เมื่อ HBO กลับมาทวงบัลลังก์ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่หยิบเอาเรื่องราวในช่วงก่อนหน้าของ Game of Thrones อย่างซีรีส์ House of the Dragon มีนักแสดงหลายคนที่เราออกจะคุ้นหน้าคุ้นตากัน แต่สำหรับผู้รับบทเจ้าหญิงเรนีรา ทาร์แกเรียน ในวัยผู้ใหญ่ก็อาจจะดูหน้าไม่คุ้นสำหรับคนไทยอยู่ไม่น้อย และผู้ที่รับบทนี้ก็คือนักแสดงนอนไบนารี่ชาวอังกฤษที่วันนี้พวกเราอยากที่จะแนะนำให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับเขาคนนี้ นั่นก็คือ Emma D’Arcy นักแสดงละครเวทีที่ฝากผลงานเอาไว้อยู่หลายเรื่องด้วยกัน
Emma D’Arcy นักแสดงละครเวที/นักแสดง นอนไบนารี่
Emma Zia D’Arcy (they/them) นักแสดงและนักแสดงละครเวที เขาเกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 1992 เติบโตที่ Gloucestershire และเข้าศึกษาที่ Ruskin School of Art มหาวิทยาลัยออฟฟอร์ต ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางการแสดงตั้งแต่ปี 2015 มาจนถึงปัจจุบันนี้
เขาเริ่มต้นการแสดงมาตั้งแต่อยู่เกรด 6 หลังจากรับบทเป็น Titania ในละครเวทีมิวซิเคิลเรื่อง A Midsummer Night’s Dream และนั่นก็เปลี่ยนชีวิตของเขาไป เอ็มม่าบอกกับ i-D ว่า “ฉันจำได้ว่าฉันออกมาจากห้องโถงของโรงเรียนแล้วก็วิ่งไปรอบๆ สนาม ฉันคิดว่ามันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ดื่มด่ำกับค็อกเทรลอะดรีนาลีน-เอ็นดรอฟิน ที่มันจำเพาะเจาะจงเป็นอย่างมาก และฉันก็พบว่าฉันเสพติดมัน”
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยเห็นผลงานของ เอ็มม่า ดาร์ซี่ ผ่านหน้าจอสักเท่าไหร่ แต่ว่าเขาก็ฝากผลงานกับงานละครเวทีไว้เป็นจำนวนมาก และล่าสุด เอ็มม่าก็ยังร่วมแสดงในซีรีส์ฟอร์มยักษ์อย่าง House of the Dragon ซีรีส์ภาคแยกของ Games of Thrones ที่หลายๆ คนกำลังเฝ้ารออยู่อีกด้วย บอกได้เลยว่า เขาคนนี้ ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ผลงานละครเวที
ทั้งในช่วงที่ เอ็มม่า ดาร์ซี่ กำลังศึกษา Fine Art อยู่ที่ Ruskin School of Art แห่งมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด และหลังจากเรียนจบ เขาก็ร่วมแสดงในละครเวทีหลากหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งจากโปรดักชั่นของอ็อกซ์ฟอร์ดเอง หรือจะไปแสดงทั้งที่ยอร์คเชียร์ ลอนดอน เอดินบะระ รวมไปถึงไปแสดงที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ได้รับเสียงตอบรับในทางที่ดีมาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น
- Pillowman โดยผู้กำกับ Thomas Bailey ที่ the Oxford Playhouse เมื่อปี 2014
ในเรื่องนี้ เอ็มม่า ดาร์ซี่ รับบทเป็น Michael และได้รับคำชมมากมาย จากหลากหลายสำนัก โดยเฉพาะในด้านการแสดงที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เป็นมาสเตอร์คลาสของตัวเรื่องเลยก็ว่าได้
- Romeo and Juliet ของชมรม Oxford University Dramatic Society (OUDS) เมื่อปี 2015
