มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ (The Legends of the Condor Heroes: The Gallants) กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง ฉีเคอะ สร้างจากนวนิยายกำลังภายในสุดคลาสสิกจากปลายปากกาของกิมย้ง โดยในภาคนี้ ได้นักแสดงมากมายเข้ามาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น จวงต๋าเฟย รับบทเป็น อึ้งย้ง ไช่เส้าเฟิน รับบทเป็น ลี้เพี้ย (แม่ก๊วยเจ๋ง) เหลียงเจียฮุย รับบทเป็น อาวเอี๊ยงฮง และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ เซียวจ้านในบทบาท “ก๊วยเจ๋ง” พระเอกของเรื่อง
เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของมังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่
ความรู้สึกแรกที่รู้สึกได้ทันทีที่เข้าไปในนั่งในโรงภาพยนตร์ก็คือ “ตื่นเต้น” ทั้งนี้เพราะมังกรหยกเป็นผลงานนวนิยายกำลังภายในคลาสสิกจากปลายปากกาของนักเขียนชื่อดังอย่างกิมย้ง ซึ่งได้รับการดัดแปลงเป็นซีรีส์และภาพยนตร์มาแล้วหลายเวอร์ชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวอร์ชั่นซีรีส์ปี 1983 ที่ได้รับความนิยมล้นหลาม ดังนั้นการหยิบมังกรหยกมาปัดฝุ่นใหม่จึงเป็นเรื่องท้าทายไม่น้อย และฉีเคอะก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง
หนังเดินเรื่องภายใต้ความตึงเครียดระหว่างสามขั้วอำนาจอย่างอาณาจักรซ่งใต้ที่กำลังอ่อนแอ อาณาจักรไต้กิม (ต้าจิน) ของชาวหนี่ว์เจิน (บรรพบุรุษของชาวแมนจู) ที่กำลังเรืองอำนาจ และอาณาจักรมองโกลที่เริ่มผงาด และท่ามกลางความตึงเครียดนี้เองผู้ชมได้พบกับก๊วยเจ๋งผู้กำลังเดินทางตามหาอึ้งย้งนางเอกของเรื่อง
เนื่องจากก๊วยเจ๋งในเวอร์ชั่นนี้เป็นก๊วยเจ๋งเวอร์ชั่นที่เก่งกล้าขึ้นแล้ว กล่าวคือตัวละครได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ไม่ใช่หนุ่มน้อยใสซื่อเหมือนช่วงต้นของวรรณกรรม ทำให้เนื้อเรื่องมีความเข้มข้นมากขึ้น เราจึงได้เห็นก๊วยเจ๋งที่กล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายในรูปแบบต่างๆ มากมายและยังยืนหยัดในเจตนารมณ์ของตนไว้ได้โดยไม่สูญเสียตัวตนแต่อย่างใด
ด้านงานภาพและเสียง:
ฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์เรื่องนี้ออกแบบมาได้อย่างตื่นตาตื่นใจ การออกแบบคิวบู๊มีความสวยงามและดุดัน เทคนิคพิเศษที่ใช้ในการสร้างฉากต่อสู้มีความสมจริงและน่าประทับใจ
ดนตรีประกอบในภาพยนตร์ช่วยสร้างบรรยากาศของเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม เพลงที่ใช้ในการประกอบฉากต่างๆ มีความไพเราะและเข้ากับอารมณ์ของเรื่องราว
บริบททางประวัติศาสตร์:
