The Continental: From the World of John Wick เผยเทรลเลอร์ตัวแรกออกมาให้รับชมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

| |

กลับมาอีกครั้งกับจักรวาล จอห์น วิค ที่จะพาทุกคนไปสำรวจโรงแรมอันเป็นที่รักของเหล่านักฆ่า ‘เดอะ คอนทิเนนเทิล’ โรงแรมที่มีสาขาทั่วโลก เปิดให้เหล่านักฆ่าเข้าพัก และเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ห้ามมีการฆ่ากันเกิดขึ้น ซึ่งในครั้งนี้ พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับมินิซีรีส์ที่มีชื่อว่า The Continental: From the World of John Wick ให้ทุกคนได้รับชมกันในเดือนกันยายนนี้

ซีรีส์จำนวนสามตอนนี้จะสำรวจที่มาและเบื้องหลังโรงแรมสำหรับนักฆ่าอันโด่งดัง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของจักรวาลจอห์น วิค ซีรีส์จะถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองของ วินสตัน สก็อตต์ วัยหนุ่ม ช่วงที่เขาถูกลากเข้าไปในขุมนรกแห่งนิวยอร์กซิตี้ยุค 70 เพื่อเผชิญหน้ากับอดีตที่เขาเคยหันหลังให้ วินสตันวางแผนเข้าสู่โลกใต้ดินอันเต็มไปด้วยความลึกลับของเหล่านักฆ่า โดยใช้ความพยายามเสี่ยงตายในการยึดครองโรงแรม ซึ่งเขาจะขึ้นครองอาณาจักรนี้ในที่สุด

มินิซีรีส์จากจักรวาลจอห์น วิค เรื่องนี้ จะฉายวันที่ 22 กันยายนนี้ทาง Peacock ส่วนการรับชมในประเทศไทย สามารถรับชมได้ทาง Prime Video เร็วๆ นี้

The Continental: From the World of John Wick | Official Trailer | Peacock Original

ทำความรู้จักตัวละครหลักใน The Continental: From the World of John Wick

วินสตัน สก็อตต์ (WINSTON SCOTT)

รับบทโดย: โคลิน วูดเดลล์ (Colin Woodell)

หล่อ ฉลาด เท่ และเก็บตัว วินสตันเป็นนักธุรกิจผู้รอบรู้ที่คิดนอกกรอบ หลังเกิดเหตุการณ์ที่สร้างแผลในใจและทำให้วินสตันถูกกฏหมายตามล่า เขาทำงานเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในลอนดอน แต่แล้ว คอร์แม็ก หัวหน้าแก๊งอาชญากรในอดีตของเขา ก็ลากเขากลับเข้าสู่โลกใต้ดินและส่งเขาออกปฏิบัติภารกิจเพื่อตามหาแฟรงกี้ พี่ชายของเขาที่ขาดการติดต่อไปนาน

โคลิน วูดเดลล์: “The Continental เป็นเรื่องราวปฐมบทของภาพยนตร์ John Wick ซึ่งถ้าคุณคุ้นเคยกับภาพยนตร์ในแฟรนไชส์นี้ คุณจะรู้ว่านี่คือบทนำที่ยิ่งใหญ่ของโลก John Wick ในช่วงประมาณ 30-40 ปีก่อนที่ภาพยนตร์เหล่านี้จะเกิดขึ้น เราได้ผู้อำนวยการสร้างทั้งหมดจากภาพยนตร์ในภาคก่อนๆ มาช่วยดูแลการผลิตในครั้งนี้ และมีความเข้มงวดมากในเรื่องความต่อเนื่องจากภาคก่อน รวมถึงการให้เกียรติผู้สร้างและสไตล์เฉพาะตัวของพวกเขา แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างก็คือ เรื่องราวในภาคนี้เกิดขึ้นในยุค 70 ดังนั้นมันจึงมีสไตล์ที่ต่างออกไปจากภาคก่อนๆ”

