แม้ว่าพื้นที่ของศิลปินเควียร์จะมีมากขึ้นในอุตสาหกรรมดนตรี แต่เมื่อลงลึกลงไปถึงความหลากหลาย เรามักนึกถึงแต่ความหลากหลายทางเพศ จนหลงลืมความหลากหลายอื่นๆ ที่อยู่ในสังคม อย่างความหลากหลายทางเชื้อชาติ ที่หลายครั้งอาจจะทำให้เรามองข้ามกันโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะศิลปินผิวดำ ที่โลดแล่นอยู่ในวงการอยู่จำนวนไม่น้อย แต่อาจจะไม่ได้เป็นที่สนใจสักเท่าไหร่นัก หรือแม้จะเป็นศิลปินชื่อดังแล้ว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้จัก
วันนี้ The Noize Team ชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ Black Queer Artists ศิลปินเควียร์ผิวดำที่มาพร้อมกับผลงานและการถ่ายทอดความเป็นตัวเองผ่านผลงานของพวกเขากัน ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกันเลย
Janelle Monáe (They/She)
สำหรับศิลปิน Black Queer คนแรกที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักคือ Janelle Monáe ศิลปินนอนไบนารี่ เจ้าของเพลงสุดฮิตอย่าง “Pynk”, “Make Me Feel” ผู้มาพร้อมกับส่วนผสมอันลงตัวระหว่างความป๊อปและแนวคิด Afrofuturism ที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในงาน Sci-fi และเทคโนโลยี มีความแหวกแนวและแนวคิดเฉพาะตัวอันแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานของเขายังนำเสนอเรื่องราวของเฟมินิสต์ และ LGBTQIAN+ อีกด้วย
จาเนลบอกกับ StyleLikeU ว่า “ฉันเป็น Non-binary มานานแล้ว แต่ฉันแค่ไม่รู้จะหยิบคำไหนมาใช้มากกว่า ฉันเรียกเอเนอจี้ตอนนี้ของตัวเองที่เป็นมาสคูลีน (ความเป็นชาย) เฟมินีน (ความเป็นหญิง) ว่าใช้น้ำกับก้อนหินแทนมากกว่า การนิยามตัวเองว่าเป็น นอนไบนารี่ ช่วยให้ฉันมีอิสระมากกว่าเดิม”
“ฉันไม่ใช่คนหยิ่งผยองที่คิดว่าตัวเองมีคำตอบสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว สำหรับฉัน คำนิยามเป็นการทำให้แน่ใจว่าฉันจะพูดกับคนอื่นๆว่า ‘ลองทำความรู้จักว่าตัวเองเป็นใครดู’ ปล่อยให้ตัวเองค้นพบสิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเอง เปิดใจรับความเป็นไปได้ต่างๆ ในขณะเดียวกัน ก็ลองฟังสิ่งที่คนอื่นจะสื่อว่าพวกเขาเป็นใคร ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฉันรู้สึกทั้งภายในและภายนอก” จาเนลบอกกับ SiriusXM “สิ่งเหล่านี้สำคัญในการพัฒนาในฐานะมนุษยชาติ เมื่อเราเข้าใจอัตลักษณ์ทางเพศ เหมือนที่เราเข้าใจเพศวิถีมากขึ้น ดังนั้นแล้ว ฉันก็แค่เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดพวกนี้”
แน่นอนว่าจาเนลเองก็ยืนหยัดในจุดยืนของตัวเองด้วย “ฉันจะยืนหยัดเคียงข้างผู้หญิงตลอดไป ฉันจะยืนหยัดเคียงข้างผู้หญิงผิวดำตลอดไป” เขายังบอกผ่านรายการ Red Table Talk ด้วยว่า “ฉันแค่เห็นทุกสิ่งที่ฉันเป็นอยู่เหนือกรอบเพศทวิลักษณ์ เวลาที่ฉันมองเห็นคนอื่นๆ ฉันเห็นพลังของเขาก่อน ฉันไม่เห็นถึงตัวตนของเขา แล้วฉันก็รู้สึกว่ามันทำให้คุณตกหลุมรักจิตวิญญาณที่สวยงาม”
Janelle Monáe
Genre: Funk, R&B, Afrofuturism*
Recommended songs: Django Jane, Lipstick Lover, Q.U.E.E.N.
