ลิสต์ Queer Muslim films นำเสนอภาพตัวแทนสร้างความเข้าใจท่ามกลางความแตกต่างหลากหลายของผู้คน

รู้หรือไม่ว่า ศาสนาอิสลามเป็นหนึ่งในศาสนาที่มีผู้นับถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เป็นรองแค่เพียงศาสนาคริสต์เท่านั้น แต่ก็เป็นอีกหนึ่งศาสนาที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นผ่านสื่อ โดยเฉพาะภาพตัวแทนผู้ที่เป็นเควียร์และนับถือศาสนาอิสลาม หรือมีก็แค่ภาพจำตัวละครเดิมๆ ที่สื่อกระแสหลักคอยครอบเอาไว้ ทำให้เราไม่ได้เข้าใจ หรือมีโอกาสได้รู้จักกับผู้คนที่นับถือศาสนานี้ในมิติที่หลากหลาย แต่ในสื่อกระแสรองหรือสื่อเฉพาะกลุ่ม หลายคนอาจจะเคยผ่านตากับ queer muslim films ที่มีผลงานเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเข้าชิงรางวัลในระยะหลังด้วย

เนื่องในโอกาสวันต่อต้านความหวาดกลัวอิสลามสากล (International Day to Combat Islamophobia) หรือวันที่ 15 มีนาคมของทุกปี โดยได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly – UNGA) เมื่อปี 2022 รณรงค์ให้ผู้คนหันมาใส่ใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้นับถือศาสนาอิสลามทั้งในโลกออนไลน์และโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งต้องเผชิญการเลือกปฏิบัติและถูกตีตราจากกระแสความเกลียดชังชาวมุสลิมท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีแนวโน้มกีดกันผู้ที่มีความแตกต่างไปจากเชื้อชาติ สีผิว เพศและศาสนาที่ตนเองยึดถือสูงขึ้น เพื่อสร้างสังคมแห่งความแตกต่างหลากหลายที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

การเรียนรู้จากสื่อต่างๆ ที่มีส่วนในการบ่มเพาะความคิด นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างความตระหนักรู้ถึงการเคารพและให้เกียรติอัตลักษณ์ทางศาสนา The Noize Magazine ขอแนะนำภาพยนตร์นำแสดงโดยผู้หญิงและเควียร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของชาวมุสลิม รวมทั้งผลงานมีภาพตัวแทนของผู้นับถือศาสนาอิสลาม 

Queer Muslim Films for International Day to Combat Islamophobia

แน่นอนว่าเครื่องมือทางศิลปะที่ทรงพลังอย่างภาพยนตร์หรือซีรีส์เพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่สามารถพูดแทนประสบการณ์ของผู้หญิงหรือเควียร์ที่นับถือศาสนาอิสลามได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อย การรับรู้เรื่องราวของพวกเขาช่วยขจัดความกลัวจากความไม่รู้หรือรู้อย่างไม่ถูกต้องอันเนื่องมาจากการเหมารวมออกไป

โดยเฉพาะชุดแนวคิดที่ว่าคนเราไม่สามารถเป็นมุสลิมและเควียร์ไปพร้อมๆ กันได้ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว อัตลักษณ์ผู้คนในสังคมต่างมีความซับซ้อนในหลายมิติ ไม่ได้มีแค่อย่างใดอย่างหนึ่งไปตลอดชีวิต รวมทั้งการที่มีผู้คนอีกมากในชุมชน LGBTQIAN+ ที่นับถือศาสนาอิสลาม 

ดังนั้นแล้ว การรับรู้ถึงการมีตัวตนของเควียร์มุสลิมผ่านผลงาน Queer Muslim films ก่อให้เกิดความเข้าใจในฐานะเพื่อนมนุษย์มากขึ้นและรับฟังสิ่งที่เจ้าของประสบการณ์ต้องการจะสื่อสารให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการมีตัวตนของพวกเขา ซึ่งอยู่กับชุมชนเควียร์มาตลอด

รวมผลงาน Queer Muslim films ที่อยากให้ทุกคนได้ชมสักครั้ง

Solids by the Seashore (2023)