เคิร์ก วอร์ด (Kirk Ward), ผู้อำนวยการสร้างและผู้เขียนบทร่วม: ผมยังจำวันที่เราทำการทดสอบหน้ากล้องกันได้ อัลเบิร์ต (ฮิวจ์ส) กับผมมองผ่านจอมอนิเตอร์แล้วก็คิดขึ้นมาว่า ‘ผู้ชายคนนี้คือดาราหนังจริงๆ’ ดวงตาคู่นั้น เวลาที่คุณมองไปที่ดวงตาของ เอียน แม็คเชน (Ian McShane) มันมีความลึกซึ้งและความเศร้า มีเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่อยู่ในดวงตาคู่นั้น การมารับบทต่อจากเอียนเป็นเรื่องยากสำหรับโคลินนะว่าไหม คุณจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวละครที่เราไม่รู้จักได้ยังไง แต่เขาคนนั้นต้องเป็นโคลินเท่านั้น”

ชารอน (CHARON)

รับบทโดย: อโยมิเด อัดเดกุน (Ayomide Adegun)

ชารอน ในสมัยยังหนุ่มเป็นผู้ช่วยที่คอร์แมคไว้วางใจ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะทำให้ความจงรักภักดีของ ชารอน ถูกทดสอบ และเขาจะต้องเลือกระหว่างผู้พิทักษ์กับครอบครัวที่ไม่ได้ผูกพันกันด้วยสายเลือด

อโยมิเด อัดเดกุน: “ชารอนเติบโตมากับพ่อของเขาในไนจีเรีย และเขาไม่ได้มาจากพื้นเพที่ร่ำรวยเลย เขามาจากวัฒนธรรมไนจีเรียที่เข้มข้นซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องการเคารพและความจงรักภักดี ผมคิดว่าเขาเลือก The High Table เพื่อให้ชีวิตของเขาดีขึ้น มันเป็นแค่การค้นหาความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น — ผมรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่อยู่ในใจเขาเสมอ การแสดงของแลนซ์ เรดดิค (Lance Reddick) เป็นแรงบันดาลใจให้ผมแบบไม่ต้องสงสัยเลย ผมคิดว่าเขาเป็นผู้ชายและนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก ผมพยายามจะมองเรื่องนี้จากสองมุม ผมจะมองว่าเรื่องนี้เป็นแรงกดดันมหาศาลแล้วยอมถูกความกดดันนั้นบดขยี้ หรือจะวางใจว่าการตีความตัวละครของผมนั้นสอดคล้องกับการแสดงเป็นชารอนของแลนซ์ เรดดิกก็ได้เหมือนกัน”

เบซิล ไอวานิค (Basil Iwanyk), ผู้อำนวยการสร้าง: “แลนซ์ เรดดิค สร้างผลงานไว้ดีมากจนยากที่ใครจะรับบทต่อจากเขา ตัวละครนี้เป็นตัวละครคลาสสิกที่คุณมักจะเห็นในภาพยนตร์โดยที่เขาไม่ได้มีบทบาทมากนัก แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ สิ่งที่ชารอนมักจะทำคือเขาเพียงแค่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นเท่านั้น และเราจะเห็นเรื่องราวต่างๆ ผ่านดวงตาของเขา เขาไม่ใช่ตัวละครที่ช่างพูด ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการจากนักแสดงที่จะมาสานต่อบทนี้ คือเขาต้องเป็นคนที่มีบุคลิกน่าดึงดูด น่าเคารพ และดูเป็นผู้ดี เขาต้องเป็นคนที่อ่านยาก ดังนั้นคุณจะไม่แน่ใจว่าเขาภักดีต่อใคร หรือว่าเขาเห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ เขาคนนั้นยังต้องมีเคมีเข้ากับวินสตันด้วย เพราะอย่างที่เราได้เห็นใน John Wick 4 พวกเขาเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก และในบางแง่มุม เขาอาจจะเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในโลกของวินสตันเลยก็ว่าได้ และความภักดีนั้นก็ให้ความรู้สึกและอารมณ์ที่ลึกซึ้งอย่างเหลือเชื่อ”

คอร์แมค (CORMAC)

รับบทโดย: เมล กิบสัน (Mel Gibson)