* Afrofuturism เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสมัยนิยมของคนผิวดำมาอย่างยาวนาน เป็นการผสมผสานความเป็นชาวแอฟริกันพลัดถิ่น เข้ากับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และปรัชญา ซึ่ง Afrofuturism เปรียบเสมือนหนทางที่คนผิวดำจะได้มองเห็นและการขยายขอบเขตความคิดใหม่ๆ และการกำหนดอนาคตด้วยตัวเอง
Kehlani (She/They)
มีใครคุ้นกับ Lesbian Masterdoc บ้าง? หรือใช้มันในการทำความเข้าใจตัวตนของตัวเองบ้าง? ศิลปินนอนไบนารี่ R&B ชาวอเมริกันอย่าง Kehlani เองก็ได้เปิดเผยเอาไว้ในรายการ IMPAULSIVE ว่าเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์แค่กับผู้ชายอย่างเดียว แล้วได้อธิบายเพิ่มด้วยว่า “ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายอีกแล้ว ฉันเปิดตัวว่าเป็นเลสเบี้ยนมาก่อนหน้านี้ และความแตกต่างระหว่างการที่เดทกับผู้ชายและผู้หญิงนั้น มีความแตกต่างกันมากๆ”
เธอเปิดเผยผ่านรายการนั้นต่อด้วยว่า เธอโดนนอกใจ แล้วความสัมพันธ์นั้นก็จบลง “ฉันก็เลยเริ่มคิดกับตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึงไม่อยากมีเซ็กซ์ล่ะ ทำไมฉันถึงไม่ได้รู้สึกอะไรลึกซึ้งเลยล่ะ” แล้ว Kehlani ก็ได้ไปถามกับนักจิตวิทยาเกี่ยวกับความรู้สึกของเธอที่มีต่อผู้หญิงว่าเวลาที่ผู้หญิงมองมาที่เธอ เธอรู้สึกเหมือนละลายไปเลย แล้วจิตแพทย์ของเธอก็บอกว่าเธออาจจะเป็นเกย์ก็ได้นะ ก่อนที่จะส่ง Google doc ที่ชื่อ “Am I a lesbian?” หรือที่รู้จักในนาม Lesbian Masterdoc ที่มีการสร้างขึ้นมาในช่วงปี 2015 โดยประมาณ ซึ่งรายละเอียดในไฟล์นั้น ก็ช่วยให้เธอได้ทำความเข้าใจตัวเองเพิ่มมากขึ้น
Kehlani
Genre: R&B
Recommended songs: After Hours, Blue Water Road, Honey
UMI (She/They)
เมื่อพูดถึงศิลปินเควียร์ Alternative R&B ที่เป็นคนแอฟริกัน-อเมริกัน และมีเชื้อสายญี่ปุ่นนั้น คงจะหนีไม่พ้นกับ UMI ที่ TNT เคยได้แนะนำไปแล้วในส่วนของเพลย์ลิสต์ศิลปินแซฟฟิคชาวเอเชียนั่นเอง แต่สำหรับในครั้งนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเธอคนนี้ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
UMI หรือ Tierra Umi Wilson ศิลปิน R&B ที่อยู่ในวงการมาตั้งแต่ปี 2017 เขาไม่เคยคิดจะตั้งคำถามกับตัวเองเลย ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองเป็นใคร เพราะตัวเองอยู่ท่ามกลางเพื่อนในชุมชน LGBTQIAN+ มาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อประมาณปี 2022 เพื่อนของเขาถามว่าชอบผู้หญิงไหม
“แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็สรุปได้ว่า ฉันคิดว่าฉันชอบผู้หญิงนะ แต่ฉันก็คิดว่าฉันชอบทุกคนเลย ซึ่งมันไม่จำเป็นจะต้องมีเรื่องเพศมาเกี่ยวข้องด้วย” เธออธิบายกับ Love To All เกี่ยวกับการตั้งคำถามถึงตัวเอง “นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของฉัน นอกจากนี้แล้ว ฉันเองก็ต้องใช้เวลาจัดการกับเงื่อนไขทางสังคมของฉันด้วย และต้องหาข้อมูลเพิ่มเพื่อที่จะพูดได้ว่า “มันโอเคนะที่จะชอบผู้หญิง การชอบผู้หญิงไม่ใช่เรื่องแปลก” ปรับเปลี่ยนการรับรู้ของฉัน และสิ่งที่ “ถูก” และสิ่งที่ “ผิด” อีกครั้ง นั่นก็คือการเดินทางของฉันในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา”
เมื่อพูดถึงการนำเสนอตัวแทนผ่านสื่อ UMI ก็มองเห็นเช่นกันว่ามันยังคงขาดความหลากหลายทางเชื้อชาติ ที่มีการนำเสนอเกี่ยวกับคู่รักผิวขาวอยู่เป็นส่วนใหญ่ “แม้ว่ามันจะเริ่มต้นจากคนผิวขาว และพวกเขาต้องการเห็นคนของพวกเขาเป็นตัวแทนภาพจำก่อน แต่มันก็เป็นเรื่องที่สวยงามที่เราสามารถเป็นตัวแทนภาพจำผ่านสื่อตรงนั้นได้ และพวกเขาก็สามารถเปิดรับการนำเสนอภาพตัวแทนผ่านสื่อเพิ่มเติมได้อีกด้วย”