Director: Patiparn Boontarig
Genres: Drama
Representation: Southeast Asian / Sapphic
TW: –

คลื่นทะเลในใจของหญิงสาวสองคนที่พัดพามาเจอกัน แม้ว่าจะต้องเจออุปสรรคอย่างเขื่อนหินที่กั้นการกัดเซาะของสายน้ำทำให้ความสวยงามของหาดทรายเปลี่ยนไป รวมถึงประเด็นทางสังคมและศาสนา ก็ยังคงซัดสาดเพื่อทำลายกรอบในชีวิตที่ปิดกั้นความสุขของพวกเธอไว้

ชาตีเกิดในครอบครัวเคร่งศาสนา ชีวิตถูกกำหนดโดยพ่อกับแม่ จนต้องปิดกั้นตัวตนและความต้องการเอาไว้ เป็นตัวละครเควียร์มุสลิมที่ชวนตั้งคำถามว่าเธอสามารถเลือกที่จะรักในพระเจ้า รักในความเป็นตัวเองและรักคนที่อยากรักพร้อมๆ กันได้ไหม

ทางด้านฝน หญิงสาวผู้ความผูกพันกับชายหาดสงขลาก็เดินทางมาสานต่อโปรเจ็คงานศิลปะที่ยังค้างคา เพื่อหา closure ให้ตัวเองและเดินหน้าต่อในชีวิต ขณะที่ทั้งสองคนใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ทั้งคู่ได้เรียนรู้ที่จะสังเกตคลื่น ฟันฝ่ามันออกไป อย่างน้อยได้ทรงตัวไหลไปกับสายน้ำแค่เพียงชั่วขณะก็ยังดี

Solids by the Seashore ผลงานสัญชาติไทยที่ถ่ายทำในจังหวัดสงขลา นำเสนอมนต์เสน่ห์ของเมืองพหุวัฒนธรรมที่ความดั้งเดิมของพื้นที่ผสมผสานกับยุคสมัยใหม่ที่เปลี่ยนไปได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ประเด็นหลักในหนังยังทำให้ผู้คนมาสนใจประเด็นสิ่งแวดล้อมเรื่องการสร้างกำแพงกันคลื่นตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลต่างๆ ในประเทศ 

Signature Move (2017)

Director: Jennifer Reeder
Genres: Romantic / Comedy
Representation: Afghan / Latinx / Sapphic 
TW: –

ความสัมพันธ์ของ Zaynab กับ Alma ที่ปิ๊งกันในบาร์ ทั้งคู่แชร์ความสนใจในมวยปล้ำหญิง แต่ยังมีเรื่องต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันท่ามกลางความต่างทางวัฒนธรรมอีกมากมาย

Zaynab ทนายความชาวปากีสถานต้องดูแลแม่ที่ไม่มูฟออนจากการสูญเสียคู่ชีวิต จึงพยายามหาคนมาคลุมถุงชนให้ลูกมีครอบครัวที่สมบูรณ์ตามขนบ ทำให้ Zaynab ต้องปิดบังสิ่งที่ขัดกับความคาดหวังของแม่ ทั้งเรื่องการฝึกมวยปล้ำเป็นงานอดิเรก รวมถึงการเดทกับ Alma สาวเจ้าของร้านหนังสือชาวเม็กซิกัน จนเริ่มส่งผลกับความรักในครั้งนี้

Signature Move ภาพยนตร์ผลงานผู้กำกับเควียร์ Jennifer Reeder ที่ใช้เวลาถ่ายทำเพียง 18 วัน ซึ่งเธอได้ฝากฝีไม้ลายมือชนิดโหดเลือดสาดไว้ในตอน Holy Hell ของแฟรนไชส์หนังสั้น found footage สยองขวัญ V/H/S/94 (2021) 

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี Fawzia Mirza เควียร์มุสลิมที่รับบทตัวเอกร่วมเขียนบท ซึ่งเพิ่งมีผลงานกำกับเรื่องแรกพ่วงเขียนบทไว้ใน The Queen of My Dreams (2023) เรื่องราว coming-of-age ของเด็กสาวเควียร์มุสลิมเชื้อสายปากีสถานที่เติบโตในแคนาดากับความห่างเหินกับแม่ที่เคร่งศาสนา