น่าเกรงขาม โหดเหี้ยม เลือดเย็น แต่มีเสน่ห์ คอร์แมคเป็นบุคคลสำคัญของนิวยอร์กซิตี้และผู้จัดการคนปัจจุบันของ The Continental Hotel คอร์แมคมีความหลังร่วมกับวินสตันและแฟรงกี้ สก็อตต์ เมื่อแฟรงกี้ขโมยของมีค่ามหาศาลไปให้ผู้บังคับบัญชาของคอร์แมค คอร์แมคจึงลากวินสตันกลับเข้าไปในโลกอาชญากร ภาพยนตร์จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของคอร์แมคเมื่อความโกรธและความบ้าคลั่งของเขาเดือดพล่าน

เมล กิบสัน: “เขาเป็นเหมือนที่ปรึกษา (ของวินสตันและชารอน) อาจจะเป็นที่ปรึกษา หรือผู้ทรมาน ผมไม่แน่ใจว่าอันไหน แต่เขาเป็นคนนิสัยชั่วร้ายที่เปรียบเหมือนพ่อของวินสตันและชารอน และเมื่อตอนยังเด็กพวกเขาก็มองเขาเป็นแบบนั้น แต่เมื่อพวกเขาเติบโตและเริ่มวิเคราะห์ว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นใครกันแน่ พวกเขาก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ใช่พ่ออย่างที่เขาเสแสร้งว่าเป็น เขาค่อนข้างเห็นแก่ตัวในแบบของตัวเองและหลอกใช้พวกเขาในทางที่ไม่ดี ผมคิดว่าพวกเขาถูกหลอกด้วยเรื่องนั้นและพวกเขาต้องการที่จะเอาคืน ซึ่งก็สมควรแล้ว”

เบซิล ไอวานิค (Basil Iwanyk), ผู้อำนวยการสร้าง: “The Continental ที่เราได้พบในซีรีส์น่าจะเป็นโรงแรมที่เลวร้ายที่สุดในโลก มันเสื่อม มันฉ้อฉล มันยุ่งเหยิง คอร์แมคซึ่งเป็นผู้ดูแลโรงแรมก็เป็นคนไร้ศีลธรรมและอาฆาตแค้น และมันเกือบจะเป็นภาพสะท้อนจิตวิญญาณของนิวยอร์กที่กำลังพังทลายลงในตัวเอง”

เคดี (KD) และ เมย์ฮิว (MAYHEW)

รับบทโดย: มิเชล ปราดา (Mishel Prada) และ เจเรมี บ็อบบ์ (Jeremy Bobb)

เคดีเป็นนักสืบในสำนักงานตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ที่เกลียดการทุจริต ความมุ่งมั่นที่จะเปิดโปงอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในเมือง บวกกับแรงขับเคลื่อนส่วนตัวของเธอเอง ทำให้เคดีหลุดเข้าไปในโลกของ The Continental และต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่หลอกหลอนเธอในอดีต

เมย์ฮิวเป็นนักสืบในสำนักงานตำรวจนิวยอร์กและผู้บังคับบัญชาของเคดี แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามีอะไรมากกว่าที่เห็น เมย์ฮิวแต่งงานและมีลูกแล้ว เขาชอบ KD มากและพยายามห้ามเธอให้อยู่ห่างจากโรงแรม

มิเชล ปราดา: “เคดีตามรอยความยุติธรรม จริงๆ เธอตามรอยแฟรงกี้ ตามรอยสิ่งที่เธอตามหา และมันไม่ใช่เรื่องงานอีกต่อไปแล้ว มันเริ่มกลายเป็นเรื่องส่วนตัว เคดีไม่ใช่คนที่ทำตามกฎจริงๆ ดังนั้น เมื่อเธอถูกสั่งว่า ‘อย่าเข้าไปในนั้น นั่นไม่ใช่ที่สำหรับคุณ’ สิ่งแรกที่เธอจะทำคือเข้าไปในนั้น”

