“Ammonite” คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีผู้กล่าวถึงจำนวนไม่น้อยหลังจากได้ทำการฉายรอบพรีเมียร์ในงาน Toronto Film Festival 2020 ที่ผ่านมาจากฝีมือกำกับการแสดงโดยผู้กำกับ Francis Lee ร่วมด้วยสองนักแสดงนำอย่าง Kate Winslet และ Saoirse Ronan และล่าสุดถูกนำเข้ามาฉายในไทย โดยจะฉายที่ House SAMYAN ในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสกันเลยทีเดียว
Ammonite จะมีเซตติ้งอยู่ที่อังกฤษในยุค 1840 ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักต้องห้ามระหว่างนักบรรพชีวินอย่าง Mary Anning ที่รับบทโดย Kate Winslet และหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว Charlotte Murchison ที่รับบทโดย Saoirse Ronan ซึ่งเรื่องราวนั้นจะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาว Charlotte Murchison ผู้เศร้าโศกเสียใจกับการสูญเสียลูกของเธอเมื่อเธอได้พบกับ Mary Anning ซึ่งถูกว่าจ้างจากสามีของชาร์ล็อตต์ให้มาดูแลเธอ แมรี่ช่วยให้ชาร์ลอตต์ก้าวผ่านความเศร้าได้ ก่อนจะเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่โรแมนติกขึ้นมา
Ammonite
การที่ Saoirse Ronan ได้มาทำงานร่วมกับ Kate Winslet ในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น เธอตื่นเต้นอย่างมาก เธอบอกกับ Xpose ในงานพรีเมียร์ของ Mary Queen of Scots เอาไว้ว่า “ฉันโตมาพร้อมกับการดูไททานิค แบบมันจะมีหนังที่คุณจะดูทุกคนก่อนคุณเข้านอน ของฉันคือไททานิค แล้วฉันก็บอกกับเคทเหมือนกันว่าใครจะไปคิดตอนแปดขวบว่าวันหนึ่งฉันจะได้จูบกับโรส แล้วก็ตกหลุมรักกันที่ชายหาด และใช่ ฉันตื่นเต้นมากๆ”
ตัวผู้กำกับอย่าง Francis Lee ให้สัมภาษณ์กับ The Film Stage ว่าเขารู้จักกับ Mary Anning ครั้งแรกในปี 2017 “ผมตระหนักได้ว่าแทบไม่มีอะไรเขียนถึงเธอเลย โดยเฉพาะในคนรุ่นราวคราวเดียวกัน มันก็เลยทำให้ผมถูกดึงดูดเข้าหาเธอโดยทันที เพราะว่าสถานการณ์เหล่านั้น ต่างสะท้อนความเป็นส่วนตัวให้กับผม เธอเป็นผู้หญิง ชนชั้นกรรมกรก็ว่าได้ เกิดมาในครอบครัวที่แร้นแค้น ในสังคมที่มีการแบ่งระดับชนชั้น แถมยังมีการศึกษาน้อยอีกด้วย แต่เธอมีความมุ่งมั่น และมีเซ้นส์ในการค้นหาฟอสซิลเหล่านั้น สิ่งเหล่านี้ก็เลยทำให้กลายเป็นสิ่งที่เราเรียกอย่างในปัจจุบันว่าเป็นนักบรรพชีวินวิทยาในยุคของเธอเลยก็ว่าได้ การเดินทางค้นหาในครั้งนั้นมันออกจะสะท้อนใจผม ผมพบว่ามันมีคนรุ่นเดียวกันที่เขียนเกี่ยวกับเธอน้อยมากๆ เพราะเธอเป็นผู้หญิง และเป็นคนใช้แรงงาน และเธอยังอยู่ในสังคมที่มีชนชั้นการปกครองแบบปิตาธิปไตย ผมรู้ว่าผมอยากที่จะยกระดับเธอ และอยากที่จะให้เรื่องราวที่รู้สึกคู่ควรกับเธอ ผมไม่อยากจะสร้างหนังชีวประวัติ แต่อยากที่จะสร้างภาพรวมในจินตนาการเกี่ยวกับชีวิตของเธอว่ามันจะออกมาเป็นยังไง”
“แล้วผมก็ยังหมกมุ่นอยู่กับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของมนุษย์และความคิดรอบตัว ผมก็เลยรู้ว่าผมอยากที่จะเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและใกล้ชิด พอผมเริ่มมองหาว่าใครคือคนที่ Mary Anning น่าจะมีความสัมพันธ์ด้วย มันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันควรจะเป็นผู้ชายนะ เพราะว่าจากประสบการณ์ของเธอ ในชีวิตของเธอ ผู้ชายต่างมองข้ามเธอไปแล้ว พวกเขาก็แค่คนที่ชื่นชมกับฟอสซิลอันน่าทึ่งเหล่านั้นที่เธอค้นพบ มันก็เลยไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันสักเท่าไหร่ และในเวลาเดียวกัน ผมเองก็กำลังอ่านเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้หญิงที่รักเพศเดียวกันในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 โดยเฉพาะบทความวิชาการที่เขียนขึ้นโดย Carol Smith Rosenberg ที่บันทึกเรื่องราวความสัมพันธ์ของผู้หญิงผ่านจดหมายที่พวกเขาต่างเขียนถึงกัน และนี่คือหลักฐานของความสัมพันธ์ที่เร่าร้อน เปี่ยมไปด้วยอารมณ์และความรักระหว่างผู้หญิงที่ไม่มีใครสังเกตเห็นได้เช่นกัน ผมก็เลยต้องการที่จะเน้นทุกสิ่งเหล่านั้น แต่โดยส่วนใหญ่ก็เพื่อให้ Mary Anning ได้รับความเคารพและยกระดับความสัมพันธ์เหล่านั้นขึ้นมา”