Fawzia ยังขับเคลื่อนการนำเสนอภาพตัวแทนเควียร์มุสลิมผ่านการเขียนบทอย่างต่อเนื่อง เช่น ตอน One Day We May Be More Than a Body ของซีรีส์ The Red Line (TV Series 2019) ที่นำเสนอมุมมองผ่านตัวละครอินเดียน-อเมริกันเกย์มุสลิม 

ความเกลียดชังชาวมุสลิมทั้งจากนโยบายการกีดกันคนต่างเชื้อชาติ-ศาสนาของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและสภาพสังคมภายหลังเหตุการณ์ 9/11 ทำให้ชาวมุสลิมถูกเขียนให้เป็นเพียงแค่ผู้ก่อการร้ายในสื่อ เธอบอกว่าไม่ค่อยมีภาพตัวแทนในเชิงบวกของมุสลิมที่ตรงเพศในสื่อ ไม่ต้องพูดถึงเควียร์มุสลิมที่แทบไม่มีที่ยืน ดังนั้น การเขียนบทเพื่อสร้างตัวละครเควียร์มุสลิมจึงมีความสำคัญอย่างมาก 

“สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับฉันคือการเขียนภาพตัวแทนเควียร์มุสลิม ฉันจะเขียนในสิ่งที่ฉันรู้ต่อไป”

เธอกล่าวเสริมว่า “ตัวละครมุสลิมต้องไม่เป็นเพียงแค่ตัวประกอบอย่างเพื่อนสนิทของตัวเอกดาษๆ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงการนำเสนอภาพตัวแทนไปสู่การให้พื้นที่ของตัวละครเหล่านี้ได้ส่งเสียงของพวกเขาตั้งแต่แรก ร่วมถ่ายทอดมุมมองในการใช้ชีวิต ครอบครัวและอุปสรรคต่างๆที่ต้องฝ่าฟัน”

Flee (2021) 

Director: Jonas Poher Rasmussen
Genres: Documentary / Animation / Drama
Representation: Afghan / Gay
TW: –

ความทรงจำอันแสนโหดร้ายที่ถูกเก็บงำมากว่า 20 ปีของ Amin Nawabi ผู้ลี้ภัยจากบ้านเกิดเมืองนอนในอัฟกานิสถานช่วงปี 1990 มาอาศัยอยู่ยังกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ตัวเขาในวัย 36 ปีไม่เคยปริปากกล่าวถึงสิ่งที่ประสบพบเจอมาให้กับใครฟัง แม้กระทั่งชายคนรัก ซึ่งทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานด้วยกัน

Flee แอนิเมชั่นสร้างจากประสบการณ์จริงของเพื่อนผู้กำกับที่ใช้นามแฝงว่า Nawabi ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Queer Muslim films ที่สร้างประวัติศาสตร์จากได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ หรือ Academy Awards ครั้งที่ 94 ถึง 3 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม

Sirens (2022) 

Director: Rita Baghdadi
Genres: Documentary / Music
Representation:  Lebanese / Queer
TW: –

ภาพยนตร์สารคดีตามติดชีวิต Slave to Sirens วงแทรชเมทัลหญิงล้วนจากเลบานอนและมีดีกรีเป็นวงแรกของตะวันออกกลาง ก่อตั้งโดย Lilas Mayassi ที่ได้ไปพบเจอกับผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนอย่าง Shery Bechara ในการเดินขบวนประท้วงที่กรุงเบรุตในปี 2015 โดยมีฉากหลังเป็นบรรยากาศทางการเมืองสุดร้อนแรงของการปฏิวัติในเลบานอน

สมาชิกในวงซึ่งอยู่ในชุมชนเควียร์ต้องต่อสู้กับความเกลียดชังกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศที่กระทำโดยรัฐ ไหนจะความท้าทายอีกมากที่เป็นผลพวงมาจากสภาวะทางการเมืองอันไร้เสถียรภาพของประเทศ เพื่อให้เสียงดนตรีที่ตัวเองใช้แสดงออกทางความคิด ตัวตนและอุดมการณ์ยังคงก้องกังวาลต่อไป