“เป็นเรื่องสำคัญนะที่คนผิวสี (People of color) จะมองเห็นว่าตัวเองเป็นตัวแทนภาพจำได้ เพราะผู้คนอีกมากรอการยอมรับจากเรา และบ่อยครั้ง การยอมรับนั้น ก็ไม่ได้มาจากบ้านของตัวเอง แต่มาจากคนภายนอกรอบๆตัว เพราะงั้น หากคุณสามารถมองเห็นภาพแทนตัวของคุณปรากฎอยู่ในทีวีและภาพยนตร์ แม้ว่าพ่อแม่ของฉันจะไม่ได้เห็นด้วย แต่โลกที่กว้างขึ้นก็มองเห็นตัวตนที่เราเป็น ฉันคิดว่าการนำเสนอภาพตัวแทนอันหลากหลายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ๋งและน่าตื่นเต้นด้วย” เขาเสริมต่อว่า “เมื่อคุณสามารถสร้างการนำเสนอภาพเป็นตัวแทนผ่านสื่อได้มากขึ้น เด็กรุ่นต่อไปก็จะสามารถเติบโตขึ้นมากับการดูทีวีและภาพยนตร์ หรือเล่นเกม ที่มีความใกล้เคียงกับพวกเขามากขึ้น มันเหมือนกับเป็นการส่งไม้ต่อนั่นแหละ”
UMI
Genre: R&B, neo-soul
Recommended songs: Butterfly, happy im, wherever u r
Arlo Parks (She/Her)
Arlo Parks อีกหนึ่ง Black Queer Artist รุ่นใหม่ที่หลายคนติดตามมาอย่างต่อเนื่อง เธอเปิดตัวว่าเป็นไบเซ็กชวลในปี 2019 ผ่านบทสัมภาษณ์ของเธอกับ The Line of Best Fit “ฉันอยากให้เรื่องเพศของฉันเป็นแง่มุมของตัวเอง เพราะไม่มีใครพูดถึงเควียร์ผิวสี (Queer people of colour) สักเท่าไหร่ การแสดงให้คนอื่นเห็นว่ามันไม่เป็นไรเลยที่จะแตกต่าง มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฉัน บางคนก็กลัวมัน ซึ่งฉันเข้าใจนะ”
เธอเสริมต่ออีกด้วยว่า “การเปิดตัวว่าเป็นไบเซ็กชวล ทำให้ฉันมีอิสระมากขึ้น เพราะมันทำให้ฉันสามารถพูดถึงประสบการณ์ และความรู้สึกเกี่ยวกับบางสิ่งหรือผู้คนที่ฉันไม่เคยได้รู้สึกมาก่อน แน่นอนว่ายังมีการตัดสินเพราะอัตลักษณ์นี้อยู่ แต่ฉันไม่อยากหลอกตัวเอง ในฐานะศิลปินไบเซ็กชวล นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ฉันเป็น แค่นั้นแหละ”
นอกจากนี้แล้ว ในปี 2023 เธอยังได้ให้สัมภาษณ์กับ Spotify Glow แพลตฟอร์มใหม่ของ Spotify ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่การมองเห็นให้กับศิลปิน LGBTQIAN+ อาร์โลได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลงานเพลงใหม่ที่ปล่อยตอนนั้นอย่างเพลง Weightless ถึงความเป็นเควียร์ที่เธอนิยามตัวเอง และอิทธิพลต่อการเพลงของเธอว่ามันมีความเกี่ยวโยงกันเสมอ
“การนิยามตัวเองว่าเควียร์ของฉันมักจะอยู่ในผลงาน เพราะมันคือสิ่งที่ฉันเป็น” เธอบอก “ฉันมักจะเขียนเกี่ยวกับความรัก และการค้นหาตัวเองในโลกใบนี้ และการก้าวข้ามผ่านวัย ฉันรู้สึกว่าดนตรีมันเปรียบเสมือนสมุดบันทึกสำหรับฉันด้วย มันเป็นวิธีที่ฉันจัดการกับโลกรอบตัวของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วยว่าฉันเป็นใคร”
นอกจากนี้แล้ว เธอยังได้พูดถึงศิลปินเควียร์ หนังสือ และภาพยนตร์เควียร์ ที่เธอได้รับแรงบันดาลใจมาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น SOPHIE, Beverly Glenn-Copeland รวมไปถึง Phoebe Bridgers, Lucy Dacus, Julien Baker หรือที่รู้จักกันในนาม boygenius นั่นเอง นอกจากนี้แล้ว ยังมี Syd จาก The Internet ด้วยเช่นกัน
อาร์โลยังได้เผยอีกว่า ดนตรีมีส่วนช่วยในการเสริมพลังให้กับชุมชนเควียร์ด้วยเช่นกัน “ดนตรีสร้างความสัมพันธ์ การเชื่อมโยงของผู้คน และเควียร์หลายๆ คนรู้สึกสบายใจอย่างแท้จริงในครอบครัวที่พวกเขาเลือกเอง ฉันรู้สึกว่าดนตรีมีส่วนช่วยในการสร้างสิ่งนั้นจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่อย่างคลับเควียร์ในลอนดอน เด็กเควียร์หลายคนพบว่าตัวเองออกไปเที่ยวกลางคืน เมื่อพวกเขารายล้อมไปด้วยผู้คนที่พวกเขาสามารถเชื่อมโยงให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดด้วย”