ซึ่ง Saoirse Ronan ได้ให้สัมภาษณ์กับ Variety ถึงการถ่ายทำและบทบาทของเธอในเรื่องนี้ว่าเธอได้ปรึกษากับเพื่อนเกย์ของเธอและขอคำแนะนำเกี่ยวกับบทบาทนี้ โดยเพื่อนของเธอบอกว่า “ยังไม่เจอภาพยนตร์เรื่องไหนที่นำเสนอถึงเรื่องราวและประสบการณ์ความรักของเลสเบี้ยนออกมาได้ดีเท่ากับที่ภาพยนตร์ Disobedience ซึ่งนำแสดงโดย Rachel Weisz และ Rachel McAdams ของผู้กำกับ Sebastian Lelio ได้ทำไว้” เซอร์ชาบอกว่าเพื่อนของเธอพูดกับเธอเกี่ยวกับเรื่องของความใกล้ชิดของความสัมพันธ์แบบเกย์โดยเสริมว่า “ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องเพศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์แบบโดยรวมด้วย”
Francis Lee ให้อิสระแก่เคทและเซอร์ชาในการออกแบบฉากรักของตัวเอง และเคทได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ไว้ว่าฉากใกล้ชิดของเธอกับเซอร์ชานั้นเป็นหนึ่งในผลงานที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของเธอเพราะความไว้วางใจที่ฟรานซิสมอบให้ทั้งเธอและเซอร์ชาออกแบบมันด้วยตัวเอง “เซอร์ชาและฉันออกแบบท่าในฉากนั้นด้วยตัวเอง มันไม่คล้ายกับการกินแซนด์วิชหรอกนะ ฉันคิดว่าทั้งเซอร์ชาและฉันรู้สึกปลอดภัยที่จะทำมัน ฟรานซิสก็ค่อนข้างที่จะเป็นกังวลและฉันก็พูดกับเขาว่า ‘ฟังนะ ให้เราจัดการเถอะ’ และเราก็ทำมัน เราเริ่มจากการกดจูบลงไปบนหน้าอกก่อนจะค่อยๆ ไล่ลงไป จากนั้นเราก็ปีนขึ้นไปบนตัวของอีกฝ่าย ฉันหมายถึงว่าเรามาร์กจุดสำหรับฉากนั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้เราหลุด เราตกลงกันเรื่องจังหวะในแต่ละฉากเพื่อให้มันสอดคล้องไปกับการเล่าเรื่อง ฉันรู้สึกภาคภูมิใจที่สุดที่ได้แสดงฉากเลิฟซีนใน ‘Ammonite’ และมันก็ทำให้ฉันก็รู้สึกประหม่าน้อยกว่าเดิมด้วย”
Kate Winslet ก็บอกกับ Entertainment Weekly เกี่ยวกับการถ่ายทำฉากเลิฟซีนในหนังเรื่องนี้ว่า Francis Lee (ผู้กำกับ) เขารู้สึกประหม่ามากๆ ในการถ่ายทำฉากนั้น และมีเพียงทีมงานหญิงที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในห้องสำหรับการถ่ายทำ “เรามีเพียงแค่ Boom operator (คนที่คอยยื่นไมโครโฟนจ่อไปยังนักแสดงเพื่อบันทึกเสียงพูด) ที่ตั้งครรภ์ได้หกเดือนเท่านั้น เราทุกคนต่างให้ความสำคัญและทำให้แน่ใจว่าเธอมีพื้นที่มากพอในการทำงาน เพราะว่าห้องมันค่อนข้างเล็ก” เธอยังบอกอีกด้วยว่า “ฉันรู้สึกได้ว่าทั้งตัวเซอร์ชาและฉันมีความคิดไปในแง่เดียวกันว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องการแสดงออกในฉากนี้ มันเป็นความรู้สึกที่เป็นเหมือนฐานของฉากนี้ที่เชื่อมโยงกันระหว่างผู้หญิงสองคน ซึ่งมันสำคัญมากกว่าฉากเลิฟซีน และเราก็มองเห็นตรงกันด้วย”
นอกจากนี้แล้ว เคท วินสเลต ยังบอกอีกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สอนเธอหลากหลายด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องการแสดงเท่านั้น แต่ในฐานะมนุษย์ด้วยเช่นกัน “Ammonite มีความเท่าเทียมกัน ให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยมากๆ เป็นกลาง ให้เกียรติ และเชื่อมโยงกัน มันเป็นแค่เพียงบทสนทนาระหว่างคนสองคน แค่นั้นเอง”
ตัวหนังเข้าฉายวันที่ 24 ธันวาคม 2020 Exclusive at House SAMYAN
เช็กรอบฉายได้ที่ House SAMYAN
source:
- https://thefilmstage.com/francis-lee-on-ammonite-obsession-with-class-and-gender-and-learning-from-mike-leigh/
- https://variety.com/2020/film/reviews/ammonite-review-kate-winslet-saoirse-ronan-1234767644/
- https://www.hollywoodreporter.com/features/oh-f-ive-forgotten-how-to-act-kate-winslet-back-in-the-awards-race-with-same-sex-romance-ammonite-on-getting-back-to-work