ในฐานะของเควียร์ คนชอบภาพยนตร์ และคนสร้างภาพยนตร์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้มีโอกาสสร้างภาพยนตร์โดยหยิบเอาพื้นฐานของภาพยนตร์แนวที่โปรดปรานมารวมเข้ากับสิ่งที่ตัวเองต้องการจะสื่อสารคือสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับภาพยนตร์อย่าง Shiva Baby และเรื่องล่าสุดของ Emma Seligman (she/they) อย่าง Bottoms ที่สร้างปรากฎการณ์ไปทั่วสหรัฐอเมริกา ที่แม้ว่าจะฉายแบบจำกัดโรง และกว่าจะเข้าฉายบน Prime Video ทั่วโลกนั้น จะใช้เวลานาน แต่ก็ไม่ทำให้กระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้แผ่วลงไปเลย
Bottoms เล่าเรื่องราวของเควียร์ ชายขอบ นอกคอก และพวกขี้แพ้ ที่ก่อตั้งชมรมต่อสู้ขึ้นมา โดยจุดประสงค์ดั้งเดิมคือการได้แอ้มเชียร์ลีดเดอร์คนสวย แน่นอนว่าการตั้งชมรมของพวกเขา ทำให้ได้รับความสนใจจากสาวๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพวกนอกคอก หรือแม้กระทั่งสาวๆ สุดฮอตในโรงเรียนก็เข้ามาร่วมชมรม และเริ่มชกต่อยกับคนในโรงเรียน ก่อนที่แต่ละคนก็พบว่าพวกเขาต่างมีปัญหาของตัวเองและต้องการที่จะหาทางออกก่อนที่แผนการของพวกเขาจะถูกเปิดเผย
ภาพยนตร์ Bottoms เป็นหนังเควียร์คอเมดี้ที่พูดถึงเซ็กซ์ ความรุนแรง และเลือด
หากใครไม่สะดวกใจ อยากจะให้ลองเช็ก trigger warning ก่อนตัดสินใจรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้!
กว่าจะมาเป็น Bottoms
“เราเริ่มเขียนเรื่องนี้พร้อมๆ กับตอนที่ทำ Shiva Baby” Emma Seligman ผู้กำกับ บอกกับ Vanity Fair “ฉันพบกับ Rachel Sennott ที่ NYU ตอนที่เราทำหนังสั้นเรื่อง Shiva แล้วฉันก็มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือฉันไม่ต้องคิดถึง Fight Club หรอก แต่ฉันต้องการหนัง teen sex comedy ที่มีการต่อสู้บ้าง แล้วเรเชลก็แบบว่า ‘เอาเลย!'”
ทั้งเอ็มม่าและเรเชลเริ่มต้นเขียนบทด้วยกันมาตั้งแต่ 2017 หลังจากที่ Shiva Baby เข้าฉายที่ SXSW ซึ่งในปัจจุบันสามารถรับชมได้ทาง Mubi “คือ Alison Small จาก Brownstone Productions ก็ดูหนังเรื่องนี้ ทั้งเธอ Elizabeth Banks และ Max Handelman โปรดิวเซอร์ของเรา ก็ตื่นเต้นที่จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย และช่วยเราพัฒนามันต่อจนกระทั่งทำให้มันเกิดขึ้นได้จริงๆ หลังจากนั้น Alana Mayo ที่เพิ่งเข้ามายัง Orion นั้น เราก็ไปขายงานกับเธอ แล้วเธอก็กระโดดลงเรือมาด้วยทันที”
พวกเขาเริ่มต้นด้วยไวท์บอร์ดขนาดยักษ์ในห้องใต้ดินของ NYU พร้อมกับข้อความประมาณว่า ‘Bomb goes off’ เพื่อวางแผนการเขียนบทให้เกิดขึ้นจริง “การทำงานกับเรเชลมันสนุกมาก เพราะสมองของเธอพาไปยังเรื่องราวที่สนุกๆ ตลอด เธอไม่ได้เค้นความคิดมากขนาดนั้นว่ามันเมคเซนส์ไหม คือฉันคิดว่าฉันเน้นโครงเรื่องมากกว่านิดหน่อยนะ แล้วเธอคือเครื่องพ่นมุกตลกที่เวิร์กมาก มุกตลกส่วนใหญ่ในหนังเรื่องนี้มาจากเธอหรือเป็นมุกด้นสดจากเธอไม่ก็ Ayo Edebiri แต่ฉันมักจะชอบดูว่า ฉากนั้นมันเข้าท่ามั้ย แรงจูงใจและตัวละครมีอะไรบ้าง”
