ช่วงเวลาสำคัญที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการภาพยนตร์อินเดียได้บังเกิดขึ้น เมื่อ ปายาล คาปาเดีย (Payal Kapadia) ได้สลักชื่อของเธอไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ด้วยการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในงานลูกโลกทองคำครั้งที่ 82 นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับชาวอินเดียได้รับเกียรตินี้เลยทีเดียว ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นการยกย่องฝีมือการกำกับที่โดดเด่นของเธอในภาพยนตร์เรื่อง All We Imagine As Light ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม
หนังอินเดียจากผู้กำกับหญิง ปายาล คาปาเดีย เข้าชิง 2 สาขา คือ ผู้กำกับยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม หนังเล่าเรื่องความรักและความเหงาของหญิงสาวในมุมไบ ซึ่งเกรียวกราวมากตอนเปิดตัวที่เมืองคานส์เมื่อต้นปี และเป็นหนังที่ติดท็อปเท็นของนักวิจารณ์เกือบทุกสำนัก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ความโหยหา และความโดดเดี่ยวออกมาอย่างลึกซึ้งโดยมีฉากหลังเป็นความวุ่นวายในเมืองมุมไบ ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงสามคน — ซึ่งเป็นพยาบาลสาวชาวมลยาฬัมสองคน ได้แก่ ประภา (Prabha) และอนุ (Anu) และปารวตี (Parvati) เพื่อนของพวกเธอ ผ่านการถักทอเรื่องราวอย่างประณีต ทั้งสามต้องเผชิญกับความซับซ้อนของชีวิต ความสัมพันธ์ และการฟันฝ่าปัญหาส่วนตัว
เรื่องย่อ: ในมุมไบ กิจวัตรอันจำเจของนางพยาบาล ประภา (คานี คูสรูตี) เกิดสะดุดเมื่อเธอได้รับของขวัญ ที่คาดไม่ถึงจากสามีที่ขาดการติดต่อไปนาน ส่วน อนุ (ดีเวีย ประพา) เพื่อนร่วมห้องของเธอพยายามหาที่เหมาะๆ ในเมืองอันวุ่นวายนี้ใช้เป็นที่พลอดรักกับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นมุสลิม การเดินทางสู่เมืองชายทะเล ทำให้พวกเขา ได้เจอกับแห่งที่ – ที่สามารถปลดเปลื้องภาระหนักอึ้งของชีวิต และปลดปล่อยความปรารถนาในส่วนลึก ของจิตใจออกมาได้
All We Imagine As Light ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวางจากการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งกินใจ งานภาพที่ดึงดูดสายตา และการสำรวจอารมณ์ต่าง ๆ ของมนุษย์อย่างลุ่มลึก ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นจากการคว้าชัยในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ซึ่งคว้ารางวัล Grand Prix อันทรงเกียรติมาได้สำเร็จ การได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งนี้จึงยิ่งตอกย้ำสถานะของภาพยนตร์เรื่องนี้ในฐานะผลงานชิ้นเอกแห่งวงการภาพยนตร์
ปายาล คาปาเดีย เกิดที่มุมไบ ปี 1986 พ่อและแม่ของเธอเป็นจิตรกรและศิลปิน เธอจึงคุ้นเคยกับงานศิลปะ มาตั้งแต่เด็ก ระหว่าง เรียนโรงเรียนประจำในรัฐอุตตรประเทศ คาปาเดียสมัครเข้าชมรมภาพยตร์ และทำให้เธอได้มีโอกาสดูหนังของ ริตวิก กาตัก และ อังเดร ทาร์คอฟสกี จนทำให้เธอหลงใหล ในศาสตร์ของภาพยนตร์ และตัดสินใจเรียนสอบต่อด้านภาพยนตร์ที่สถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งอินเดีย หลังเรียนจบเธอทำงานในมุมไบ ทั้งงานโฆษณาและทำงานวิดีโออาร์ต คาปาเดียเริ่มทำหนังสั้นตั้งแต่ปี 2014 ก่อนจะมาทำสารคดีขนาดยาวเรื่อง A Night of Knowing Nothing ซึ่งได้รับเลือกฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2021 สำหรับ All We Imagine as Light เป็นหนังยาวเรื่องแรกของเธอ ซึ่งผลงานชิ้นนี้ ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากนักวิจารณ์ หลายคนยกย่องว่านี่คือหนังที่พูดถึง “ความเหงาในเมืองใหญ่” ได้ดีเทียบเท่ากับที่ผู้กำกับ หว่องกาไวเคยทำไว้เลยทีเดียว
ทำไมการที่ All We Imagine As Light ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงครั้งนี้จึงสำคัญ:
การได้รับการเสนอชื่อของปายาล คาปาเดีย นั้นมีความสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
- การทลายข้อจำกัด: การเสนอชื่อนี้ถือเป็นการทำลายกำแพงที่ขวางกั้นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอินเดียในเวทีระดับโลก และแสดงให้เห็นถึงพลังและศิลปะของภาพยนตร์อินเดีย
- การยอมรับในระดับสากล: การเสนอชื่อเข้าชิงครั้งนี้นำความสนใจจากสายตาผู้ชมทั่วโลกมาสู่ภาพยนตร์อินเดียนอกกระแส เปิดโอกาสให้เรื่องราวและเสียงที่หลากหลายได้รับการมองเห็นและยอมรับมากยิ่งขึ้น
- แรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่: ความสำเร็จของคาปาเดียกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้กำกับรุ่นใหม่ในอินเดีย กระตุ้นให้พวกเขาท้าทายขอบเขตและเดินตามวิสัยทัศน์ทางศิลปะของตนเอง
การได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงลูกโลกทองคำของปายาล คาปาเดีย ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์อินเดียเลยทีเดียว นับว่าเป็นการเฉลิมฉลองพรสวรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการเล่าเรื่องของผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอินเดีย พร้อมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของภาพยนตร์ที่สามารถก้าวข้ามพรมแดนและเชื่อมต่อกับผู้ชมทั่วโลก ความสำเร็จครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในเวทีโลกของภาพยนตร์อินเดียและเปิดทางสู่อนาคตที่สดใสยิ่งกว่าในการเล่าเรื่องที่หลากหลายและสร้างสรรค์จากอินเดียอีกด้วย
เปิดรอบสนีคพิสูจน์ความยอดเยี่ยม 19-22 ธันวาคม รอบ 1 ทุ่ม ฉายจริง 25 ธันวาคม