Sirens ผลงานจากผู้กำกับหญิงชาวโมร็อคโก-อเมริกัน Rita Baghdadi ที่ต้องการสร้างภาพยนตร์นำแสดงโดยตัวละครหญิงชาวตะวันออกกลางที่มีความซับซ้อน โดยไม่ต้องมีภาพเหมารวมเชิงลบที่สื่อตะวันตกพยายามทำซ้ำ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงรุ่นใหม่แบบที่เธอไม่เคยได้มีตลอดช่วงเวลาที่เติบโตมา 

เธอยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อยากให้อุตสาหกรรมหนังมีการทำงานร่วมกันของทีมงานที่มีความแตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง รวมทั้งในตำแหน่งบริหารที่รับผิดชอบในการตัดสินใจ เพื่อนำเสนอเรื่องราวของผู้คนที่มักถูกมองข้ามและเป็นชายขอบให้มากขึ้น

Joyland (2022)

Director: Saim Sadiq
Genres: Comedy / Crime / Drama
Representation: Pakistani / Transgender
TW: –

Haider ลูกชายคนเล็กของครอบครัวชนชั้นกลางที่เคร่งศาสนาและรอคอยหลานชายคนแรกของตระกูล หลังจากตกงานอยู่หลายปี เขาก็ได้ทำงานเป็นนักเต้นในสถานบันเทิงยามค่ำคืนอย่างลับๆ โดยไม่มีพื้นฐานด้านการเต้นมาก่อน ก่อนไปตกหลุมรักหญิงสาวดาวเด่นของที่ทำงานอย่าง Biba ทั้งๆ ที่ตนเองก็มีภรรยาอยู่แล้ว 

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวของชาวปากีสถานผ่านความรักระหว่างผู้ชายและผู้หญิงข้ามเพศ และคว้ารางวัล Queer Palm และ Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 2022 มา แต่รัฐบาลของปากีสถานตัดสินใจที่จะแบนภาพยนตร์ดังกล่าว เพราะถูกกดดันจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงที่เรียกผลงานนี้ว่า “น่ารังเกียจ”  ซึ่ง Alina Khan นักแสดงข้ามเพศชาวปากีสถาน ผู้รับบทเป็น Biba ได้บอกว่า “ฉันเสียใจมาก มันไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกับศาสนาอิสลามเลยนะ และฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมภาพยนตร์ธรรมดาๆ แบบนี้จะเป็นอันตรายต่อศาสนา” 

เธอเสริมว่า “ชุมชนคนข้ามเพศในปากีสถานก็รู้สึกไม่พอใจเหมือนกัน” และไม่นานก็มีการยกเลิกการแบน แต่นั่นก็เป็นชัยชนะแค่เพียงครึ่งทางเท่านั้น เพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอบทพูดในภาษาปัญจาบ แต่ในพื้นที่ปัญจาบยังไม่สามารถรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้

“ครอบครัวของฉันไม่ยอมรับฉัน สังคมก็เช่นกัน” จนกระทั่งภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ และในที่สุดครอบครัวก็ให้การยอมรับเธออย่างเต็มใจ

Joyland ผลงานเดบิวต์เรื่องแรกของ Saim Sadiq ที่เขาทั้งเขียนและกำกับเอง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ส่วนตัวในการเติบโตในสังคมชายเป็นใหญ่ และการต่อสู้ไม่รู้จบกับคำจำกัดความของความเป็นชายและความเป็ยหญิง “จากการห้ามฉายในปากีสถาน เราทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้ชมท้องถิ่นสามารถชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ด้วย กลายเป็นว่าพวกเราทุกคนถูกบังคับให้กลายเป็นนักเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในการยกเลิกการห้ามฉาย แต่ก็ส่งผลกระทบต่อทุกคนด้วยเช่นกัน”

Bonus 

We Are Lady Parts (TV Series 2021-Ongoing)

