ในตอนที่กลุ่มเพื่อนได้ละเมิดกฎศักดิ์สิทธิ์ของการอ่านไพ่ทาโร่ต์อย่างไม่กลัวเกรง — ห้ามใช้สำรับไพ่ของคนอื่น — พวกเขาก็ได้ปลดปล่อยปีศาจชั่วร้ายที่ถูกขังอยู่ในไพ่ต้องสาปเหล่านี้ออกมาโดยไม่รู้ตัว ทีละคนๆ พวกเขาได้เผชิญหน้ากับชะตากรรมและลงเอยด้วยการท้าดวลกับมฤตยูเพื่อหลบหนีจากอนาคตตามคำทำนายที่พวกเขาได้รับ
Screen Gems ภูมิใจเสนอ Tarot ผลงานสยองขวัญสร้างโดยอัลลอย เอนเตอร์เทนเมนต์ ร่วมกับกราวน์ คอนโทรล ภาพยนตร์โดยสเปนเซอร์ โคเฮน & แอนนา ฮัลเบิร์ก (จาก Distant และ House/Wife) เขียนบทและกำกับโดยสเปนเซอร์ โคเฮน & แอนนา ฮัลเบิร์ก
“มีธรรมชาติบางอย่างที่น่ากลัวเกี่ยวกับไพ่ทาโร่ต์และคำนายไพ่ทาโร่ต์” แอนนา ฮัลเบิร์ก ผู้ที่ร่วมมือกับคู่หูการเขียนบทและกำกับของเธอ สเปนเซอร์ โคเฮน เนรมิตชีวิตให้กับไพ่ทำนายอย่างสุดสะพรึงในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องนี้กล่าว
“เรารักโหราศาสตร์และลัคนาราศี เพราะมันเป็นวิธีที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง และมันก็ยังเป็นวิธีที่จะสร้างความกระจ่างและเรียนรู้เกี่ยวกับอนาคตได้ด้วย ในอีกแง่หนึ่ง ถ้าคุณรู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันก็จะส่งอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคุณ” ฮัลเบิร์กกล่าวต่อ “และเพียงเพราะคุณสามารถรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องดีรึเปล่าที่คุณจะรู้เรื่องนั้นน่ะ”
ฮัลเบิร์กและโคเฮนตั้งใจจะสร้างภาพยนตร์สยองขวัญที่จะได้รับการยอมรับจากผู้ชมในโรงภาพยนตร์ “การดูหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดคือการดูเป็นกลุ่ม” ฮัลเบิร์กกล่าว “มีบางอย่างที่น่ากลัวและสนุกสนานเกี่ยวกับการนั่งอยู่ในโรงหนังมืดๆ ร่วมกับกลุ่มคนแปลกหน้าและมีความรู้สึกร่วมไปกับโรลเลอร์โคสเตอร์ทางอารมณ์นี้น่ะ”
“มันเหมือนกับการออกไปในคืนวันฮัลโลวีนและไปบ้านผีสิงกับเพื่อนของคุณ” โคเฮนกล่าวเสริม “เราออกแบบประสบการณ์นี้สำหรับจอใหญ่เป็นพิเศษ”
ระหว่างที่พวกเขาเขียนบท โคเฮนกล่าวว่า พวกเขาสังเกตว่า ในเวลาที่เราไม่มั่นใจ–ก็เรามักจะอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่มั่นใจเสมอไม่ใช่รึไง “คนเราจะหันเข้าหาไพ่ทาโร่ต์และโหราศาสตร์เพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆ ” โคเฮนกล่าว จากจุดนั้น เขากับฮัลเบิร์กก็สามารถสำรวจแนวคิดที่เก่าแก่ที่ว่า อนาคตของเราถูกเขียนเอาไว้ในดวงดาวอยู่แล้ว