เมื่อวันที่ 1-2 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ทาง Warner Bros. Thailand เปิดตัวทีมนักแสดงนำจากภาพยนตร์สยองขวัญประเทศฟิลิปปินส์ เรื่อง “Mallari – มัลลารี ตำนานเชือด โลกสะท้าน” ณ โรงภาพยนตร์ Enigma the Shadow Screen พารากอน ซีนีเพล็กซ์ นอกจากนั้นทีมนักแสดงยังร่วมให้สัมภาษณ์สุดพิเศษ พูดคุยถึงเรื่องราวเบื้องหลัง การทำงานร่วมกัน และยังฝากข้อความถึงแฟนหนังชาวไทยปิดท้ายด้วย
“Mallari” ประวัติศาสตร์ที่ชาวฟิลิปปินส์ไม่อาจลืมเลือน
Mallari ภาพยนตร์สยองขวัญชาติฟิลิปปินส์ กำกับโดย โรเดอริค คาบริโด นำแสดงโดย พีโอโล พาสควัล ร่วมด้วย เจซี ซานโตส, เอลีส โจซอน, รอน แอนเจลิส, จาแนลลา ซัลวาดอร์ และกลอเรีย ดิแอซ เป็นเรื่องราวที่อิงจากเหตุการณ์จริงในฟิลิปปินส์ เมื่อบาทหลวงคนหนึ่งสังหารเหยื่อไปกว่า 57 รายในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ที่ได้รับการบันทึกไว้นานกว่า 60 ปี ก่อนที่โลกจะได้รู้จักกับ “แจ็คเดอะริปเปอร์” โดยภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวสยองขวัญที่เชื่อมโยงกันของตระกูลมัลลารีทั้ง 3 รุ่น ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
หลังจากภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องนี้เปิดตัวในประเทศฟิลิปปินส์ กระแสก็แรงขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงที่เข้าฉาย และคว้า 4 รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์เมโทรมะนิลา (Metro Manila Film Festival) ครั้งที่ 49 ปี 2023 อาทิ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมลำดับที่ 3, รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม, รางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และรางวัลเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม
บทสัมภาษณ์พิเศษจากทีมนักแสดง “Mallari”
สำหรับทีมนักแสดงที่ร่วมเดินทางมาโปรโมทภาพยนตร์ที่ประเทศไทยครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 4 คน เริ่มที่นักแสดงรุ่นใหญ่ “พีโอโล พาสควัล (Piolo Pascual)” ผู้รับบทเป็นตัวละครหลัก 3 ตัวของเรื่อง ได้แก่ ฮวน เซเวริโน มัลลารี นักบวชคาทอลิกและฆาตกรต่อเนื่องในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19, จอห์นเรย์ ผู้สืบเชื้อสายมาจากตะกูลมัลลารีในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และโจนาธาน แพทย์ในยุคร่วมสมัย ส่วนอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “เจซี ซานโตส (JC Santos)” ที่รับบทเพื่อนสนิทของโจนาธาน ผู้มีประวัติครอบครัวร่วมกันมากับตระกูลมัลลารี ด้วยการแสดงอันเก่งกาจ ทำให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเทศกาล MMFF ครั้งที่ 49 ไปครอง รวมไปถึง “เอลีส โจซอน (Elisse Joson)” เธอเป็นนักแสดงและนางแบบที่มีผลงานต่อเนื่องมานานกว่า 10 ปี และคนสุดท้าย “รอน แอนเจลิส (Ron Angeles)” นักแสดงและนายแบบชื่อดังที่ถือว่าเป็นดาวรุ่งในฟิลิปปินส์ตอนนี้
แม้เนื้อหาของภาพยนตร์จะเข้มข้น และน่าขนลุกแค่ไหน แต่บรรยากาศการสัมภาษณ์นั้นเป็นไปอย่างสบายๆ ทุกคนพูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างสนุกสนาน เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าการร่วมงานของทีมนักแสดงเรื่องนี้ นอกจากจะเต็มที่กับบทบาทที่ได้รับแล้ว นอกจอก็สร้างมิตรภาพ และความทรงจำที่ดีให้แก่กันและกันด้วย
Q: คำถามสำหรับพีโอโล การที่คุณรับบทบาทเป็น 3 ตัวละคร จาก 3 ยุคสมัย คุณเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ส่วนที่ยากที่สุดคืออะไร และคุณจัดการกับตัวเองยังไงเมื่อต้องเปลี่ยนจากตัวละครหนึ่งไปสู่อีกตัวละคร