Creator: Nida Manzoor
Genres: Comedy / Music
Representation: Middle East / Black / Brown  / Sapphic
TW: –

การรวมตัวของวงพังก์หญิงมุสลิมสุดเท่ ผ่านมุมมองของ Amina มือกีตาร์สมาชิกใหม่แกะกล่องที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอก กับเพื่อนร่วมคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Saira สาวเท่ร้านขายเนื้อ Bisma สาวผิวดำที่รักครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจ Ayesha เควียร์มุสลิมที่กำลังค้นหาตัวตน และ Momtaz ผู้จัดการวงที่ทันทุกสารพัดสิ่งนำเทรนด์ 

การปลอบประโลมซึ่งกันและกันท่ามกลางความท้าทายที่แตกต่างกันไป ทั้งมิติความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว เพื่อน ความศรัทธา ทั้งหมดต้องมาบาลานซ์กับความรักในบทเพลงเพื่อให้วงของพวกเขาสามารถไปต่อได้

นอกจาก Queer Muslim films ที่แนะนำแล้ว ก็ยังมีซีรีส์ที่บอกเล่าประเด็นผู้หญิงและเควียร์กับศาสนาที่ไปด้วยกันได้และส่งต่อสารอันทรงพลัง เช่น การที่ตัวละครตั้งใจที่จะเลือกสวมใส่ฮิญาบด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะข้อบังคับทางศาสนาที่มากดทับร่างกายผู้หญิง การออกเดทกับคนต่างศาสนาหรือสีผิว ไปจนถึงการเปิดตัวว่าเป็นเควียร์ต่อครอบครัว โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองให้เป็นไปตามสิ่งที่วัฒนธรรมเควียร์คนขาวตีกรอบไว้

We Are Lady Parts เขียนบทและกำกับโดยผู้กำกับหญิง Nida Manzoor ที่กำกับ Polite Society (2023) อีกหนึ่งหนังถ่ายทอดวัฒนธรรมบ้านเกิดของตนเอง นอกจากนี้ ซีรีส์เรื่องนี้ยังนำแสดงโดยนักแสดงที่คุ้นหน้าอย่าง Anjana Vasan จากบท Pam ใน Killing Eve

Love, Victor (TV Series 2020-2022)

Creators: Isaac Aptaker / Elizabeth Berger
Genres: Comedy / Drama / Romance
Representation: Iranian / Gay
TW: –

Love, Victor ซีรีส์ coming-of-age จักรวาลเดียวกันกับ Love, Simon ภาพยนตร์เควียร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือในชื่อ Simon vs. the Homo Sapiens Agenda โดย Becky Albertalli ถ่ายทอดเส้นทางการเรียนรู้ตัวตนและปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ของ Victor ที่เพิ่งย้ายมาศึกษาที่ Creekwood High School

ในเรื่องมี Rahim ตัวละครเกย์ที่นับถือศาสนาอิสลาม เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในการยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังของครอบครัวที่เคร่งศาสนาและความกล้าที่จะยืนหยัดในตัวเอง 

บท Rahim แสดงโดย Anthony Keyvan ที่มีผลงานล่าสุดในซีรีส์ XO, Kitty (TV Series 2023-Ongoing) เขากล่าวว่าตัวเองติดตามเสียงตอบรับจากผู้ชมอยู่เสมอ การรับบทเควียร์อย่าง Rahim เป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก ไม่ใช่แค่เฉพาะความเควียร์ของตัวละคร แต่การนำเสนอตัวละครเชื้อสายตะวันออกกลางก็ทำให้ผู้คนแบบเขาได้รับการมองเห็นในสื่อกระแสหลัก โดยเฉพาะเควียร์ที่มีเชื้อสายอิหร่าน ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง 

ทั้งนี้ ทีมงานเขียนบทที่อยู่เบื้องหลังก็เป็นผู้คนที่มาจากตะวันออกกลางหรือกลุ่มประเทศเอเชียใต้เช่นเดียวกัน และนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะช่วยสร้างภาพตัวแทนในสื่อและให้โอกาสแก่นักแสดงที่ไม่ใช่ผิวขาวได้อย่างมาก