หรือเรามีอิสระเหนือชะตากรรมของตัวเองกันแน่ “นั่นเป็นธีมยิ่งใหญ่ระดับโลกที่เป็นสากลและเชื่อมโยงกับทุกคน” โคเฮนกล่าวต่อ “แต่โดยแก่นแท้แล้ว หนังเรื่องนี้สำหรับเราได้กลายเป็นเรื่องราวที่มีผู้หญิงคนหนึ่งมีบทสนทนากับความตาย เรื่องราวเกี่ยวกับการที่เธอได้เรียนรู้ที่จะพินิจพิเคราะห์ความทุกข์ทรมานของตัวเองและปล่อยวางในที่สุด”
ระหว่างที่พวกเขาค้นคว้าเรื่องของไพ่ทาโร่ต์และโหราศาสตร์ ฮัลเบิร์กและโคเฮนได้เกิดความคิดที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มเดินหน้า “อย่าใช้สำรับไพ่ของคนอื่น” ฮัลเบิร์กกล่าว “นั่นเป็นหนึ่งในกฎข้อห้ามของไพ่ทาโร่ต์ ไพ่ทุกสำรับเป็นของส่วนตัวมากๆ และในหนังเรื่องนี้ก็ยิ่งแล้วใหญ่เลย เจ้าของของมันทุ่มเทชีวิตของเธอลงไปในนั้นจริงๆ และมันก็นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้ายมากๆ สำหรับตัวละครของเรา”
ด้วยความที่จินตนาการของพวกเขาเต็มปริ่มไปด้วยความคิดจากการค้นคว้าข้อมูลของพวกเขา ฮัลเบิร์กและโคเฮนได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามา “เราอยากให้หนังเรื่องนี้มีพื้นฐานอยู่บนข้อเท็จจริงและประวัติศาสตร์ และไพ่ทาโร่ต์และโหราศาสตร์ก็เป็นศาสตร์เพื่อการทำนายอนาคตมานมนาน เป็นร้อยๆ อาจจะเป็นพันๆ ปีด้วยซ้ำ” ฮัลเบิร์กกล่าว “เราได้เชิญแองจี้ บานิคกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านไพ่ทาโร่ต์ ผู้ช่วยนำความน่าเชื่อมากมายมาสู่หนังเรื่องนี้ เธอมาเพื่อทำให้แน่ใจว่าทุกสิ่งที่เรามีในบทหนังจะสมเหตุสมผลและดูแลการรูปแบบการวางไพ่ทาโร่ต์ของเรา ใครก็ตามที่รู้เรื่องโหราศาสตร์และไพ่ทาโร่ต์จะเห็นว่าการวางไพ่ทาโร่ต์ของเราเป็นไปตามตำแหน่งจริงๆ และมันก็มีไข่อีสเตอร์ที่น่าสนุกอยู่ในนั้นด้วยเหมือนกัน”
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครอ่านโชคชะตาของพวกเขาผ่านทางการแจกไพ่ตามจักรราศีที่ซับซ้อน โดยที่จะมีการเรียงไพ่สิบสองใบเป็นวงกลม ไพ่แต่ละใบจะเป็นตัวแทนของราศี และไพ่แต่ละใบก็จะมีสัญลักษณ์ของตัวเอง อย่าง อารมณ์ ความสัมพันธ์ ความต้องการ เป้าหมาย ตรงกลางของวงกลมจะเป็นไพ่ใบที่สิบสาม ซึ่งเป็นตัวแทนของธีมโดยรวมของการแจกไพ่ และจะขยายความชัดเจนให้กับไพ่ใบอื่นๆ
“เราได้ศึกษาไพ่ทาโร่ต์ทั้งสำรับและพูดคุยกันเรื่องไพ่ที่น่ากลัวกว่าหรือมีบริบทที่มืดมนกว่า” บานิคกี้กล่าว “ไพ่ที่น่ากลัวกว่าหลายๆ ใบจากชุดไรเดอร์-เว็ท ก็ปรากฏในหนังเรื่องนี้ด้วย ทั้งไพ่ยมทูต สิบดาบ เก้าดาบ หอคอยและปีศาจน่ะ”