เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกทะยานสู่พื้นจันทร์กับภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดอย่าง “FLY ME TO THE MOON” ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์ กับภารกิจของยานอพอลโล 11 โดยนาซา ที่ทะยานสู่ดวงจันทร์ เตรียมเข้าฉาย 1 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งในวันนี้ เราไปดูกันว่า “แชนนิ่ง เททัม” รับบท “โคล เดวิส” ผู้อำนวยการฝ่ายปล่อยยานอวกาศ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงานในกองถ่ายของภาพยนตร์เรื่องนี้
แชนนิ่ง เททัม เผยว่า บทที่เขาแสดง (โคล เดวิส) คือตัวละครที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผู้ที่เคยทำงานในโครงการนาซ่า “โคลเป็นนักบินที่เก่งมาก แต่ด้วยปัญหาทางกายภาพทำให้เขาทำมันไม่ได้ เขาจีงช่วยให้เพื่อนๆ ของเขาที่เป็นนักบินได้ไปดวงจันทร์ ตอนนี้เขาเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของนาซ่า การทำงานแข่งกับเวลาเพื่อเป็นประเทศแรกที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ เขาต้องรับมือกับมัน เหตุการณ์นี้ทำให้เขาได้เจอกับ เคลลี่ เธอเข้ามาคลี่คลายและหาเงินสนับสนุนให้กับโครงการ ถึงแม้ว่าแต่ละวิธีของเคลลี่นั้น เขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม เคลลี่ เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างในโลกของผู้ชาย เธอเหมือนกับลูกโบว์ลิ่งที่พุ่งเข้าชนและทำลายล้างทุกอย่าง จากนั้นเธอก็ค่อยๆนำสิ่งที่ถูกทำลายนั้นกลับ มาประกอบขึ้นมาใหม่ในวิธีที่ดีกว่าเดิม”
“FLY ME TO THE MOON มันแตกต่างจากสคริปต์หนังเรื่องอื่นๆ มันเป็นหนังที่คุณไม่ค่อยเห็นถูกนำมาสร้างมาก่อนอย่างแน่นอน มันมีโทนแบบเก่า อย่างที่สการ์เลตต์บอก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหนังยุคเก่าแต่มันก็ให้ความรู้สึกที่ทันสมัย และเมื่อผมได้พบกับ เกร็ก ผู้กำกับ เขาอยากให้เราเล่นกับตัวสคริปต์ มันทำให้หนังสด ใหม่ ไม่แข็งกระด้าง ผมตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนนึงในโปรเจคที่โดดเด่นแบบนี้ เกร็กให้อิสระผมในการเล่น แสดง และพูดมันออกมา ตราบใดที่ผมยังคงความเป็นตัวละครของผม ผมออกแบบความสัมพันธ์ สร้างความขัดแย้งระหว่างตัวละครอื่นๆได้ ผมว่าหนังเป็นเหมือนกระจกสะท้อนของเราในทุกแง่มุม มันสนุกมาก ทั้งฉลาดและยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีฉากที่ยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเราในอเมริกาอีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว แชนนิ่งยังได้พูดถึงการทำงานร่วมกับ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน ด้วยว่า “เธอทำหมูตุ๋นได้อร่อยมาก เธอเป็นแม่ครัวที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว สการ์เลตต์เธอคือผู้นำของพวกเรา เธอทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูสนุกสนาน เธอเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว อยู่ดีๆ เธอก็เข้าสู่โหมดจริงจัง พร้อมบทพูดที่ยาวๆ แบบสองหน้ากระดาษ และเธอก็พูดออกมาจนทำให้คุณรู้สึกสะเทือนใจจนต้องคล้อยตาม แถมเธอยังรู้จังหวะบีบน้ำตาให้ไหลออกมาระหว่างที่เธอพูดบทนั้นได้อย่างเหมาะสม หรืออย่างเวลาที่เรากำลังทำอะไรตลกๆ ด้วยกัน อยู่ๆ เธอก็เปลี่ยนอารมณ์เป็นโหมดอื่นได้ทันที ซึ่งผมเองก็ลืมไปว่าเธอเป็นนักแสดงมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์ และเธอเองก็ทำงานนี้มานานมากแล้ว เธอเยี่ยมยอดไปเลย”