“จริงๆ คือเป็นเรเชลที่กำลังเสนอมุกตลอดแล้วก็…” เอ็มม่าอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ก่อนที่เรเชลจะแทรกมาว่า “…เดิน ฉันเดินวนอยู่นั่น” เอ็มม่าบอกต่อด้วยว่า “เธอเดินไปรอบๆ แล้วฉันก็พยายามจดทุกอย่างที่เธอพูดมันออกมา แบบเรเชลเดินไปเดินมาเพื่อเสนอมุกตลกที่ดีที่สุด แล้วฉันก็แบบ ‘เดี๋ยวๆๆๆ หยุดก่อนๆ'” เรเชลบอกกับ IndieWire ด้วยว่า “เอ็มม่ากำลังทำให้ทุกอย่างดูสมเหตุสมผล” เรเชลบอก “ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนพล็อตหนังเรื่องนี้กับเอ็มม่านะ คือมันต้องมีโครงสร้าง แล้วก็มีมุกตลกที่เราสามารถเล่นมันได้จริงๆ พวกเราทำงานร่วมกันได้ดีเพราะว่าเราดึงเอาความกังวลของแต่ละคนออกไป เหมือนที่เธอพยายามทำให้พวกเรากลายเป็นดูโอ้นักเขียนนะ เธอพูดประมาณว่า ‘นี่จะต้องสมเหตุสมผล'”
“ส่วนเรเชลก็จะปล่อยให้กระบวนการความรู้สึกได้ไหลไปอย่างอิสระ และไม่ยึดติดกับคำว่า ‘นี่มันสมเหตุสมผลมั้ยนะ'” เอ็มม่าบอกกับ IndieWire “คือคุณควรที่จะรู้สึกเป็นอิสระที่จะตลกและสร้างมุกตลกโง่ๆ แต่เราไม่เคยแลกดราฟต์กันนะ ไม่ใช่ว่าฉันส่งดราฟต์ให้เรเชล แล้วเธอก็เล่นมุกนั้น เรามักจะเขียนด้วยกันภายในห้องเดียวกัน มันสนุกดี แล้วฉันก็คงจะไม่ได้ทำมันในแบบวิธีอื่นแน่ๆ”
“ฉันอยากเห็นตัวละครเควียร์อยู่ในหนังทุกประเภทที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน โดนเฉพาะกับหนังที่ฉันดูมันมาตลอดช่วงเวลาที่เติบโต”
Emma Seligman
มันสนุกในทุกขั้นตอนของการทำงาน
นอกจากการพัฒนาและการเขียนบท สคริปต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีหลายเวอร์ชั่นด้วยเช่นกัน “มันมีสคริปต์เยอะมากที่เป็นตัวยืนพื้น โดยที่เราให้ความสำคัญกับตัวละครอย่างลึกซึ้งมากขึ้นด้วย และแน่นอนว่ามีบทหลายเวอร์ชั่นที่คุณจะไม่สนใจมันเลย มันก็เป็นแค่เรื่องไร้สาระ แต่มันก็สนุกด้วยนะ แต่ตลอดทุกขั้นตอนของการทำหนังเรื่องนี้จนถึงวินาทีสุดท้ายมันเหมือนกับแบบ มุกตลกนี้พาเราออกไปจากโลกนี้รึเปล่า”
สำหรับการทำงานตั้งแต่เริ่มต้น เอ็มม่าให้สัมภาษณ์กับ Vanity Fair ว่าส่วนที่ยากที่สุดในการสร้างหนังเรื่องนี้คือการทำให้ผู้ชมไม่ตั้งคำถามกับหนังว่ามันคืออะไร เพราะมันเต็มไปด้วยเรื่องที่ไร้สาระและมีเหตุผลในเวลาเดียวกัน “การสร้างภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง ฉันว่าเรื่องของโทนหนังเป็นสิ่งที่ยากมากๆ ที่จะทำให้บรรลุผล โดยเฉพาะกับหนังตลก ในแง่ของการที่จะบอกว่า คุณใส่ใจตัวละครมากแค่ไหน หรือควรมีอารมณ์ความรู้สึกมากน้อยเพียงใด”
