เฉลิมฉลอง 350 ปี วัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า ชุมชน วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

| |

เมื่อพูดถึงพื้นที่สามเสน หลายคนอาจจะนึกถึงพื้นที่เขาดินเก่า หนึ่งในสี่แยกที่รถติดมากๆ พื้นที่โรงเรียนเอกชนหญิงล้วนและชายล้วน ซึ่งทั้งสองแห่งตั้งอยู่ติดกัน รวมไปถึงความแออัดของการเดินทางจากรถและถนนที่คับแคบ แต่รู้หรือไม่ว่าในพื้นที่นี้ ถือเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม ศาสนา และผู้คนจากหลายพื้นที่เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะโบสถ์คริสต์ทั้งสองแห่งอย่างโบสถ์นักบุญฟรังซิสเซเวียร์ สามเสน (วัดนอก หรือ วัดญวน) และวัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า (วัดใน หรือ วัดเขมร) โบสถ์พี่น้องที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน

เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 350 ปี วัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้าในปีนี้ จึงอยากจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโบสถ์ดังกล่าวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และความเป็นชุมชน

สารคดีโทรทัศน์ เรื่องฉลอง 350 ปี วัดคอนเซ็ปชัญ (ฉบับภาษาไทย)

โบสถ์คาทอลิกที่เก่าแก่กว่ากรุงเทพมหานคร

ย้อนเวลากลับไปยังสมัยสมเด็จพระนารายณ์ (ค.ศ. 1632-1688) ยุคเฟื่องฟูที่ชาวต่างชาติเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา โดยเฉพาะโปรตุเกส ชาวตะวันตกชาติแรกที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ปี 1500 ในสมัยนั้น ในปี 1674 สมเด็จพระนารายณ์พระราชทานที่ดินในบางกอกให้กับชาวโปรตุเกสเพื่อสร้างวัดสำหรับชุมชนคาทอลิกในบริเวณวัดสมอราย (วัดราชาธิวาส ในปัจจุบัน) ซึ่งผู้รับพระราชทานที่ดินสร้างวัดคือ พระสังฆราชหลุยส์ ลาโน ตั้งชื่อว่า Immaculee conception เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า“แม่พระปฏิสนธินิรมล” หรือที่คุ้นหูกันดีว่า “วัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า”

บันทึกในพงศาวดารได้มีการเขียนถึงวัดคอนเซ็ปชัญเอาไว้ว่า “วัดแม่พระปฏิสนธิ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1  ได้โปรดหามลทินมิได้”  เรียกได้ว่าเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่าพระสังฆราชหลุยส์ ลาโน นับถือแม่พระเป็นอย่างมาก เนื่องจากในสมัยนั้น พระศาสนจักรยังไม่ได้มีการประกาศข้อความเชื่อที่ว่าแม่พระทรงพ้นจากบาปกำเนิดตั้งแต่ปฏิสนธิ เนื่องจากชาวคาทอลิกเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมาล้วนแล้วแต่มีบาปกำเนิดจากมนุษย์คู่แรกของโลก ‘อดัม’ และ ‘เอวา (หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าอีฟ)’ นั่นเอง โดยข้อความที่ว่าพระนางมารีย์ทรงเป็นผู้ปฏิสนธินิรมลนั้น ได้รับการประกาศในวันที่ 8 ธันวาคม 1854 โดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 9

8 ธันวาคม 2024 ทางวัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้าได้มีการฉลองวัด ซึ่งตรงกับวันสมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธิมิรมล และถือโอกาสฉลองชุมชนแห่งความเชื่อ ครบรอบ 350 ปี วัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า (1674-2024) ในคราวเดียวกัน 

ในครั้งนี้ พระสังฆราชเปาโล ไตรรงค์ มุลตรี ประมุขแห่งสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี มาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคุณพ่ออีกจำนวนมาก สัตบุรุษวัด และผู้มีความศรัทธา มารวมตัวกันเพื่อร่วมฉลองวัดครั้งประวัติศาสตร์ ทั้งยังมีการแห่แม่พระรอบวัด เพื่ออวยพรชาวคาทอลิก ณ พื้นที่ชุมชนแห่งความเชื่อนี้

วัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า ชุมชนความเชื่อที่ยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

วัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า ก่อตั้งขึ้นในปี 1674 หลังจากที่สมเด็จพระนารายณ์พระราชทานที่ดินใกล้กับวัดสมอรายให้กับพระสังฆราชหลุยส์ ลาโน และได้มีการใช้พื้นที่นี้ รองรับชาวคาทอลิกที่เป็นโปรตุเกสให้มาตั้งชุมชนในพื้นที่แห่งนี้โดยตลอด วัดหลังแรกมีโครงสร้างลักษณะเดียวกันกับอาคารสมัยอยุธยาตอนปลาย แต่มีขนาดที่ผิดสัดส่วนจากอาคารที่สร้างในกรุงศรีอยุธยาในยุคสมัยเดียวกัน จึงอาจสันนิษฐานได้ว่าโบสถ์หลังแรกมีรูปแบบมาจากอาคารวิลันดาขนาดเล็กในสมัยอยุธยา

ในสมัยรัชกาลที่ 1 ในปี 1782 พงศาวดารมีการเปิดเผยว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ได้โปรดให้ชาวเขมร 500 คน ที่หลบหนีลี้ภัยมาจากเขมร มาอยู่รวมกับชาวโปรตุเกสในหมู่บ้านนี้เท่านั้น และได้มีการเรียกหมู่บ้านว่าบ้านเขมร 

ในปี 1785 มิชชันนารีในกัมพูชาได้พาคริสตชนชาวโปรตุเกสและชาวเขมรอพยพมาที่วัดคอนเซ็ปชัญ และอัญเชิญพระรูปแม่พระ ที่แกะสลักด้วยไม้มาที่นี่ด้วยเช่นกัน รูปสลักแม่พระมีขนาดสูงประมาณ 100 เมตร แกะสลักด้วยฝีมือประณีตบรรจง ลงรักปิดทองงดงาม นำมาประดิษฐานที่วัดคอนเซ็ปชัญแห่งนี้ ซึ่งชื่อของพระรูปแม่พระเรียกว่า “แม่พระไถ่ทาส” หรือคนในพื้นที่เรียกกันว่า “แม่พระตุ้งติ้ง” เนื่องจากประดับด้วยต่างหูตุ้งติ้งนั่นเอง

ต่อมาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ต่อถึงรัชกาลที่ 4 บาทหลวงฌอง บัปติสต์ ปัลเลอกัวซ์ ที่หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะของพระสหายคนสนิทของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ตั้งแต่สมัยดำรงพระยศเป็น “พระวชิรญาณภิกขุ” และผนวชจำพรรษาอยู่ที่วัดสมอราย หรือผู้เขียนงานภาษาศาสตร์ ไวยกรณ์ และพจนานุกรมของไทย แต่สำหรับชาวคาทอลิกเองนั้น ท่านคือพระสังฆราชองค์ที่ 7 ที่ได้มาประจำที่วัดคอนเซ็ปชัญ

ขณะที่ได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดคอนเซ็ปชัญ ปี 1836 – 1837 ก็ได้มีการสร้างวัดขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับจำนวนคริสตังในชุมชนแห่งนี้ที่มีจำนวนมากขึ้น โดยเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน งานสถาปัตยกรรมตามแบบเรอเนสซองส์  อัญเชิญรูปแม่พระจากเขมร มาประดิษฐานไว้ในวัดหลังใหม่ โดยระฆังยังใช้ของเดิมที่มีอยู่แล้ว การสร้างวัดหลังใหม่สำเร็จในปี 1838 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ท่านได้เลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพระสังฆราชอีกด้วย จึงได้ทำการฉลองพร้อมกันที่วัดแห่งนี้

