน”
- ถ้าเกิดสามารถสลับตัวละครได้ อยากเล่นเป็นใคร
แมนดิปบอกว่า “Master เวอร์ชั่น Sacha Dhawan เพราะว่าเขาแตกต่างจากตัวละครของฉัน ฉันแค่รักซาช่า รักวิธีที่เขาแสดง รักที่จะได้เฝ้ามองเขา อย่างวิธีที่เขาเปลี่ยนสิ่งต่างๆ วิธีที่เขาทำงานและอื่นๆ อย่างการที่ตัวละครปล่อยความร้ายออกมา และเวลาที่เขาซอฟต์ด้วย เพราะนั่นแหละ ตัวละครมาสเตอร์แตกต่างจากยาซมากๆ ฉันก็เลยอยากจะบอกว่าฉันเลือก the Master”
โจดี้บอกว่า “ฉันก็อยากจะบอกว่านิคนะ แต่ฉันขอเลือก Missy เหตุผลก็คล้ายๆ กัน มันแบบ เหมือนอยู่ในโลกเดียวกัน แต่แบบ Michelle Gomez เต็มไปด้วยเอเนอจี้ที่น่ามหัศจรรย์มากๆ แล้วเรื่องราวของเธอ มันได้รับการเล่าออกมาด้วย”
จอห์นบอกว่า “ผมคิดว่าพวกเขาจะเลือก Geaham ซะอีก เพราะพวกเขารักแบรดลีย์มากๆ”
คริสบอกว่า “Rory Pond”
- 1 คำสำหรับ Doctor Who season 13
แมนดิป: Riveting (โลดโผน)
โจดี้: Mysterious (ลึกลับ)
จอห์น: Inspirational (สร้างแรงบันดาลใจ)
คริส: Swarm (กลุ่มคนจำนวนมาก)
source:
- https://www.doctorwho.tv/news/?article=jacob-anderson-series-13-doctor-who-vinder-thirteenth-doctor
- https://www.youtube.com/watch?v=QzDthngLyDU