“จากตั้งแต่เขียนบทไปจนถึงการตัดต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ เราพยายามคิดว่าอะไรคือขีดจำกัดของความบ้าคลั่งที่เราจะได้รับอนุญาตให้ทำในขณะที่ยังมีผู้ชมอยู่ในมือของคุณ คุณต้องการที่จะมอบและใส่ใจผู้ชม ไม่โยนพวกเขาไปทั่ว และทำให้พวกเราปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ทั้งเจ็ดเรื่องที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเรื่องยุ่งยากแน่นอน”
‘ฉันเบื่อมากที่เห็นตัวละครวัยรุ่นเพิ่งค้นพบกับไวเบรเตอร์หรือสื่อลามกเป็นครั้งแรก’ – Rachel Sennott
ในภาพยนตร์ Bottoms ความเควียร์ไม่ใช่บทเรียนที่ต้องเรียนรู้ “ฉันรู้สึกเบื่อหน่ายมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่ความเควียร์กลายเป็นพล็อตรองของภาพยนตร์หรือความขัดแย้ง คือฉันก็แค่อยากเห็นพวกเขาจัดการกับสิ่งอื่นๆ ในชีวิตมากขึ้น” เอ็มม่าบอกกับ Nylon ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ตัวละครสามารถพูดถึงตัวเองได้ดีที่สุด “ไม่มีใครเกลียดเราที่เป็นเกย์นะ ทุกคนเกลียดที่เราเป็นเกย์ ไร้ความสามารถ และน่าเกลียด”
นอกจากนี้แล้ว เรื่องของความต้องการทางเพศ มักจะเป็นเรื่องที่ต้องแอบ หรือต้องหลบๆ ซ่อนๆ หรือทำให้มันดูเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับเด็กวัยรุ่น “เราต้องการที่จะแสดงให้เห็นถึงตัวละครหญิงที่มีความต้องการทางเพศนะ พอเรารวมเอาไอเดียนี้เข้าด้วยกัน เรเชลก็บอกประมาณว่า ‘ฉันเบื่อมากที่เห็นตัวละครวัยรุ่นเพิ่งค้นพบกับไวเบรเตอร์หรือสื่อลามกเป็นครั้งแรก'” เอ็มม่าบอกกับ Vanity Fair “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้กำกับตอนพวกเขาอายุ 40-50 เนี่ย เขาจะเข้าใจไหมว่าวัยรุ่นรู้เรื่องเพศมากน้อยแค่ไหน เพราะงั้น เราก็เลยต้องการที่จะให้ตัวละครเหล่านั้นแสดงความต้องการทางเพศ และไม่พยายามควบคุมความกำหนัด หรือพยายามทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกพอใจ แต่ตอนที่เราทำหนังเรื่องนี้ เราตกใจมากที่มีคนมาแบบ ‘ให้ตายเถอะ นี่มันบ้าไปแล้ว’ คือสำหรับเรา พวกเขารู้สึกเหมือนวัยรุ่นวัยฮอร์โมนปกติทั่วไปเลยนะ”
แต่ความประหลาดใจเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากสตูดิโอ แต่เป็นช่วงที่หาสถานที่ถ่ายทำและการจัดจำหน่าย คนต่างไม่พอใจกับเนื้อหาของหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ “ฉันไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบเดียวกันกับหนังที่มีนักแสดงนำชายสองคนนะ เขาจะรู้สึกหงุดหงิดกับหนังอย่าง American Pie หรือ Superbad มั้ยนะ”
Sources:
- https://www.hollywoodreporter.com/movies/movie-features/emma-seligman-bottoms-lgbtq-roles-1235514606/
- https://www.indiewire.com/features/interviews/rachel-sennott-emma-seligman-interview-bottoms-1234898206/
- https://www.nylon.com/life/emma-seligman-bottoms-movie-director-shiva-baby
- https://www.thewrap.com/bottoms-emma-seligman-rachel-sennott-interview-sex-comedy/
- https://www.vanityfair.com/hollywood/2023/08/emma-seligman-bottoms-interview