ต่อมาได้มีการสร้างหอระฆังก่ออิฐถือปูนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากหอระฆังเดิมพังทลายลงมาในวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ที่ 22 มีนาคม 1883 คุณพ่อ มาร์แต็ง ยัง  ปิแอร์ (เจ้าอาวาสปี 1857 – 1886) ได้มอบหมายให้ โยอาคิม กรัสซี (สถาปนิกชาวอิตาลี) มาออกแบบหอระฆังขึ้นมาใหม่ตามสถาปัตยกรรมนีโอโรมันเนสก์ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับหอระฆังวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา ซึ่งหอระฆังใหม่นี้ ใช้เวลาประมาณ 2 ปีในการสร้าง มีลักษณะเป็นหอสูงด้านหน้าประตูประธาน ตั้งอยู่ห่างจากตัวโบสถ์ จนกระทั่งคุณพ่อ เออเยน เล็ตแชร์ เจ้าอาวาสปี (1919 – 1922) เชื่อมหลังคาของวัดเข้ากับหอระฆังจนเรียบร้อย 

11 มิถุนายน 2017 ท่านดยุคแห่งบรากันซ่า (Duke of Braganza) แห่งราชวงศ์โปรตุเกส ได้นำพระรูปแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล องค์อุปถัมภ์ของประเทศโปรตุเกส มาให้กับวัดคอนเซ็ปชัญ เพื่อให้เกียรติสัตบุรุษวัดแห่งนี้ที่รักษาความเชื่อมาจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่ชาวโปรตุเกสอพยพจากกรุงศรีอยุธยามาสร้างวัดที่นี้

และในปี 2024 ถือว่าเป็นปีสำคัญของชุมชนแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการฉลองครบรอบชุมชนแห่งความเชื่อ 350 ปี ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสำคัญในทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ศาสนา และผู้คนในพื้นที่ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ธรรมเนียมปฏิบัติของชุมชนวัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า

ด้วยระยะเวลากว่า 350 ปีของชุมชนวัดคอนเซ็ปชัญแห่งนี้ ย่อมมีการผสมผสานทางวัฒนธรร, ทั้งความเป็นไทย คาทอลิก โปรตุเกส และกัมพูชาเข้าด้วยกัน ทำให้ธรรมเนียมปฏิบัติของพื้นที่แห่งนี้มีความพิเศษและน่าสนใจอย่างมากเมื่อเทียบกับชุมชนคาทอลิกแห่งอื่น ไม่ว่าจะเป็นพิธีถอดพระในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ (หรือที่รู้จักกันในนามของ Good Friday) การฉลองแม่พระไถ่ทาส (หรือในพื้นที่ชุมชนเรียกว่า ฉลองแม่พระขนมจีน) ไปจนถึงการฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล ซึ่งถือเป็นวันฉลองวัดและชุมชนแห่งนี้ด้วยกัน

พิธีถอดพระ – วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์

วจนพิธีกรรม วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ พิธีถอดพระ (ระลึกถึงพระทรมานของพระคริสตเจ้า)

วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ หรือวันที่ชาวคาทอลิกถือว่าเป็นวันที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ตามปีพิธีกรรม ที่วัดคอนเซ็ปชัญได้มีพิธีกรรมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษกว่า 100 ปี เพื่อระลึกถึงพระมหาทรมารของพระเยซูขณะตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และฟื้นคืนชีพในวันที่สาม ตามความในพระคัมภีร์

พีธีถอดพระเป็นประเพณีเก่าอย่างหนึ่งของทางยุโรป ในประเทศไทยมีพิธีถอดพระแค่เพียง 2 วัดเท่านั้น คือ วัดคอนเซ็ปชัญ และวัดซางตาครู้ส ล้วนแล้วแต่เป็นวัดของชาวโปรตุเกสทั้งสิ้น ซึ่งพิธีถอดพระของวัดคอนเซ็ปชัญจะเริ่มด้วยการเดินรูป 14 ภาค และจำลองพิธีถอดพระ แห่พระศพของพระเยซูเข้าไปภายในวัด และให้สัตบุรุษเข้าสักการะตามสมควร

พิธีถอดพระนั้น จะเป็นการแสดงที่บอกเล่าเรื่องราว 24 ชั่วโมงสุดท้ายในชีวิตของพระเยซู โดยในปัจจุบัน จะเริ่มตั้งแต่การตรึงกางเขนพระเยซู และจบลงที่การอัญเชิญพระศพลงจากไม้กางเขน  แล้วนำมามอบแก่แม่พระ ก่อนจะแห่รอบโบสถ์และนำไปประดิษฐานไว้ที่หน้าโบสถ์ ซึ่งการจัดพิธีกรรมนี้ จะมีการจัดแสงสีเสียงอย่างเต็มที่ 