เรื่องราวในละครเวทีเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เผชิญหน้ากับความขัดแย้งทางการเมืองจากครอบครัวที่ขัดแย้งกัน อีกทั้งยังสำรวจข้อจำกัดทางสังคมของความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันอีกด้วย โดย Emma D’Arcy รับบทเป็น Romeo และ Helena Wilson รับบทเป็น Juliet สำหรับละครเวทีเรื่องนี้ ได้ไปแสดงทั้งใน UK และประเทศญี่ปุ่นในปี 2015
- Clickbait โดยผู้กำกับ Holly Race-Roughan ที่ Theatre 503, London เมื่อปี 2016
- Children and Animals โดยผู้กำกับ Thomas Bailey ที่ the Pleasance Dome ภายในงานเทศกาล Edinburgh Festival เมื่อปี 2016
- Callisto: A Queer Epic โดยผู้กำกับ Thomas Bailey ที่ the Pleasance Dome ภายในงานเทศกาล Edinburgh Festival เมื่อปี 2016
ละครเวทีที่เล่าเรื่องราวเควียร์ 4 เรื่อง ที่กระจัดกระจายไปตามกาลเวลาและสถานที่ ปี 1680 โรงละครโอเปร่าในลอนดอน ที่นักแสดงโอเปร่าลอบเข้าไปในงานแต่งงานของเกย์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร ในปี 1936 เมือง Worcester อลัน ทัวริง ไปเยี่ยมอิโซเบล มอร์คอม มารดาของคริสโตเฟอร์ รักแรกของเขา เป็นครั้งสุดท้าย ในปี 1979 ในปุบเขาซานเฟอร์นันโด แทมมี่ เฟรเซอร์ เดินทางไปยังสตูดิโอเพื่อค้นหาความรักในชีวิตของเธอ และปี 2223 ห้องวิจัยบนดวงจันทร์ ที่ลอร์นกำลังเตรียมพื้นที่สำหรับห้องนอน แต่แคลตั้งใจที่จะทำให้เขาตื่น
Emma D’Arcy รับบทเป็น Tammy และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีเนื้อหาที่จริงจัง แต่ก็ยังใส่ความมีชีวิตชีวาเข้ามาในเรื่องนี้ได้อีกด้วย
- Callisto: A Queer Epic โดยผู้กำกับ Thomas Bailey ที่ the Pleasance Dome ภายในงานเทศกาล Edinburgh Fringe เมื่อปี 2016
- Callisto: A Queer Epic โดยผู้กำกับ Thomas Bailey ที่ the Arcola Theatre เมื่อปี 2016
- A Girl in School Uniform (Walks Into a Bar) โดยผู้กำกับ Ali Pidsley ที่ West Yorkshire Playhouse เมื่อปี 2017
- Against โดยผู้กำกับ Ian Rickson ที่ the Almeida Theatre เมื่อปี 2017
Emma D’Arcy รับบทเป็น Anna นักศึกษาในมหาวิทยาลัย กำลังเผชิญหน้ากับความกระอักกระอ่วนที่เกิดขึ้นมาจาก Luke (รับบทโดย Ben Whishaw) ซึ่งในเรื่องนี้ แม้ว่าเอ็มม่าจะรับบทเป็นตัวละครรอง แต่ก็ได้รับคำชมอย่างมากมายกลับไปด้วย
- Mrs. Dalloway โดยผู้กำกับ Hal Coase ที่ the Arcola Theatre เมื่อปี 2018
Hal Coase หยิบเอาผลงานของ Virginia Woolf อย่างเรื่อง Mrs. Dalloway มาสร้างเป็นละครเวที โดยในเรื่องนี้มีนักแสดงเพียง 5 คนเท่านั้น แต่พวกเขาต้องเล่นถึง 20 ตัวละครด้วยกัน โดย Emma D’Arcy รับบทเป็น Lucrezia ภรรยาชาวอิตาลีของ Septimus ที่ทนทุกข์มาอย่างยาวนาน และรับบทเป็นลูกสาวของ Clarissa Dalloway ด้วย
ในเรื่องนี้ เอ็มม่าก็ได้รับคำชมอีกเช่นเคย และด้วยการแสดงที่ต้องรับบทเป็นตัวละครถึงสองตัวด้วยกัน ทำให้ได้รับคำชมทั้งการนำเสนอตัวละคร การเปลี่ยนบุคลิก การเคลื่อนไหว ซึ่งเอ็มม่าทำได้อย่างดี และทรงพลังอย่างมาก
- The Crucible โดยผู้กำกับ Jay Miller ที่ the Yard Theatre เมื่อปี 2019