เธอกล่าวเสริมในบทสัมภาษณ์ว่า “ฉันยังจำครั้งแรกที่ฉันได้ยินใครบางคนร้องเพลงเกี่ยวกับการเป็นเควียร์ และใช้สรรพนามที่ฉันรู้สึกว่า สามารถนำไปใช้กับเรื่องราวความรักที่ฉันเคยผ่านมาได้ และฉันก็อยากที่จะคืนสิ่งนั้นให้กับผู้คนด้วย ส่วนสำคัญของการให้กำลังใจผู้คน คือการที่ทำให้พวกเขารู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง และดนตรีก็เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมาก”
Arlo Parks
Genre: Alternative/Indie, Pop
Recommended songs: Devotion, I’m Sorry, Jasmine, Pegasus
Arlissa (She/Her)
เมื่อพูดถึงอีกหนึ่งศิลปินป๊อปและเป็น Black Queer Artists ที่เริ่มทำเพลงมาตั้งแต่ปี 2012 ก็คงจะหนีไม่พ้นกับ Arlissa นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ และเป็นอีกหนึ่งศิลปินเควียร์ที่ออกมาขับเคลื่อนเรื่อง LGBTQIAN+ อยู่ตลอดมา
ในปี 2023 Arlissa ขึ้นเวทีของ Spotify GLOW เพื่อร่วมพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ในฐานะของเควียร์ และสายผลิตผิวดำ “โลกไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับคนเช่นเรา ทุกๆ วัน เราต่างใช้เวลาในการมองดูภายในตัวเรา ปลดปล่อย และเยียวยาตัวเอง”
“นั่นคือความงดงามของชุมชนเควียร์ในภาพใหญ่เลยนะ” เธอบอก “ฉันคิดว่าเมื่อคุณเข้าไปในห้อง เจอคนแปลกหน้าที่พยายามต่อสู้เพื่อเป็นตัวของตัวเอง และคุณสร้างดนตรี วาดภาพบนกำแพง หรือจะเป็นอะไรก็ตามเพื่อคนเหล่านั้น มันให้ความรู้สึกปลอดภัย มันคือชุมชนและเป็นการสร้างโลกใหม่ที่เราทุกคนอยากอยู่”
Arlissa
Genre: Pop
Recommended songs: Hard to Be, We Won’t Move
Syd (She/Her)
ที่ขาดไม่ได้ก็คือ Syd นักร้องนำของวง The Internet ที่ถือว่าเป็นหัวหอกของวงการ Bedroom R&B ในตอนนี้เธอก็ได้ก้าวต่อมายังการที่เป็นนักร้องเดี่ยวโดยการใช้ชื่อของเธอเองเลย เรียกได้ว่า นี่ถือเป็นอีกหนึ่ง Black Queer Artists ที่โด่งดังด้วยเช่นกัน
เมื่อมองย้อนกลับไปในปี 2010 เธอเป็นดีเจ และสมาชิกหญิงคนเดียวของกลุ่มฮิปฮอป Odd Future เธอได้เปิดเผยด้วยว่า “ถ้าเกิดคุณจัดอันดับสมาชิกใน Odd Future ฉันก็คืออยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดเลย ฉันไม่คิดว่าจะมีคนมาสนใจฉันสักเท่าไหร่”
นอกจากนี้แล้ว ในปี 2017 เธอได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวที่ชื่อว่า ‘Fin’ และเธอมองว่าเธอไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงเรื่องเพศของเธอเพราะว่าส่วนใหญ่คนมักจะบอกได้ “ในช่วงเริ่มต้นอาชีพของฉัน ฉันตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงบทสนทนาเหล่านั้น แล้วก็ทำให้มันเป็นเรื่องปกติ แบบการเป็นเกย์ก็เป็นเรื่องปกติ” เธอบอก “ทุกวันนี้ฉันไม่อายที่จะพูดถึงหัวข้อพวกนี้แล้วนะ ฉันอยากจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน เด็กผู้หญิงที่อาจจะชอบใส่เสื้อผ้าผู้ชาย แล้วก็ชอบผู้หญิงในแบบโรแมนติก มันไม่มีอะไรผิดเลย”
Syd
Genre: R&B
Recommended songs: Body, Out Loud, Shake Em Off, Fast Car
Ivy Sole (They/Them)
Ivy Sole แรปเปอร์นอนไบนารี่จากฟิลาเดลเฟีย เติบโตมาในชุมชนศาสนาที่เมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา เขาให้สัมภาษณ์กับ Queen City Nerve ถึงอัตลักษณ์ของตัวเองไว้ว่า “ฉันนิยามตัวเองว่านอนไบนารี่ แล้วก็ได้รู้จักกับแนวคิดของอัตลักษณ์นอนไบนารี่และคนข้ามเพศจากโรงเรียนมัธยมปลายของฉัน แล้วฉันก็แบบ ‘ไม่ๆ นี่มันไม่ใช่ฉัน มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย คริสตจักรของฉันบอกว่า คุณเกิดและใช้ชีวิตในร่างกายที่คุณเกิดมาเท่านั้น ฉันเกือบจะแต่งงานกับผูัชายอยู่แล้ว’ แล้วฉันก็รู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้มีพื้นที่พอที่จะอยู่ร่วมกับมันได้ จนกว่าฉันจะได้ออกจากบ้าน แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอยู่ดี”