ทั้งนี้ ในอดีตยังเป็นการจัดพิธีกรรมภายในโบสถ์ มีการใช้รูปหล่อโลหะตรึงติดอยู่กับไม้กางแขน แต่ส่วนแขนไม่สามารถหุบลงได้ ต่อมาคุณพ่อเลอง กียา (เจ้าอาวาสวัดปี 1904-1914) จึงสั่งซื้อรูปสลักพระเยซูที่สลักจากไม้มาจากฝรั่งเศส ซึ่งมาพร้อมกับแขน 2 ชุด ที่สามารถใช้ได้ทั้งแขนกางและแขนหุบ โดยรูปสลักนี้มีอายุประมาณ 100 ปีแล้ว

ทั้งนี้ วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่ได้มีการจัดขึ้นในวันเดิมของทุกปี ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์คาทอลิก

การฉลองแม่พระไถ่ทาส – 24 กันยายน

พิธีบูชาขอบพระคุณ เนื่องในโอกาสฉลองแม่พระไถ่ทาส

เมื่อพูดถึงแม่พระไถ่ทาส (หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ เดแมร์เซเด (de Mercede)) ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ประเทศสเปน โดยคณะนักบวชที่ชื่อว่า คณะแม่พระไถ่ทาส (Our Lady of Ransom) ในปี 1218 เนื่องจากพระนางมารีย์เสด็จมาประจักษ์ให้กับนักบุญเปโตร โนลาสโก (St. Peter Nolasco), นักบุญเรมอนแห่งเปนาฟอร์ท (St. Raymond of Penafort) และพระเจ้าเจมส์ที่ 1 กษัตริย์แห่งอารากอน (King James I of Aragon) เพื่อให้ไปช่วยคริสตชนที่ถูกแขกมัวร์จับไปเป็นทาส จึงได้มีการตั้งคณะนักบวชขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคริสตชนตามที่พระนางมารีย์ได้บอกเอาไว้ ซึ่งการฉลองแม่พระไถ่ทาส ตรงกับวันที่ 24 กันยายนของทุกปี

สำหรับในประเทศไทย ชุมชนวัดคอนเซ็ปชัญเริ่มฉลองมาตั้งแต่คราวที่ชาวเขมรอพยพเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 1 และได้มีการนำพระรูปแม่พระไถ่ทาสมาด้วย ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตั้งแต่ปี 1785 จนถึงปัจจุบัน

จนกระทั่งปี 1793 ชาวเขมรที่อพยพมานั้น เห็นว่าที่กัมพูชาสงบแล้ว จึงต้องการเดินทางกลับแผ่นดินเกิด แต่เมื่ออัญเชิญรูปสลักแม่พระกลับไปด้วยนั้น เรือของพวดเขากลับหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่เมื่อแจวเรือกลับมาทางวัดคอนเซ็ปชัญ เรือก็ยอมแล่นอย่างง่ายดาย พอจะแจวออกอีกครั้ง ก็ไม่ขยับเขยือน ชาวเขมรจึงแน่ใจว่า แม่พระต้องการที่จะให้พระรูปสลักนี้ประทับอยู่ที่วัดคอนเซ็ปชัญ จึงได้อัญเชิญพระรูปกลับมา ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางกลับกัมพูชาอย่างปลอดภัย

แน่นอนว่าการฉลองนั้นต้องมีอาหารเพื่อเลี้ยงผู้ที่มาร่วมงานด้วย นั่นก็คือ “ขนมจีนคั่วไก่” ที่ได้มีการสันนิษฐานว่าเป็นอาหารดั้งเดิมของชาวโปรตุเกสที่แถบเอเชียที่ได้มีการนำเข้ามาพร้อมกันนั่นเอง ซึ่งขนมจีนคั่วไก่เป็นอาหารที่ชุมชนเลี้ยงกันเฉพาะในงานฉลองแม่พระไถ่ทาส หรืองานมงคลสำคัญ เนื่องจากขั้นตอนที่มีความซับซ้อนนั่นเอง