Jay Miller หยิบเอาบทละครสุดโด่งดังของ Arthur Miller ที่เขียนขึ้นมาโดยหยิบเรื่องบางส่วนจาก Salem Witch Trials มาเขียน เล่าเรื่องราวเกี่ยวข้องกับเด็กผู้หญิงวัย 17 ปี ถูกจับได้ว่ากำลังเต้นรำอยู่ในป่ากับเพื่อน และโดนใส่ร้ายว่าเธอสนใจในคาถาและงานของปีศาจ ไม่นาน ชาวเมืองก็เริ่มต่อว่าและยัดข้อกล่าวหาให้กับเธอ และนำไปสู่การระบาดของโรคฮิสทีเรียภายในหมู่บ้านนั่นเอง ซึ่งตัวของเอ็มม่า ดาร์ซี่ รับบทเป็น Elizabeth Proctor อดีตนายจ้างของเด็กหญิงคนนั้น และภรรยาของ John Proctor (รับบทโดย Caoilfhionn Dunne)
ซึ่งเอ็มม่า ดาร์ซี่ ก็ได้รับคำชมอีกเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกทางใบหน้า แววตาที่เข้มแข็ง อบอุ่น และปวดร้าย ที่พบว่าเธอต้องปกป้องลูกๆ ของเธอ แม้ว่าคู่ครองของเธอจะมีความสัมพันธ์อื่นก็ตาม
ผลงานภาพยนตร์
- Misbehaviour (2020) กำกับโดย Philippa Lowthorpe ที่ร่วมแสดงกับ Keira Knightley, Gugu Mbatha-Raw, Jessie Buckley, Kajsa Mohammar, Rhys Ifans, Emma Corrin
- Mothering Sunday (2021) กำกับโดย Eva Husson ที่แสดงร่วมกับ Olivia Colman, Colin Firth, Josh O’Connor และ Odessa Young
ผลงานมิวสิควิดีโอ
ผลงานซีรีส์
- Wanderlust ซีรีส์จากทาง Netflix เมื่อปี 2018 เขารับบทเป็น Naomi Richards ลูกสาวคนโตของ Joy Richards (รับบทโดย Toni Collette) และ Alan Richards (รับบทโดย Alan Richards) ซึ่งในเรื่องนี้ยังได้ Joe Hurst, Zawe Ashton และ Anastasia Hille มาร่วมแสดง
- Hanna ซีรีส์จาก Prime Video ที่เขามาร่วมแสดงในซีซั่นสอง (2020) รับบทเป็น Sonia Richter เจ้าหน้าที่ CIA ที่จะเข้ามารับตำแหน่งแทน Marissa
- Truth Seekers ซีรีส์ล่าท้าผีจาก Prime Video เมื่อปี 2020 ที่สร้างขึ้นโดย Nick Frost, Simon Pegg, James Serafinowicz และ Nat Saunders ซึ่งเอ็มม่ารับบทเป็น Astrid
- House of the Dragon ซีรีส์ภาคแยกของ Game of Thrones ที่เล่าเรื่องราวก่อนเหตุการณ์ใน GOT ซีซั่นแรก 173 ปี ตัวของเอ็มม่ารับบทเป็น Rhaenyra Targaryen ในตอนโต
การเข้าร่วมจักรวาล A Song of Ice and Fire
สำหรับการเข้าร่วมจักรวาล A Song of Ice and Fire เอ็มม่าบอกกับ Entertainment Weekly ว่าเขาถ่ายออดิชั่นเทปแบบรวดเร็วมาๆ สำหรับเขา ก็คิดว่ามันเป็น Game of Thrones rip-off เพราะว่าไม่รู้เลยว่าซีรีส์ชุดนี้ มันจะเป็นเรื่องราวก่อนหน้าของ Game of Thrones จริงๆ
เอ็มม่าเปิดเผยว่าเขาไม่เคยดู Game of Thrones มาก่อนเลย แล้วเขาก็คิดว่า ถ้าเกิดเขารัก Games of Thrones ก่อนออดิชั่นตอนนี้ ฉันก็คงไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน “ฉันรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้มีส่วนร่วมในจักรวาลนี้ และฉันรู้สึกภูมิใจกับมันมาก แต่ฉันก็ไม่ได้มองหาการเปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไหร่ด้วย”
สิ่งที่ทำให้ Emma D’Arcy สนใจเกี่ยวกับตัวละคร เรนีร่า ทาร์แกเรียน ก็คือเรื่องของความเป็นหญิงและบทบาททางเพศที่สังคมเวสเทอรอสกำหนดเอาไว้ให้นั่นเอง “ฉันคิดว่ามีอยู่สองสิ่งที่ทำให้เรนีราเป็นตัวละครที่ฉันสนใจ หนึ่งเป็นเพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงและไม่เคยคิดคาดหวังว่าจะได้เป็นรัชทายาท ไม่เคยได้อยู่ในโต๊ะสนทนา และทุกอย่างก็พังทลายลงเมื่อเธอได้รับมรดกที่ทุกคนไขว่หา และอีกอย่างหนึ่งก็คือ เธอเป็นคนที่ฉันไม่เห็นด้วยกับบทบาททางเพศของเธอเป็นผลมาจากตำแหน่งที่เธอได้รับ ฉันคิดว่าฉันสนใจคำถามเกี่ยวกับเจนเดอร์ทั้งหมดนั่นเลย”
