เมื่อเอ่ยชื่อวง Måneskin (อ่านออกเสียงว่า โมเนสเก้น/โมเนสกิน) วง Glam Rock จากกรุงโรม หลายคนก็คงจะคุ้นหูจากผลงานของพวกเขาที่ปล่อยออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่พวกเขาเข้าประกวดการแข่งขันดนตรีรายการ Eurovision ในฐานะตัวแทนของประเทศอิตาลี เมื่อปี 2021 และคว้ารางวัลกลับมาครอง นั่นก็ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะในฐานะผู้ชนะรายการ สไตล์การแต่งตัว หรือแม้กระทั่งสไตล์ดนตรีแกลมร็อคสุดจัดจ้าน ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นที่จับตามองของคนทั่วทั้งโลกนับตั้งแต่นั้นมา และล่าสุด พวกเขาที่ปล่อยเพลงประกอบภาพยนตร์ Elvis ในชื่อ If I Can Dream ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกัน
Måneskin แกลมร็อคสุดเท่จากอิตาลี
องค์ประกอบที่ลงตัวของสมาชิกวงทั้งสี่คนที่มี Damiano David ในตำแหน่งนักร้องนำ Victoria De Angelis รับหน้าที่เป็นมือเบส Thomas Raggi มือกีตาร์และ Ethan Torchio ในตำแหน่งมือกลอง ความสัมพันธ์ของสมาชิกทั้งสี่คนเริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่การเรียนไฮสคูลที่ Monteverde ในกรุงโรม ทั้งสี่คนมีความสนใจร่วมกันในการทำวงดนตรีและได้ก่อตั้งวงขึ้นมาเป็นครั้งแรกในปี 2016 และชื่อ Måneskin แปลว่า Moonshine /Moonlight เเปลว่าเเสงจันทร์ ซึ่งวิกตอเรียเสนอขึ้น เพราะคิดว่าคงเจ๋งดีถ้าใช้ภาษาเดนิชซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาแม่ของเธอมาเป็นชื่อวง ในตอนที่พวกเขาลงสมัครแข่งขันการวงดนตรีท้องถิ่นชื่อ “Pulse” ซึ่งนั่นเองทำให้วงของพวกเขาออกเดินสู่หนทางของการแข่งขัน
ก่อนที่พวกเขาจะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง พวกเขามักจะทำการแสดงแบบเปิดหมวกอยู่เป็นประจำในจุดสำคัญๆ กรุงโรมอย่าง Via del Corso และได้เดินทางไปทำการแสดงเล็กๆ ที่เดนมาร์คก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขันในรายการชื่อดังอย่าง X factor
แม้ว่าผลการแข่งขันในรายการ X factor จะออกมาเป็นผู้ชนะอันดับสอง แต่ตัวตนและสไตล์ของวงมีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากการได้เข้าแข่งขันในรายการนี้ โดยเฉพาะสไตล์การแต่งตัวที่มีความเซ็กซี่และ Genderless มากขึ้นของตัวดาเมียโนเอง (ที่เลือกใช้ Pole dancing เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของโชว์ด้วย)
หลังจากการปล่อย EP เดบิวต์ Chosen ก็ได้ไต่ขึ้นสู่ชาร์จเพลงของอิตาลีและได้รับการรับรองเป็นชั้นแพลตินั่ม จากสหพันธ์อุตสาหกรรมเพลงแห่งอิตาลีไปในปี 2018 (การรับรองพิจารณาจากยอดขายของแผ่นซีดี/แผ่นเสียง/เทป หรือการสตรีม ในกรณีของชั้นแพลตินั่มนั้น หมายความว่า EP นี้มียอดขายมากกว่าหนึ่งล้านหน่วย)
การแข่งขันของวงยังไม่จบเพียงแค่นั้น ชัยชนะในรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอย่าง Senremo Music festival 2021 ทำให้พวกเขาได้กลายเป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในรายการ Eurovision ที่มีผู้เข้าชิงรางวัลจากประเทศทั่วยุโรปและออสเตรเลีย