ชุมชนวัดแห่งนี้จึงได้มีการเรียกแม่พระไถ่ทาสอีกชื่อด้วยว่า “แม่พระขนมจีน” ที่ได้มีการสันนิษฐานมาว่าลักษณะเส้นผมของแม่พระนั้นสยายคล้ายกับเส้นขนมจีนด้วย และในปัจจุบันนี้ สามารถรับประทานขนมจีนคั่วไก่ได้แค่ในพื้นที่ชุมชนวัดคอนเซ็ปชัญ และชุมชนวัดซางตาครู้สเท่านั้น โดยทั้งสองแห่งเป็นชุมชนโปรตุเกสที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย

ซึ่งการฉลองแม่พระไถ่ทาสนั้น ถือเป็นประเพณีที่เก่าแก่ที่สุดในชุมชนคาทอลิกในกรุงเทพที่ยังคงสืบสานต่อมาจนถึงทุกวันนี้

การฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล – 8 ธันวาคม

พิธีบูชาขอบพระคุณ สมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล

วันฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล หรือ Immaculate Conception นั้น แต่เดิมไม่ได้มีการกำหนดเอาไว้ เพียงแต่มีการฉลองกันเฉพาะในพื้นที่ประเทศอังกฤษ และแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ซึ่งในประเทศไทยนั้น พระสังฆราชหลุยส์ ลาโน ก็นับถือแม่พระเป็นอย่างมาก จึงได้มีการนำชื่อนี้มาตั้งเป็นชื่อวัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้าด้วยนั่นเอง

สำหรับคาทอลิกนั้น การประกาศถึงข้อความเชื่อประเภทต่างๆ จำเป็นที่จะต้องผ่านการรับรองจากสมเด็จพระสันตปาปาเสียก่อน ซึ่งข้อความเชื่อที่ว่า แม่พระปฏิสนธินิรมล นั้น เป็นสิ่งที่พระเจ้ามีพระประสงค์ให้เกิดขึ้นนั่นเอง ซึ่งการยืนยันข้อความเชื่อนี้ เกิดขึ้นในสมัยพระสันตปาปาปีโอที่ 9 ในปี 1854 เหมือนบทภาวนาขอแม่พระอย่างบท “วันทามารีย์

สำหรับที่ชุมชนวัดคอนเซ็ปชัญ นอกจากจะเป็นการฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมลแล้ว ยังถือเป็นวันฉลองวัด และชุมชนแห่งความเชื่อนี้ในทุกๆ ปี ซึ่งจะเป็นการฉลองตรงวัน ภายในชุมชนจะมีทั้งงานฉลองวัด และชาวบ้านในพื้นที่ จะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ที่มาร่วมมิสซา โดยเฉพาะเมนูพิเศษที่หาได้เฉพาะที่วัดแห่งนี้ และวัดซางตาครู้สเท่านั้น ได้แก่ “ขนมจีนคั่วไก่” ซึ่งจะรับประทานได้ก็ต่อเมื่อมีมิสซาฉลองในวันสำคัญเท่านั้นสำหรับชุมชนวัดคอนเซ็ปชัญ 

ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025

เปิดประตูสู่ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 “บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง” l นานาสาระ 2024 l EP48 l 1ธ.ค.24

และในปี 2025 พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ได้ประกาศให้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ หรือ Jubilee ที่จัดขึ้นในทุกๆ 25 ปี เพื่อให้คริสตชนได้ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้น ผ่านการแสวงบุญ สารภาพบาป และรับพระคุณการุณย์ ในปีนี้มาในธีม “บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง” (Pilgrims of Hope)” และมาพร้อมกับมาสคอตประจำปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 ที่มีชื่อว่า Luce (ลูเช่) ในภาษาอิตาเลียน แปลว่า แสงสว่าง หรือ ความสว่าง เพื่อเชื่อมโยงเยาวชนเข้ากับกิจกรรมของปีศักดิ์สิทธิ์ และมีทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน ผู้อแอกแบบมาสคอตประจำปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 คือ Simone Legno ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ tokidoki