“ความสัมพันธ์ระหว่างเคดีกับเมย์ฮิวเป็นเรื่องของพลัง ทั้งสองคนถูกชีวิตกดทับมาตลอด และในทุกๆ ฉากที่พวกเขาปรากฏตัว ก็จะต้องมีการต่อสู้เพื่อช่วงชิงว่าใครคือผู้ที่อยู่จุดสูงสุดเสมอ สำหรับเคดี ฉันคิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งที่เริ่มผลักดันให้เธอพยายามปลุกพลังให้ตัวเองอีกครั้ง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าเธอสามารถควบคุมบางสิ่งบางอย่างได้ เพราะว่าสิ่งที่สำคัญสำหรับเธอจริงๆ คือการไม่รู้สึกว่ากำลังถูกชีวิตกระทำ แต่เธอต่างหากที่ลงมือทำบางอย่างให้เกิดขึ้นในชีวิต”

อัลเบิร์ต ฮิวจ์ส (Albert Hughes), ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง กล่าวถึงการรับบท เคดี ของมิเชล: “มิเชล ปราดา เป็นคนที่พิเศษ เธอเป็นคนฉลาดในการตัดสินใจ เธอทำให้ตัวละครมีน้ำหนัก เรากำลังอยู่ในโลกสมมติของการหลบหนีและเธอทำให้มันดูสมเหตุสมผล ฉันคิดว่าจริงๆ แล้วเธอคือหัวใจและจิตวิญญาณของซีรีส์เลยล่ะ เธอเป็นตัวละครสำคัญของเรื่องอย่างแท้จริง แต่คุณจะต้องคอยติดตามชมในตอนที่ 2 และ 3 ถึงจะค้นพบคำตอบ”

แฟรงกี้ (FRANKIE) และ เยน (YEN)

รับบทโดย: เบน ร็อบสัน (Ben Robson) และ นุห์ง เคต (Nhung Kate)

แฟรงกี้เป็นพี่ชายของวินสตันและเป็นนักฆ่าโดยกำเนิด ในขณะที่วินสตันกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในลอนดอน แฟรงกี้สมัครเป็นทหารและถูกส่งไปเวียดนาม เมื่อกลับถึงอเมริกา แฟรงกี้กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่คอร์แมคไว้วางใจมากที่สุด ก่อนจะขโมยวัตถุล้ำค่าจากใจกลางโรงแรม และวางแผนให้เขากับวินสตันได้กลับมาพบกันอีกครั้ง โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เลยว่าการกระทำที่ท้าทายของเขา จะเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจของโรงแรมในอีกหลายปีข้างหน้า

เยนเป็นภรรยาของแฟรงกี้ ผู้ซึ่งพร้อมที่จะอดทนต่อทุกความยากลำบากเพื่อให้ได้อยู่กับเขา รวมถึงการใช้ชีวิตใต้ดินหลังจากที่เขาขโมยของบางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง เยนตกใจมากเมื่อรู้ว่าแฟรงกี้มีน้องชายที่หายสาบสูญไปนาน เธอคือนักสู้ผู้ห้าวหาญที่ไม่มีอะไรมาขัดขวางเธอจากการปกป้องคนที่เธอรัก เยนเป็นตัวแทนของโอกาสครั้งที่สอง ครอบครัวที่ไม่ได้ผูกพันทางสายเลือด และเธอยังเป็นนักสู้ที่อันตรายที่สุดในกลุ่มอีกด้วย

เบน ร็อบสัน: “แฟรงกี้ให้ความสำคัญกับครอบครัวอย่างแรงกล้าแม้ในเวลาที่ยากจะรักษาครอบครัวไว้ด้วยกัน เขาแสดงให้เห็นว่าเขาเต็มใจทำอะไรบ้างเพื่อวินสตัน น้องชายของเขา และเขาต้องเจอฝ่าฟันแค่ไหนเพื่อให้วินสตันได้รับโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต เหตุผลทั้งหมดที่เขาทำก็เพื่อปกป้องวินสตันและกันเขาออกจากโลกที่เขาเพิ่งกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง”

เบน ร็อบสัน กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างแฟรงกี้และเยน: “คนสองคนที่มาจากสองโลกที่แตกต่างกันมาก ทั้งคู่ถูกเข้าใจผิด ทั้งคู่พยายามหาที่ที่พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และเมื่อพวกเขาพบกัน พวกเขาก็ต้องเอาชนะอุปสรรคมากมาย ทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่าง ภาษาที่แตกต่าง แต่พวกเขามีภาษากลางที่เหมือนกันคือสงคราม นั่นคือสิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขาด้วยกันอย่างแท้จริง พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสงครามในแบบของตัวเอง พวกเขามีความเจ็บปวดในตัวเอง และเวลาเดียวที่พวกเขารู้สึกสบายใจคือเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ดังนั้นเมื่อมีสิ่งใดพยายามเข้ามาขัดขวางหรือคุกคาม คุณจะเห็นสัญชาตญาณดิบในตัวพวกเขาทั้งสองที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่ตัวเอง

