“สมรสเท่าเทียม” เตรียมใช้จริงใน 120 วัน ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว

| | ,

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นเวลากว่า 23 ปี ที่มีการต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิเท่าเทียมกับบุคคลตรงเพศในประเทศไทย ในที่สุด “สิทธิในการสมรส” หรือ สมรสเท่าเทียม นั้น ได้มีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีผลบังคับใช้ทันทีหลังประกาศในเวลา 120 วัน หรือสามารถใช้จริงได้ในวันที่ 22 มกราคม 2025 หลังจากได้มีการผลักดันอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกในรัฐบาลของ เศรษฐา ทวีสิน

อ่านราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567

สมรสเท่าเทียม คืออะไร?

สมรสเท่าเทียม คือ การสมรสมอบคืนสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายของคู่สมรสผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้ได้เทียบเท่ากับสามี-ภรรยา ตามกฎหมายเดิม เพื่อให้พวกเขาได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายตามหลากความเสมอภาคและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ก่อให้เกิดสิทธิต่างๆ กับคู่สมรส เช่นเดียวกับสิทธิของสามี-ภรรยา โดยผูกพันตามกฎหมาย ทั้งในด้านการหมั้น การจดทะเบียนสมรส การจัดการทรัพย์สินสมรส การรับมรดก การรับบุตรบุญธรรม ไปจนถึงสิทธิต่างๆ ที่กฎหมายรับรอง

เหตุผลในการประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้

ภายในประกาศของราชกิจจานุเบกษา ได้มีการให้เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้เอาไว้ด้วยว่า สถาบันครอบครัวเป็นหน่วยสำคัญในการพัฒนาสังคมและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่การก่อตั้งครอบครัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จำกัดเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบันที่มีการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย โดยมีการอุปการะเลี้ยงดูและมีความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างไปจากคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อรองรับให้บุคคลเพศหลากหลายสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ หน้าที่และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลไม่ว่าจะมีเพศใด เว้นแต่จะเป็นกรณีที่มีกฎหมายอื่นกำหนดเรื่องครอบครัวหรือมรดกไว้เป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

สมรสเท่าเทียม - marriage equality

สิทธิที่ผู้มีความหลากหลายทางเพศจะได้รับคืนสิทธิจากกฎหมาย

การได้มาของ สมรสเท่าเทียม ในครั้งนี้ ถือเป็นการคืนสิทธิให้กับผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยที่บุคคลตรงเพศและบุคคลรักต่างเพศยังคงได้รับสิทธิทุกอย่างเหมือนเดิมทุกประการ นั่นหมายความว่า ทุกคนจะได้รับประโยชน์และเข้าถึงสวัสดิการจากภาครัฐได้เท่าเทียมกันทุกคนนั่นเอง ซึ่งสาระสำคัญที่ได้มีการปรับจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เดิมมีทั้ง

  • การสมรส ไม่ว่าบุคคลจะมีเพศสภาพ หรืออัตลักษณ์ทางเพศอย่างไร เมื่อจดทะเบียนสมรสกัน ให้ถือว่าเป็น “คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย”
  • คำว่า “คู่สมรส” ไม่จำกัดแค่ที่ ชาย กับ หญิง เท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงทุกเพศสภาพ
  • ปรับให้ใช้คำที่เป็นกลางทางเพศมากขึ้น เช่น “สามี-ภรรยา” ปรับเป็น “คู่สมรส” และคำว่า “ชาย-หญิง” ปรับเป็น “บุคคล” ไปจนถึงคำว่า “ผู้หมั้น” และ “ผู้รับหมั้น” ด้วย
  • ปรับอายุขั้นต่ำในการสมรสจาก 17 ปี เป็น 18 ปีบริบูรณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก แต่ยังคงข้อยกเว้นให้บุคคลสามารถสมรสอายุต่ำกว่า 18 ปี ต่อเมื่อมีเหตุอันสมควรและศาลอนุญาต
  • คู่สมรสสามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้ และให้บุตรบุญธรรมใช้นามสกุลคู่สมรสได้ โดยจะต้องมีอายุแก่กว่าบุตรบุญธรรมอย่างน้อย 15 ปี (ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1598/26)
  • การเรียกค่าทดแทนและเหตุฟ้องหย่า ครอบคลุมกรณีที่คู่หมั้นหรือหรือคู่สมรสฝ่ายหนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับบุคลอื่นไม่ว่าจะเป็นเพศใด (แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1445 และมาตรา 1516 (1))
  • ระยะเวลาการสมรสใหม่ มีการแก้ไขเงื่อนไขว่าให้ใช้เฉพาะกับกรณีที่หญิงมีชายเป็นคู่สมรสเดิม และจะสมรสใหม่กับชายเท่านั้น (แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1453)

นอกจากนี้ คู่สมรสจะได้รับสิทธิในการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิในการเป็นผู้จัดการแทนในทางอาญา เช่นเดียวกับสามี-ภรรยา สิทธิในการรับมรดกหากอีกฝ่ายเสียชีวิต สิทธิในการรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม สิทธิในการฟ้องหย่า สิทธิในการรับบุตรบุญธรรม สิทธิในการเซ็นยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย สิทธิในการจัดการศพ ไปจนถึงสิทธิและสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส เช่น สิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนจากประกันสังคม สิทธิในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

การได้มาถึงสิทธิในการสมรสที่เท่าเทียมเช่นเดียวกับคู่รักต่างเพศนั้น ถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญในการต่อสู้ของชุมชน LGBTQIAN+ ในประเทศไทย และความก้าวหน้าในครั้งนี้ จะไม่หยุดอยู่แค่เพียงกฎหมายฉบับนี้เท่านั้น แต่เป็นการเปิดประตูไปสู่กฎหมายต่างๆ เพื่อให้บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ และคนชายขอบ ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างแท้จริง

Photo by Aiden Craver on Unsplash

Previous

“ไม่เคยรู้” ซิงเกิลล่าสุดจาก Safeplanet คำตอบสวยงามที่ซ่อนอยู่ในเพลง แล้วเตรียมไปร้องพร้อมกันใน “Safeplanet Departure Concert” 28 กันยายนนี้!

The Aces กลับมาแล้ว! กับเพลงสุดฮอตที่จะชวนให้คุณหลงใหลใน The Magic

Next