Elite (TV Series 2018–2024) 

Creators: Darío Madrona / Carlos Montero
Genres: Drama / Thriller
Representation: Palestinian / Gay
TW: Sexual content / Drugs

Elite ซีรีส์สัญชาติสเปนว่าด้วยการต่อสู้ระหว่างชนชั้นสุดเข้มข้นใน Las Encinas โรงเรียนมัธยมสำหรับชนชั้นนำ เมื่อนักเรียน 3 คนจากครอบครัวชนชั้นกลางได้รับทุนการศึกษาให้เข้าเรียนในที่แห่งนี้ จนเกิดเป็นเรื่องราวฆาตกรรมที่เปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล 

Omar Shanaa หนึ่งในตัวละครมุสลิมที่มีอัตลักษณ์เกย์ ลูกชายของครอบครัวผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ ซึ่งได้รับคำชมเชยจากนักมานุษยวิทยาชาวปาเลสไตน์ Sa’ed Atshan ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ Los Angeles Blade สำหรับชุมชน LGBTQIAN+ ว่าเป็นการถ่ายทอดภาพจำครอบครัวชาวปาเลสไตน์ที่ท้าทายความเกลียดกลัวคนอิสลามในสเปนและสังคมตะวันตกที่กดทับมาตลอด 

แม้ว่า Omar Ayuso นักแสดงจะไม่ได้มีเชื้อสายปาเลสไตน์ แต่ก็มีเชื้อสายตะวันออกกลางจากพ่อที่เป็นชาวโมร็อคโค รวมถึงความเคร่งในศาสนาที่ไม่ได้เข้มข้นเท่าสิ่งที่ตัวละครเผชิญ โดยเฉพาะในการคัมเอ้าท์ แต่เขาก็สามารถเชื่อมโยงกับตัวละครนี้ได้ในหลากหลายมิติ

The Bold Type (TV Series 2017–2021)

Creator: Sarah Watson
Genres: Comedy / Drama
Representation: Iranian / Sapphic
TW: –

ชีวิตในแต่ละวันของแก๊งค์เพื่อนสาวที่ทำงานให้กับนิตยสาร Scarlet ในช่วงที่สื่อสิ่งพิมพ์กำลังเป็นที่นิยม ได้แก่ Jane Sloan, Kat Edison และ Sutton Brady กับเส้นทางความก้าวหน้าทางการงานที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน การเสาะหาเรื่องราวมาตีพิมพ์ที่ต้องใช้ความไวระดับปีศาจ การทำงานร่วมกับบรรณาธิการสุดเฮี้ยบ และการแข่งขันที่ทุกคนพร้อมจะแย่งตำแหน่งเก้าอี้กันได้ทุกเมื่อ ยังไม่รวมชีวิตส่วนตัวอันแสนวุ่นวายของพวกเธอ

The Bold Type ซีรีส์ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของ Joanna Coles อดีตบรรณาธิการบริหารของนิตยสารชั้นนำอย่าง Cosmopolitan ที่เข้ามานั่งเป็นผู้อำนวยการสร้าง

หนึ่งในตัวเอกได้ทำงานร่วมกับ Adina El-Amin ช่างภาพเชื้อสายอิหร่านที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเกินร้อย ซึ่งเข้ามามีส่วนในการสร้างความเข้าใจในอัตลักษณ์ทางเพศที่นอกเหนือไปจากกรอบเพศแบบทวิลักษณ์ 

ตัวละครเควียร์มุสลิมถ่ายทอดโดย Nikohl Boosheri เธอได้บอกเล่าถึงเหตุการณ์น่าประทับใจ เมื่อแฟนคลับของซีรีส์เรื่องนี้กล่าวว่าการได้เห็น Adina ในจอมีส่วนช่วยทำให้เขารวบรวมความกล้าที่จะคัมเอ้าท์กับครอบครัวในอนาคต เพราะตัวละครนี้ทำให้เขาเข้าใจว่าเควียร์มุสลิมสามารถมีความศรัทธาอันแรงกล้าในพระเจ้า แต่ก็เป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระ 

In Between (2016) 