ซึ่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ก็ได้มีการประกาศวัดทั้ง 4 ที่เป็นเส้นทางจาริกแสวงบุญเพื่อรับพระคุณการุณย์ ไม่ว่าจะเป็นอาสนวิหารอัสสัมชัญ วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา วัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า และสักการสถานบุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง และสำหรับสังฆมณฑลอื่นๆ นั้น ก็ได้มีการประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับปีศักดิ์สิทธิ์ แนวทางปฏิบัติ และการแสวงบุญไปยังวัดต่างๆ ของคาทอลิกด้วย สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://jubilee2025th.com/

ที่ตั้งวัดคอนเซ็ปชัญ

167 ซอยมิตตคาม แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพ 10300

เวลามิสซา:

วันจันทร์-ว้นพฤหัสบดี: 18:30 น.
วันศุกร์: 06:30 น.
วันศุกร์ต้นเดือน: 06:30 น. และ 18:30 น.
วันเสาร์: 17:00 น. (มีพิธีนพวารก่อนเริ่มพิธีบูชาขอบพระคุณ)
วันอาทิตย์: 07:00 น และ 09:00 น.

เวลาเปิดให้แสวงบุญภายในวัด:

วันเสาร์: 10:00 – 16:00 น.
วันอาทิตย์: 10:00 – 12:00 น.

หมายเหตุ: ทางวัดเปิดก่อนเวลามิสซา ประมาณ 1 ชั่วโมง

นอกจากนี้แล้ว ยังสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับวัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้าได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/conception.bkk
YouTube: https://www.youtube.com/@immaculateconceptionchurch7784/ 
เบอร์โทรศัพท์: 089-826-5252 (เจ้าอาวาส) และ 087-686-7346 (เจ้าหน้าที่)

อ้างอิง:

  • https://anurakmag.com/art-and-culture/03/30/2023/conception-a-christian-temple-that-is-older-than-bangkok/
  • https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/digital/api/DownloadDigitalFile/dowload/170334
  • https://kukr.lib.ku.ac.th/kukr_es/kukr/search_detail/dowload_digital_file/28901/64113 
  • https://olransom.org/who-is-our-lady-of-ransom
  • https://ojs.lib.buu.ac.th/index.php/huso2/article/view/9001
  • https://minimore.com/b/H5ztj/1
  • https://sure.su.ac.th/xmlui/handle/123456789/1620
  • http://www.catholic.or.th/main/บริการ/คาทอลิก-มัลติมีเดีย/แวดวงคาทอลิก/6377-พิธีต้อนรับแม่พระแห่งโปรตุเกส
  • http://www.catholic.or.th/events/news/news66/66w.html
  • http://www.catholic.or.th/main/our-services/พระนางมารีอา-และ-วันฉลองแม่พระที่สำคัญ/1675-สมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล-8-ธันวาคม
  • http://www.catholic.or.th/main/บริการ/คาทอลิก-มัลติมีเดีย/ข่าววาติกัน/20458-การ์ตูนสัญลักษณ์ของวาติกันตัวใหม่นี้มีชื่อว่า-“ลูเช่”-luce
  • https://catholichaab.com/main/index.php/2015-09-22-02-42-26/biography/2015-09-22-08-08-12/445-baptiste-pallegoix
  • https://catholichaab.com/main/index.php/1/church7/2/1257-2016-07-15-03-39-19 
  • https://catholichaab.com/main/index.php/2015-09-22-02-42-26/biography/2015-09-22-08-08-12/445-baptiste-pallegoix
  • https://catholichaab.com/main/index.php/2015-09-22-02-42-26/biography/2015-09-22-08-08-12/455-louis-laneau
  • https://www.cbct.or.th/jubilee-2025-vatican-announces-motto-of-jubilee-year-2025/
  • https://www.cbct.or.th/20241206-2/
  • http://www.shb.or.th/article/nanasara/immaculatemary/immaculatemary.html
  • https://www.silpa-mag.com/history/article_134171
  • https://www.facebook.com/groups/750772255456236/posts/1844023246131126/
  • https://www.missionbkk.com/index.php/21-home/2013-05-27-02-41-30/646-8-2
  • https://www.thepeople.co/blogs/read/history/50252
Previous

[Exclusive Interview] Chilling with FIG, an indie pop artist, and floating away with her songs to finish the year!

Consecration สถิตปีศาจ ท้าลองดี “สำนักชีสุดโหด” กระชากความลับสุดสยองที่เล่นเอาสติแตก 16 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

Next