นอกจากนี้แล้ว ศิลปิน Black Queer คนนี้ยังเสริมต่อด้วยว่า “ฉันไม่ได้มองหามัน หรือแปลงร่างมันเอาไว้ จริงๆ ก็แค่ทำตัวเท่กับมัน แล้วตอนนี้ฉันก็ทำแบบนั้นได้ในเพลงของฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องเป็น หรือฟังดูเหมือนอะไรก็ตามที่ฉันไม่ต้องการให้เป็นเหมือนสิ่งนั้น”
Ivy Sole
Genre: Indian Indie, Hip-Hop/Rap
Recommended songs: Life, Talk That Talk, One More Night
Kaiit (She/He/They)
อีกหนึ่งศิลปินนีโอโซลที่อยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักในครั้งนี้ก็คือ Kaiit ศิลปินนอนไบนารี่ผิวดำ จากออสเตรเลีย ที่มาพร้อมกับผลงานอย่างเพลง Miss Shiney เขาให้สัมภาษณ์กับ the urban list ว่า “ฉันจำได้ว่าแม่บอกฉันว่าเราอาศัยอยู่ติดกับแผนกดนตรีแจ๊ส แล้วมันก็สมเหตุสมผลดี ฉันคิดว่าการผสมผสานระหว่างสิ่งนั้นกับภาพยนตร์ที่ฉันเติบโตมาอย่าง Malcom X หรือ Bugsy Malone ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว ในช่วงโควิดที่ผ่านมาเขาก็ฟังเพลงแจ๊สอยู่ตลอด “ตลอดช่วงโควิด ฉันฟังเพลงแจ๊สในช่วงระหว่าง 1920-1940 เยอะมากๆ จากต้นตำหรับแจ๊สสู่สุนทรียภาพ การเต้นรำ แฟชั่น การแต่งหน้า และศิลปินเควียร์ผิวดำที่อยู่เบื้องหลังช่วงเวลาประวัติศาสตร์สุดเจ๋งแบบนี้” Kaiit เปิดเผยกับ Subvrt Mag เมื่อปี 2022
นอกเหนือจากผลงานเพลงที่มีชีวิตชีวาและดึงเอาจิตวิญญาณออกมานั้น การแต่งหน้าของเขาก็เรียกได้ว่ามีสไตล์ที่โดดเด่นเช่นกัน “ฉันได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงทศวรรษที่ 1920” เขาบอก
Kaiit
Genre: R&B/Soul
Recommended songs: Miss Shiney, Space, 2000 n SOMETHIN, OG Luv Kush pt.2
Jamila Woods (She/Her)
นักร้อง กวี และนักแต่งเพลงอย่าง Jamila Woods ถือเป็นอีกหนึ่ง Black Queer Artists ที่เป็นเควียร์ไอค่อนแห่งวงการนีโอโซลก็ว่าได้ เธอเป็นกระบอกเสียงให้กับเฟมินิสต์ผิวดำและอัตลักษณ์ในชุมชนของเธอด้วยเช่นกัน
ผลงานของเธอได้อิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของวัยรุ่นผิวดำ ซึ่ง Jamila ได้บอกกับ Loud and Quiet เอาไว้ว่า “คนผิวดำมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ความหมายใหม่ๆ และคำศัพท์ที่แตกต่างจากเดิมเพื่ออธิบายถึงสิ่งต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นบทกวีที่สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ”
Jamila Woods
Genre: R&B/Soul, Hip-Hop/Rap
Recommended songs: Practice, Still, Tiny Garden, Boomerang
Dizzy Fae (She/Her)
“ความรู้สึกของฉันถึงการเป็นเควียร์ และมีผิวสีน้ำตาล อาจจะเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากบนโลกรู้สึกถึงได้” Dizzy Fae อีกหนึ่ง Black Queer Artists รุ่นใหม่ที่อยากจะให้แนะนำให้คุณได้รู้จัก เธอมาจากมินนิโซตา ที่พร้อมจะก้าวสู่เส้นทางดนตรีและโบกธงไพร์ดในฐานะนักดนตรีที่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นเควียร์ “ถ้าฉันสามารถเป็นอะไรก็ได้ ฉันก็อยากที่จะเป็นคนที่ใครๆ มองมาแล้วรู้สึกว่า ‘ฉันเข้าใจคุณนะ'”
จากบทสัมภาษณ์ของเธอและ Gay Times เราได้เห็นทัศนคติของศิลปินเควียร์รุ่นใหม่ที่พร้อมตะโกนบอกออกไปว่า ‘ฉันเป็นเควียร์’ พร้อมกับนำเสนอความเป็นตัวเองผ่านทางดนตรีและมิวสิควิดีโอของเธออย่างเพลง “Her/Indica” ที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของการตกหลุมรักผู้หญิงเป็นครั้งแรก “มันอาจจะเป็นความรักที่แท้จริงหรือไม่ก็ได้ แต่มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้ฉันรักตัวเองนะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่สนุกและสวยงามมากๆ เลยล่ะ” Dizzy เสริมต่อด้วยว่า “ฉันเชื่อว่า ความเป็นเควียร์ คือสิ่งที่ครอบคลุมทุกอย่างเอาไว้ มันคือการรู้ว่าตัวเองเป็นใคร และยอมรับในสิ่งที่คุณไม่ได้เป็นได้”