“ตอนแรกที่ฉันได้รับข้อมูลมาก็คือเป็นโปรเจ็กต์ที่ไม่มีชื่อ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าไปลงที่ไหน” เอ็มม่าบอกกับ Radio Times “ตอนนั้นฉันก็ไร้เดียงสามากๆ ฉันเลยถามกลับไปว่า ‘ฉันไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร’ แล้วฉันก็แบบ ‘มันเหมือนซีรีส์แฟนตาซีเลยนะ’ หลังจากนั้น ฉันก็รีบอัดเทปตัวเอง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วก็คิดว่ามันจะจบนะ ฉันได้ยินมาว่าคนอื่นรู้ แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันไม่ได้ข้อมูลพวกนั้นนะ”
ตอนนั้นเอ็มม่าใช้ iPhone อัด โดยวางไว้บนถุงมันฝรั่งทอด ถ่าย แล้วก็ส่งวิดีโอไปเลย แล้วก็คิดว่ามันจบแค่นั้น แต่สิ่งที่ตามมาก็คือหลังออดิชั่นเทปก็จะมีการพูดคุยกับ Ryan Condal และ Miguel Sapochnik โชว์รันเนอร์ ซึ่งพวกเขาก็ได้ถามเอ็มม่าว่ามีวิกผมมั้ย แล้วเอ็มม่าก็บอกกับ EW ว่า “ฉันคิดว่าน่าจะตอบไปว่า ‘ฉันดูเหมือนคนมีวิกผมรึเปล่าล่ะ'” แต่เพราะในช่วงสถานการณ์โควิด ร้านรวงก็ปิดหมด ทำให้เขาต้องด้นสดไปเลย “สิ่งที่ฉันทำก็คือต่อผมนะ แม้จะไม่รู้วิธีทำก็เถอะ ฉันกับพาร์ทเนอร์ของฉันพยายามต่อผมกว่า 24 ชั่วโมงเลยนะ แบบใช้กาวติดกับผมเหล่านั้น แล้วก็ถ่ายรูปส่งไปให้ Miguel แล้วเขาก็บอกว่า ‘ต่อผมอีกได้มั้ย’ พวกเราก็พยายามกันต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบกับบางอย่างที่ทำให้ดูผมยาวขึ้น” แล้วทุกครั้งที่จะอัดเทป เอ็มม่าก็จะนั่งหน้าทีวี แล้วพาร์ทเนอร์ของเขาก็จะต่อผมให้อีกชั่วโมงครึ่ง แล้วในที่สุดมันก็เวิร์ก และการค้นหา Rhaenyra Targeryon ในวัยผู้ใหญ่ ก็ได้สิ้นสุดลง
Sources:
- https://gameofthrones.fandom.com/wiki/Emma_D%27Arcy
- https://inews.co.uk/culture/television/house-of-the-dragon-emma-darcy-interview-rhaenyra-targaryen-actor-game-of-thrones-parody-1805105
- https://i-d.vice.com/en/article/5d3wmn/emma-darcy-house-of-the-dragon-interview
- https://roxanevacca.co.uk/clients/darcy/
- https://theartiscapegallery.com/mrs-dalloway-at-arcola-theatre
- https://www.arcolatheatre.com/whats-on/callisto/
- https://www.arcolatheatre.com/whats-on/mrs-dalloway/
- https://www.ayoungertheatre.com/review-the-crucible-the-yard-theatre/
- https://www.facebook.com/OUDSRomeoAndJuliet
- https://www.instagram.com/emmaziadarcy/
- https://www.spotlight.com/1932-8971-5995/
- https://www.radiotimes.com/tv/fantasy/emma-darcy-house-dragon-audition-exclusive-newsupdate/
- https://www.theguardian.com/stage/2017/aug/27/against-review-ben-whishaw-outstanding-tech-messiah-christopher-shinn
- https://www.theupcoming.co.uk/2019/04/03/the-crucible-at-the-yard-theatre-theatre-review/
- https://www.timeout.com/london/theatre/the-crucible-review