Director: Maysaloun Hamoud
Genres: Drama
Representation: Palestinian / Sapphic
TW: Rape 

มิตรภาพของผู้หญิงปาเลสไตน์ 3 คนที่อาศัยอยู่ร่วมกันในเมืองเทเลอาวีฟ ทั้ง Laila นักกฎหมายหัวก้าวหน้าที่ไม่ยอมให้กรอบเรื่องความเป็นผู้หญิงที่ดีมากดทับเธอไว้ Salma เควียร์ที่ใฝ่ฝันอยากเป็น DJ ซึ่งคบหาดูใจกับหญิงสาวและต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวคาทอลิกของตัวเอง รวมทั้ง Nour ที่มาจากครอบครัวมุสลิมเคร่งศาสนาและกำลังเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นจอมบงการ ทั้งๆ ที่เธอต้องการมุ่งมั่นกับการเรียนก่อน

In Between หนังจากผู้กำกับหญิงชาวปาเลสไตน์ Maysaloun Hamoud ที่เข้ารับการศึกษาและอาศัยอยู่ในประเทศอิสราเอลเช่นเดียวกับตัวละครในเรื่อง ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ว่าทั้งเธอและนักแสดงหญิงต่างโดนข้อความอาฆาตมาดร้ายจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ไม่เห็นด้วยกับภาพตัวแทนในเรื่องที่ผู้หญิงสามารถใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง ดื่มแอลกอฮอล์ มีความสัมพันธ์ชั่วคราวกับคู่นอนที่ไม่ใช่สามี หรือแม้กระทั่งเป็นคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งหมดนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นในภาพยนตร์ภาษาอาหรับเท่าไหร่นัก 

แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ชมจากแถบตะวันออกกลางอีกมากก็ได้ส่งข้อความมาพูดคุยเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ที่เปรียบเสมือนชีวิตของพวกเขากับสารพัดเรื่องราวที่ผู้หญิงและเควียร์ประสบพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดเชื้อชาติหรือความรุนแรงทางเพศ และช่วยกันปกป้องภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงทีมงานด้วย

เธอกล่าวเสริมว่า ผลงานของฉันเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นลูกใหม่ในวงการภาพยนตร์อาหรับที่เริ่มต้นขึ้นหลังอาหรับสปริง (Arab Spring) หรือการลุกฮือของประชาชนในประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือเพื่อต่อต้านเผด็จการช่วงปลายปี 2010 ถึง 2012 โดยในแต่ละปีจะมีภาพยนตร์จากตะวันออกกลางที่นำเสนอสิ่งต้องห้ามตามขนบของสังคม รวมทั้งความพยายามที่จะให้เสียงของผู้หญิงเป็นที่รับรู้มากขึ้น

“ฉันคือชาวปาเลสไตน์ที่รังสรรค์ผลงานจากมุมมองและประสบการณ์เฉพาะในแบบของฉันเอง ซึ่งฉันเชื่อมั่นว่าเสียงของฉันสามารถสื่อสารไปถึงผู้คนทั้งหมดได้”

Queer Muslims Exist
Always Have Been

Sources:

• https://www.un.org/en/observances/anti-islamophobia-day 
• https://arabfilminstitute.org/queer-arab-films-to-watch-during-pride-month/ 
• https://www.them.us/story/omar-ayuso-elite-queer-muslim 
• https://www.nytimes.com/2019/05/29/arts/television/the-red-line-gay-muslims.html 
• https://poptized.com/tv-film/being-authentic-in-hollywood-a-conversation-with-love-victors-breakout-star-anthony-keyvan/
• https://phosphormagazine.com/anthony-keyvan
• https://www.nbcnews.com/news/asian-america/bold-type-actress-nikohl-boosheri-plays-confident-empowered-lesbian-muslim-n794676
• https://edition.cnn.com/style/article/in-between-maysaloun-hamoud/index.html 
• https://mubi.com/en/cast/maysaloun-hamoud
• https://www.sundance.org/blogs/give-me-the-back-story-get-to-know-saim-sadiq-the-filmmaker-behind-joyland/