เธอนิยามตัวเองงว่าเป็น ‘เควียร์’ และได้บอกกับ Gay Times ด้วยว่า “มันเป็นการค้นพบที่ค่อนข้างเร็วสำหรับฉัน ฉันมันค่อยยุ่งกับการค้นหาตัวเองว่าเป็นใคร แล้วฉันก็เคยตั้งคำถามว่า ‘ฉันเป็นเลสเบี้ยนหรือเปล่า หรือฉันเป็นแค่ไบเซ็กชวลนะ’ แต่จริงๆ คือไม่เลย ฉันคิดว่าตัวเองสามารถตกหลุมรักใครก็ได้ ตกหลุมรักคนข้ามเพศ ตกหลุมรักนอนไบนารี่สักคน แล้วฉันก็มีความสุขมากที่นิยามตัวเองว่าเป็น ‘เควียร์’ และฉันใช้ชีวิตอย่างที่เป็นเพราะว่าฉันนิยามตัวเองแบบนี้แน่นอน”
“ฉันตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งตอนอายุ 16 ปี” Dizzy Fae พูดถึงประสบการณ์ของเธอ “ฉันมักทำอะไรเล่นๆ อยู่เสมอ ไปนอนบ้านเพื่อนด้วย” เธอบอก “เธอเป็นคนที่ทดลองอะไรใหม่ๆ แต่สำหรับฉัน ฉันว่ามันเยอะไป ตอนที่ฉันค้นพบอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับตัวเอง มันเหมือนกับการตื่นนอนตอนเช้า แล้วก็รู้สึกว่า ‘ฉันเพิ่งตื่นนะ’ มันอาจจะใช่หรือไม่ใช่ความรักที่แท้จริงก็ได้ แล้วก็มีเรื่องนั้นวนอยู่ในหัว”
สำหรับมุมมองของ Dizzy Fae ต่อการคัมเอาท์ หรือเปิดตัวว่าตัวเองเป็นเควียร์นั้น เธอได้บอกว่า “ฉันคิดว่าการเปิดเผยตัวตนเป็นเรื่องที่สวยงาม ฉันชื่นชมทุกคนที่เปิดตัวตนในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในอาชีพการงานของแต่ละคน อย่าง Frank Ocean ตอนที่อยู่ในกลุ่ม Odd Future งี้” เธอเสริมด้วยว่า “ฉันคิดว่าการเปิดตัวในช่วงเริ่มต้นอาชีพมันง่ายกว่ามาก และตรงไปตรงมา นั่นคือสิ่งสำคัญมากในการสร้างตัวตนของคุณ”
นอกเหนือจากนี้ การมีตัวแทน LGBTQIAN+ ผิวสี (People of Color) มากขึ้น มันสำคัญมากๆ “มีคนมากมายที่เป็นเหมือนฉัน เป็นลูกครึ่ง เป็นเควียร์ สิ่งที่ฉันทำได้คือการสร้างความเข้าใจ สร้างความสัมพันธ์ มันไม่ใช่แค่สิ่งที่ฉันพยายามจะทำ แต่เป็นสิ่งที่ฉันพยายามจะเป็นส่วนหนึ่ง เพราะงั้น ฉันก็เลยพยายามแสดงสิ่งที่มีความหมายออกมา และสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับฉันก็คือ การเป็นเกย์และเป็นคนผิวสี”
นอกจากนี้แล้ว เธอยังเคยให้สัมภาษณ์กับ Billboard ด้วยว่า “การเติบโตในฐานะเควียร์ คนผิวสี และลูกครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นที่มินนิโซตาหรือที่ไหนก็ตาม ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสามารถจัดหมวดหมู่หรือจับวางได้ง่ายๆ นะ มันเป็นสิ่งที่ฉันเองก็ยังคงพยายามหาทางอธิบายอยู่เหมือนกัน” เธอยังเสริมต่อด้วยว่า “ถ้าคุณถามคำถามนั้นกับฉันอีกทีตอนอายุ 25 คุณก็อาจจะได้คำตอบที่มีการพัฒนาขึ้นจากเดิมก็ได้ แล้วฉันก็โอเคกับเรื่องนั้นนะ”
Dizzy Fae
Genre: Pop, Hip-Hop/Rap
Recommended songs: Don’t Hate For Me, Her/Indica, I Can’t Lend You My Heart, Booty 3000, Play The Video, You’re Always On My Mind
Ma Rainey (She/Her)
พูดถึงศิลปินยุคปัจจุบันกันมาค่อนข้างเยอะ คนต่อไปที่ TNT อยากจะแนะนำก็คืออีกหนึ่งศิลปิน Black Queer ตัวแม่ หรือ เจ้าแม่เพลงบลูส์ (Mother of the Blues) นั่นเอง ซึ่งเธอคนนั้นก็คือ Ma Rainey
Ma Rainey หรือ Gertrude “Ma” Rainey เกิดในปี 1886 และเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาอยู่ในช่วงที่ Harlem Renaissance กำลังรุ่งเรือง (ยุคของวัฒนธรรมแอฟริกัน-อเมริกัน ช่วงกลางปี 1918 – 1930) หรือยุคที่เขาว่ากันว่าเป็นยุคที่ “เปิดเผยความลับ” ของศิลปินบลูส์ผิวดำที่เป็นเลสเบี้ยนหรือไบเซ็กชวล โดยเฉพาะวงการคลับดนตรีบลูส์ โดยเฉพาะชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่เป็นเกย์และเลสเบี้ยน ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและได้รับการยอมรับ พื้นที่นี้ทำให้พวกเขาามารถใช้ชีวิตแบบรักเพศเดียวกันได้มากกว่าพื้นที่อื่นๆ ในประเทศ