Piolo – การเข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจ็คนี้ ผมไม่อยากเตรียมตัวอะไรมากขนาดนั้นครับ เพราะไม่อยากคิดมากจนเกินไป และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับบทบาทเป็น 3 ตัวละครใน 1 เรื่อง แน่นอนว่ามันจะต้องยาก แต่ดีมากตรงที่เรามี acting coach (ครูสอนการแสดง) ในกองถ่ายตั้งแต่วันแรกเลย
สำหรับส่วนที่ยากที่สุด ก็คือการเปลี่ยนจากตัวละครหนึ่งไปสู่อีกตัวละครในทุกวันที่ถ่าย เพราะผมต้องแสดงทั้ง 3 บทบาทในทุกวันที่ถ่ายเลยแหละครับ แต่ด้วยความที่บทเขียนออกมาดี วิธีการเล่าเข้าใจง่าย และด้วยความช่วยเหลือของโค้ช การค้นคว้าหาข้อมูลก็ทำให้ผมเข้าใจเรื่องราวมากยิ่งขึ้น และกำหนดทิศทางของตัวละครแต่ละตัวได้ ทำให้ผมพาตัวเองดำดิ่งไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ เพราะผมถามโปรดิวเซอร์ด้วยนะว่าให้ผมอยู่ที่นี่ตลอดการถ่ายทำได้ไหม เพราะมันง่ายสำหรับผมมากกว่าในการเข้าถึงบทบาท ตอนนั้นผมก็ใช้ชีวิตอยู่ใกล้กับกองถ่ายตลอดเวลา ซึ่งมันก็ง่ายขึ้นสำหรับผม ไม่ใช่แค่ความเข้าใจที่มีต่อตัวละคร แต่รวมถึงสถานการณ์ในเรื่องด้วย และที่คุณพูดถึงความแตกต่างของ 3 เส้นเรื่อง ผมก็เปิด YouTube และ Google ศึกษาไปด้วยเพื่อให้เข้าใจตัวละครมากยิ่งขึ้นครับ
Q: ด้วยความที่หนังบอกเล่าเรื่องราวผ่าน 3 ยุคสมัย การที่ตัวละคร “Felicity” ของคุณอยู่ในช่วงเวลาที่มีแนวคิดเรื่องอุดมการณ์ทางเพศสูง และกีดกันผู้หญิงจากการทำงาน คุณมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง
JC – อย่างกับคำถามประกวดนางงามแหนะ
Elisse – จริง ขอบคุณสำหรับคำถามนะคะ
Piolo – คำถามต่อไปเลยครับ
Ron – ขอบคุณครับ
Elisse – รอน ช่วยรับไปทีสิ (หัวเราะ) แน่นอนว่าฉันเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยค่ะ ฉันค้นคว้าหาข้อมูลด้วยการดูหนังเก่าช่วงยุค 1800-1980 แม้ว่าตัวละคร Felicity จะค่อนข้างแตกต่าง เพราะเธอเติบโตมากับวัฒนธรรมตะวันตก การเป็นคนฟิลิปปินส์ที่อยู่ในประเทศทางตะวันตกก็ย่อมมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดกันโดยทั่วไปแล้ว มันต่างจากสมัยก่อนมากจริงๆ ค่ะสำหรับผู้หญิง ฉันรู้สึกว่า… อย่างในปัจจุบันที่ฉันใช้ชีวิตอยู่ตอนนี้ ถ้าเลือกได้ฉันคงเลือกที่จะเป็นผู้หญิงที่อยู่ในยุคนี้แน่นอน เพราะมันมีอิสรภาพ มีสิทธิ มีความหลากหลาย มีทางเลือก และโอกาสมากมายสำหรับพวกเราในฐานะผู้หญิงค่ะ (ยิ้ม)
Q: ตัวละคร “Brother Lucas” มีส่วนสำคัญมากในยุคสุดท้าย การเป็นบาทหลวงที่ดูราวกับว่าเป็นคนดี แต่ก็ซ่อนความลับอันดำมืดในจิตใจ มันเป็นอะไรที่แตกต่างกันมาก คุณคิดเห็นยังไงกับตัวละครของคุณบ้าง
JC – เอ่อ… (หัวเราะ) ผมว่าตัวละครของผม แก่นของมันคือการค้นหาว่าอะไรคือความจริงสำหรับเขา ในชีวิตจริง เราต่างมองหาความเชื่อมั่น และความเป็นไปได้ของสิ่งที่ไม่แน่นอนรอบตัวเรา มันควรเป็นสิ่งที่สุดเท่าที่จะดีได้ ผมคิดว่าทุกตัวละคร ทุกคนต่างก็มีความลับดำมืด เพียงแต่มันไม่ได้เผยให้เห็นตรงหน้า แต่สักวันหนึ่งมันก็จะปลดปล่อยออกมาเองครับ
ภวังค์หนัง – อันตรายนะเนี่ย
JC – ครับ มันอันตราย (หัวเราะ)
Q: อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดในการมีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้
Elisse – พวกเราไง! (ยิ้ม)
Ron – ถ้าเราจะพูดถึงการทำงาน ผมว่าคงเป็นสายสัมพันธ์ที่พวกเรามีต่อกัน เราพูดคุยกัน ออกไปเที่ยวด้วยกัน แม้ว่าบางคนจะยุ่งอยู่กับงานอื่นๆ ของตัวเอง ผมเลยคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุด ก็อย่างที่เห็นเลย คือความสัมพันธ์ของพวกเราครับ
“Mallari – มัลลารี ตำนานเชือด โลกสะท้าน” 1 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
สัมภาษณ์โดย Poyhooood (ภวังค์หนัง) – ปิยะธิดา เจิมเจริญ
ขอขอบคุณ Warner Bros. Thailand ทีมงาน และทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง Mallari