สำหรับคอประวัติศาสตร์ที่คุ้นเคยกับเหตุการณ์เจ๋งคัง (จิ้นคัง) รับรองว่าต้องตบเข่าฉาด ผู้กำกับไม่พลาดที่จะเล่าเรื่องราวการล่มสลายของราชวงศ์ซ่งเหนือให้ชม แม้จะเป็นแค่ซีนสั้นๆ แต่ก็ตราตรึงและส่งเสริมให้แก่นเรื่องของมังกรหยกชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เพราะเนื้อเรื่องหลักดำเนินเรื่องในช่วงที่มองโกลกำลังจะก่อสงครามกับต้าจิน ตัวละครชาวมองโกลจึงมีบทบาทค่อนข้างมาก ในหนังได้ถ่ายทอดให้เห็นความขัดแย้งภายในของบรรดาองค์ชายที่จะกลายเป็นฉนวนความวุ่นวายในอนาคตได้เป็นอย่างดี ภาพยนตร์ยังใส่เพลงประกอบและบทพูดภาษามองโกลมาให้อย่างจุใจ ดูแล้วสมจริงเหมือนไปนั่งอยู่ในกระโจมท่านข่านยามเกิดสงคราม
โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งทางการเมืองในยุคสมัยนั้นได้อย่างชัดเจน การต่อสู้ระหว่างอาณาจักรต่างๆ เพื่อแย่งชิงอำนาจและการแสวงหาความเป็นใหญ่ถูกนำเสนอออกมาได้อย่างเข้มข้น นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและประเพณีของยุคนั้นได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย การใช้ชีวิต หรือแม้กระทั่งวิถีการต่อสู้ของเหล่าจอมยุทธ์
ความคิดเห็นส่วนตัว:
วิธีการเล่าเรื่องของเวอร์ชั่นนี้ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้กำกับเลือกเล่าเหตุการณ์ในช่วงบทท้ายๆ ของมังกรหยก (บทที่ 34-40) เป็นช่วงที่ก๊วยเจ๋งเก่งกล้าขึ้นแล้ว และสถานการณ์สงครามระหว่างแคว้นกำลังร้อนระอุ เราจึงไม่ได้เห็นตัวละครที่มีบทบาทในช่วงแรกๆ อย่างคูชู่กี อ้วงง้วนอั้งเลียก หรือแม้กระทั่งเอี้ยคังที่มีบทบาทสำคัญในเนื้อเรื่องภาคแรก แต่การลำดับการเล่าเรื่องของผู้กำกับไม่ได้ทำให้รู้สึกสะดุดเลยแม้แต่น้อย คนที่ไม่เคยอ่านบทประพันธ์มาก่อนสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี (ส่วนตัวคิดว่าผู้กำกับคิดถูกแล้วที่ตัดเอี้ยคังออกไป เพราะสามารถเล่าต่อในภาค 2 ได้ หากหนังจะมีภาคต่อ)
จุดที่ชอบที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้คือก๊วยเจ๋งและความสัมพันธ์ของเขากับคนรอบตัว เซียวจ้านถ่ายทอดความรู้สึกของก๊วยเจ๋งออกมาได้ดี คนดูที่ไม่เคยอ่านบทประพันธ์มาก่อนสามารถเข้าใจความคิดของตัวละครได้อย่างชัดเจนผ่านการกระทำ คำพูด และสีหน้า เรียกได้ว่าแม้ก๊วยเจ๋งเวอร์ชั่นนี้จะหล่อเกินบทประพันธ์ไป (ไม่) หน่อย แต่เซียวจ้านก็สามารถรักษาความเป็นก๊วยเจ๋งในช่วงท้ายของบทประพันธ์ได้อย่างเหมาะสม
นอกจากตัวละครก๊วยเจ๋งแล้ว ภาพยนตร์ยังสามารถถ่ายทอดฉากต่อสู้ออกมาได้อย่างดุเดือดและน่าตื่นเต้น การออกแบบคิวบู๊และการใช้เทคนิคพิเศษทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เพลงประกอบจากเพลงดังในฉบับซีรีส์ปี 1983 ยิ่งทำให้เข้มขลัง มีความอลังการและคลาสสิกไปในตัว
โดยรวมแล้ว “มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความประทับใจได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่เข้มข้น การแสดงที่ยอดเยี่ยม หรืองานสร้างที่ประณีต แฟนคลับมังกรหยกและเซียวจ้านจึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