ในส่วนของศิลปินผิวดำผู้หญิง ก็ได้ใช้พื้นที่บนเวทีในคลับดนตรีบลูส์ในการสำรวจความต้องการทางเพศและความหลากหลายของพวกเธอบนเวทีด้วยเช่นกัน และคลับบลูส์หลายๆ ที่ ได้มีการทำการตลาดเพื่อกลุ่มเลสเบี้ยนโดยเฉพาะ เพราะพวกเขาได้อ้างว่า สถานที่นี้ “เป็นพื้นที่ที่ผู้หญิงสามารถเป็นผู้ชายได้”
และแม้ว่าความหลากหลายทางเพศในยุคนั้นจะดูเป็นเรื่องแปลกประหลาดของโลกคนขาว แต่ Ma Rainey ก็ไม่เคยจะปิดบังตัวตนของเธอเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะแต่งงานและใช้ชีวิตคู่กับ Pa Rainey กว่า 20 ปี และหลังจากหย่าร้างกับเขา เธอก็ไม่ได้ปกปิดความเป็นตัวเองเลยสักครั้ง นอกจากนี้แล้ว เธอยังเคยโดนตำรวจชิคาโก้จับกุมในปี 1925 ด้วยข้อหาจัดงานปาร์ตี้เลสเบี้ยนก็ตาม ซึ่งคนที่ไปประกันตัวเธอให้ออกมาจากคุกก็คือ Bessie Smith ศิลปินหญิงบลูส์ชื่อดัง ที่มีข่าวลือว่ามีความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกกับ Ma Rainey ด้วย
ในส่วนของผลงานเพลงนั้น Ma Rainey เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นเควียร์อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเพลง Bull Dyker’s Dream ของ Lucille Bogan ที่เธอหยิบมาร้อง ในบางครั้งอาจถูกเรียกในชื่อว่า B.D. Women หรือ B.D.’s Dream ที่ถูกพูดถึงว่าเป็นเพลงเลสเบี้ยน
ถัดมากับเพลง Sissy Blues ที่เล่าเรื่องราวของหญิงที่แฟนหนุ่มทิ้งไปเพื่อไปหาผู้หญิงข้ามเพศที่ชื่อ Miss Kate หรือเพลง Prove It On Me Blues ที่มีเนื้อร้องกล่าวถึงความรักต่อผู้หญิงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่ไม่ได้ชอบผู้ชายคนไหนเลย คุยกับสาวๆ เหมือนกับผู้ชายแก่ๆ ทั่วไป
นอกจากผลงานเพลงแล้ว Ma Rainey ก็มักจะแต่งตัวแบบบุช (butch) เมื่อไม่ได้อยู่บนเวที มากกว่าสวมชุดแบบผู้หญิงเหมือนที่เธออยู่บนเวที
Ma Rainey
Genre: Bules
Recommended songs: Prove It On Me Blues, Sissy Blues
Billie Holiday (She/Her)
คนสุดท้ายของบทความเพลย์ลิสต์ Black Queer Artists ที่ TNT ในครั้งนี้ อยากจะขอแนะนำก็คือ Billie Holiday ศิลปินแจ๊สผิวดำ ที่มาพร้อมกับบทเพลงฮิตจำนวนมากมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้ม Lady Sings the Blues, Solutide เป็นต้น
Bille Holiday เกิดมาพร้อมกับชื่อ Eleanora Fagan Gough และเริ่มต้นสายอาชีพในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 แม้ว่าจะไม่เคยเรียนร้องเพลงหรืออ่านโน้ตเพลงก็ตาม แต่เธอก็เรียนรู้ที่จะหางานร้องเพลงในไนท์คลับที่ฮาร์เล็ม เรียนรู้การด้นเพลงสด และเธอได้ใช้ชื่อบทเวทีว่า Billie Holidau ที่ตั้งตามชื่อนักแสดงหนังเงียบที่เธอชื่นชอบ และนามสกุลมาจากนามสกุลของพ่อของเธอ
ในวัย 18 ปี มีโปรดิวเซอร์แมวมองอย่าง John Hammond ค้นพบ เขาประทับใจในทักษะการแต่งเพลงและการแสดงสดของเธอเป็นอย่างมาก พร้อมกับได้ร่วมงานกับศิลปินใหญ่อย่างมากมาย ทำให้ Billie Holiday ได้ออกแผ่นเสียง และกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในวงการดนตรีอย่างรวดเร็ว ซึ่งผลงานของเธอนั้น ได้มีการนำเอกลักษณ์ของศิลปินรุ่นก่อนๆ มาผสมผสานกันจนกลายมาเป็นสไตล์ของเธอเอง
สำหรับความเป็นไบเซ็กชวลของเธอนั้น Billie Holiday แต่งงานกับชายหนุ่มสามคน และเธอก็มีประวัติการนอกใจตลอดช่วงชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นกับ Orson Welles, Charles Laughton, คนที่อยู่ในสังคมชั้นสูงอย่าง Louise Crane หรือแม้กระทั่งนักแสดงสาวไบเซ็กชวลอย่าง Tallulah Bankhead ที่คบกันมาอย่างยาวนาน แม้ว่าในช่วงปี 1949-1952 ที่ Tallulah Bankhead ตีตัวห่างจาก Billie Holiday เพราะกลัวว่าความสัมพันธ์นี้จะทำลายอาชีพของเธอก็ตาม