นุห์ง เคต: “เธอมีความรักและการแก้แค้นเป็นแรงผลักดัน การที่เธอตระหนักว่าเธอสามารถเอาชนะใครก็ได้ที่ทำร้ายเธอ ทำให้เธอมีแรงที่จะสู้ต่อไป แฟรงกี้เป็นเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับเยน ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนและเข้มข้นมาก”

ลู (LOU) และ ไมล์ส (MILES)

รับบทโดย: เจสสิก้า อัลเลน (Jessica Allain) และ ฮิวเบิร์ต พอยท์-ดู จูร์ (Hubert Point-Du Jour)

ฉลาดและไม่เกรงกลัวใคร ลูเป็นนักศิลปะการต่อสู้ซึ่งดูแลโรงฝึกที่พ่อของเธอทิ้งไว้ให้เธอและไมล์ส พี่ชายของเธอ โชคไม่ดีที่โรงฝึกแห่งนี้เป็นบ่อดูดเงิน และลูจำเป็นต้องตกลงร่วมงานกับไมล์สในสังเวียนที่อันตรายของเขาอย่างไม่เต็มใจ ลูต่อต้านความรุนแรงและปฏิเสธที่จะใช้ปืน แต่ความเชื่อนั้นกำลังจะถูกทดสอบในไม่ช้า

แข็งแกร่ง ซื่อสัตย์ และฉลาดหลักแหลม ไมล์สเป็นสัตวแพทย์ชาวเวียดนามที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าอาวุธเถื่อนในขณะที่เขาต่อสู้ในสงครามที่เขาไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อประเทศที่ไม่เคารพเขาในฐานะชายผิวดำ ไมล์สนำเข้าอาวุธสงครามกับเพื่อนสัตวแพทย์ แฟรงกี้และเลมมี่ พร้อมด้วยลู น้องสาวของเขาที่ไม่เต็มใจร่วมมือด้วย ไมลส์ให้เหตุผลว่าธุรกิจอันตรายของเขาเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้โรงฝึกของพ่อผู้ล่วงลับดำเนินต่อไปได้

เจสสิก้า อัลเลน: “ลูเติบโตในนิวยอร์กในบ้านที่ไม่มีแม่และจำเป็นต้องเข้มแข็ง! เบอร์ตัน คาราเต้ คือสิ่งเดียวในชีวิตของเธอ และการปกป้องธุรกิจครอบครัวของเธอคือการต่อสู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น ศิลปะการต่อสู้เป็นทางออกเดียวของเธอ เป็นการปลดปล่อยจากความยากลำบากที่เธอต้องเผชิญจากการสูญเสียทั้งพ่อและแม่ ความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดระหว่างเธอกับไมล์สนำพาเธอมาที่ The Continental สถานที่ที่เธอเชื่อมโยงกับโลกที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาทั้งชีวิต หญิงสาวที่พยายามรักษาความชอบธรรม แต่มักจะจบลงด้วยการยื่นมือเข้าไปในโลกอาชญากรใต้ดิน”

ฮิวเบิร์ต พอยท์-ดู จูร์: “ไมล์สเป็นปรมาจารย์ด้านอาวุธเพราะเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในสงคราม เรื่องราวเกิดขึ้นไม่กี่ปีหลังจบสงครามเวียดนาม ในสงคราม เขาได้เรียนรู้ทักษะและความเข้าใจมากมายเกี่ยวกับอาวุธ ทักษะของเขากลายเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับวินสตัน…”

Previous

Heartstopper season 2 กับการเติบโตของเหล่าตัวละครผ่านบทเพลง

Baby Queen ปล่อยเพลง All The Things พร้อมประกาศอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก Quarter Life Crisis

Next