การแสดงเพลง Zitti e buoni (เป็นบทเพลงเดียวกับที่คว้ารางวัลบนเวที Senremo Music festival 2021) บนเวทีขนาดใหญ่แต่วงไม่ได้จัดการแสดงอะไรที่ซับซ้อนอลังการ นอกเสียจากชุดที่ถูกออกแบบมาให้ดึงคาแรคเตอร์ของสมาชิกวงออกมาให้ได้มากที่สุด ผ้ามันเป็นประกายสีแดงม่วงตัดกับแพทเทิร์นการร้อยเชือกเป็นตัว X ไขว้พาดตัดไปตามลำตัว กางเกงขากระดิ่งและสไตล์การโชว์ร่างกายท่อนบนของสมาชิกชายทำให้หลายๆ คนนึกถึงไอค่อนของวงการร็อคแอนด์โรลอย่าง Jimi Hendrix หรือ Prince แต่มีดีไซน์ที่แตกต่างออกไปในตัวสมาชิกแต่ละคน มอบกลิ่นอายของความเป็น Glam Rock ที่ผู้ชมหลายๆ คนโหยหา
Glam Rock
Glam Rock เป็นอีกหนึ่งแขนงของวงร็อคที่มีต้นกำเนิดขึ้นมาในช่วงปี 1970 ในประเทศอังกฤษ โดยถูกใช้เป็นนิยามของวงดนตรีร็อคที่มีความจัดจ้านในด้านของเครื่องแต่งกายและการแต่งหน้าที่มีการหยิบจับองค์ประกอบของกลุ่มวัฒนธรรมย่อยต่างๆ อย่างความเป็น Camp (สไตล์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์น่าดึงดูดจากความไม่เข้าท่า/แฝงการเสียดสีสังคม) หรือ Androgynous (การแสดงออกอย่างไม่เป็นไปตามบทบาททางเพศที่สังคมนิยม) และส่วนประกอบเครื่องแต่งกายจากคาบาเร่ (Carbaret), เบอร์เลคส (Burlaques) หรือแม้เแต่แฟชั่นจากยุควิกตอเรียน มาปรับแต่งเป็นสไตล์ของวงหรือนักดนตรี ในส่วนของเพลงนั้นไม่มีรูปแบบที่ตายตัวนัก ส่วนมากมีการตีความว่า Glam Rock ได้รับอิทธิผลมาจากทั้งฝั่งป๊อปและร็อค
Måneskin กับการประกาศจุดยืนสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+
ความน่าสนใจของ Måneskin ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ชื่อของพวกเขาถูกประกาศเป็นผู้ชนะของรายการ Eurovision ดาเมียโนและโทมัสได้ทำการจูบกันบนเวทีจนเป็นที่พูดถึงของผู้ชมและสื่อหลายสำนักถึงการใช้ Stage gay เพื่อแสดงจุดยืนของการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ และต่อต้านความเป็น Homophobia ต่อหน้าตัวแทนจากหลากหลายประเทศที่ยังคงมีกฎหมายลงโทษคู่รักอื่นที่ไม่ใช่ชายหญิงอยู่
ในการสัมภาษณ์กับนิตยสาร Corriere della sera ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมาชิกวงได้เปิดเผยถึงเพศวิถี (sexual orientation) ของตัวเองอย่างชัดเจน โดยวิกตอเรียได้กล่าวว่าเธอเป็นไบเซกชวล, โทมัสเป็น Straight ในขณะที่อีธานให้นิยามของตัวเองว่า “Sexually Free” ส่วนดาเมียโนที่เพิ่งเปิดตัวแฟนสาวกับสาธารณะไปเมื่อไม่นานนี้ เขาได้บอกว่าตัวเขาเป็น “Hetero-Curious”
“Rock and roll never dies!”
อีกเรื่องที่น่าประทับใจของวงนี้นั้นก็คือ แม้ว่าพวกเขาคือผลผลิตจากช่วงปี 2000 (ดาเมียโนคือคนที่โตที่สุดในวง เขาเกิดปี 1999) ซึ่งถือเป็นยุคที่ความรุ่งเรืองของเพลงป๊อปมีสูงกว่าร็อคมาก จนมีประโยคพูดติดปากกันไปว่า ร็อคแอนด์โรลได้ตายจากโลกไปแล้ว Måneskin ได้ทำการพิสูจน์กับโลกแล้วว่าความหลากหลายของดนตรีไม่มีวันตายจากโลกนี้ไปได้ตราบใดที่ยังมีคนเชื่อในสิ่งนั้น
เราสามารถช่วยกันสนับสนุนพวกเขาได้ผ่านช่องทางการสตรีมใน Spotify, Youtube, Apple Music และแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกมากมายรวมถึงติดตามพวกเขาได้ผ่านทาง Website, Facebook และทาง Instagram
ส่วนความหวังที่จะได้เห็นพวกเขาเปิดการแสดงในประเทศไทยนั้นอาจจะดูริบหรี่เกินที่จะคาดหวังได้หากสถานการณ์ในประเทศยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่อย่างเพิ่งถอดใจกันไปล่ะ! :]