ในช่วงทศวรรษที่ 1930 เธอได้รู้จักกับบทกวีชื่อ Strange Fruit ที่เขียนถึงภาพอันสยดสยองของการแขวนคอในทางใต้ของสหรัฐอเมริกา เพลงนี้เขียนขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ และนักวิชาการจำนวนมากมองว่านี่เป็นเพลงประท้วงเพลงแรกในยุคที่มีสิทธิมนุษยชน แน่นอนว่าเนื้อเพลงนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งเป็นอย่างมาก จนค่ายเพลงไม่ยอมบันทึกเสียง ทำให้เธอตัดสินใจย้ายไปสังกัดค่ายเพลงอิสระ และทำให้เพลง Strange Fruit กลายเป็นจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเลยก็ว่าได้
Billie Holiday
Genre: Jazz
Recommended songs: Strange Fruit, Lady Sings The Blues, Miss Brown to You
สามารถฟังเพลย์ลิสต์ Black Queer Artists ได้ทั้งบน YouTube และ Spotify
เลือกฟังเพลย์ลิสต์สุดปังจาก The Noize Magazine ได้ที่
- made by asian เพลย์ลิสต์จาก Queer Asian Artists ฟังเลยที่ YouTube และ Spotify
- Queer Now รวมบทเพลงจากศิลปินเควียร์ยุคใหม่ ฟังเลยที่ Spotify
- Be Proud รวมบทเพลงจากศิลปินและนักแต่งเพลงเควียร์ ฟังเลยที่ Spotify
- Sapphic Rock ชวนฟังเพลงร็อกจากศิลปินเควียร์ ฟังเลยที่ YouTube และ Spotify
Sources:
- https://www.essence.com/entertainment/a-beginners-guide-afrofuturism/
- https://www.them.us/story/kehlani-lesbian-dating-men-logan-paul-podcast
- https://www.thecut.com/2022/06/what-is-the-lesbian-masterdoc.html
- https://www.byrdie.com/kehlani-interview-5203051
- https://www.thepinknews.com/2023/02/17/arlo-parks-queer-identity-music/
- https://20230524t095215-dot-pr-newsroom-wp.uc.r.appspot.com/2023-02-16/glow-artist-arlo-parks-is-inspired-by-vulnerability-personal-connection-and-queer-representation/
- https://www.instagram.com/arlissa/reel/CoAkY4VJBq0/
- https://www.billboard.com/culture/pride/syd-the-internet-interview-billboard-pride-2018-8460693/
- https://www.youtube.com/watch?v=5lWeKzqLMcw
- https://www.hotnewhiphop.com/131216-syd-on-odd-future-and-her-sexuality-everybody-was-gay-the-whole-time-news
- https://qcnerve.com/a-candid-chat-with-ivy-sole/
- https://www.loudandquiet.com/interview/jamila-woods-the-chicago-artist-in-her-own-words/
- https://www.gaytimes.com/culture/dizzy-fae-on-being-a-liberated-queer-woman-of-colour-in-the-music-industry/
- https://www.billboard.com/culture/pride/dizzy-fae-interview-artist-of-the-month-8512882/
- https://si-siris.blogspot.com/2019/10/prove-it-on-me-ma-rainey-and-queer-blues.html
- https://tidal.com/magazine/article/jazz-lgbtq-roots/1-73347
- https://www.billboard.com/culture/pride/ma-rainey-lesbian-lyrics-7824784/
- https://www.womenshealthmag.com/life/a35014028/ma-rainey-bisexual-netflix/
- https://www.biography.com/musicians/ma-rainey
- https://outhistory.org/exhibits/show/rainey/rainey2
- https://si-siris.blogspot.com/2019/10/prove-it-on-me-ma-rainey-and-queer-blues.html
- https://www.womenshistory.org/education-resources/biographies/gertrude-ma-rainey
- https://www.historicalhomos.com/queeriosities/bisexual-blues
- https://billieholiday.com/bio/
- https://bi.org/en/articles/famous-bis-billie-holiday
- https://starsandletters.blogspot.com/2017/04/tallulah-billie.html