ประสบการณ์การฟังคอนเสิร์ตจากศิลปินที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหน ก็คงจะเป็นประสบการณ์และช่วงเวลาที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดอัลบั้มปล่อยออกมาในช่วงก่อนคอนเสิร์ตที่จะไป มันคงเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ที่จะได้ฟังเพลงจากอัลบั้มใหม่ พร้อมกับร้องเพลงไปด้วยกัน Laufey คือหนึ่งในนั้น ศิลปินที่เราตัดสินใจแล้วว่า ถ้ามาใกล้ประเทศไทยจะต้องตามไปดูให้ได้ แม้ว่าช่วงเวลาที่เธอประกาศทัวร์เอเชียและออสเตรเลีย ที่ไปทั้งฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน แม้ว่าในตอนนั้นจะมีลังเลเล็กน้อย และพอประกาศทัวร์ฮ่องกง ตั๋วก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว เมื่อเลเฟวย์ประกาศทัวร์ฮ่องกงเพิ่ม เราก็เลยตัดสินใจรอกดบัตรทันที ไม่คิดอะไรเลย เพราะจากประสบการณ์เฝ้ากดบัตรรอบแรก บัตรหมดไวภายใน 20 นาที ครั้งนี้ก็เลยไม่พลาดที่จะเฝ้าหน้าจอตั้งแต่ก่อนเริ่มกดบัตร
สำหรับการจัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ยังถือเป็นการทัวร์ Asia + Australia ของเธอ แม้ว่าจะเว้นระยะห่างมาระยะหนึ่งเพื่อปล่อยอัลบั้ม แต่สำหรับครั้งนี้ ก็ถือเป็นคอนเสิร์ตสุดพิเศษที่ทำให้แฟนๆ หลายๆ คนหลงใหลและจดจำไปอีกเนิ่นนาน
คอนเสิร์ตของ Laufey ที่ฮ่องกง จัดขึ้นโดย Clockenflap และจัดที่ E-MAX Music Zone ฮอลล์สำหรับจัดแสดงดนตรีโดยเฉพาะ ซึ่งในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของเลเฟวย์ที่มาแสดงในฮ่องกง นอกจากนี้แล้ว เธอยังจะเดินทางไปร่วมแสดงกับวงออเครสตร้าที่ประเทศจีนในสัปดาห์ถัดไปอีกด้วย ครั้งนี้เรียกได้ว่าเติมเต็มความประทับใจให้ทั้งกับแฟนเพลงและตัวของเธอเองได้อย่างแน่นอน
ในคืนแรกเปรียบดั่งมนต์สะกด การจัดการของทีม Clockenflap ถือว่ามืออาชีพ และแม้ว่าสถานที่หน้าฮอลล์จะค่อนข้างเล็ก แต่มีทีมงานคอยจัดการและประสานงานอยู่ตลอดเพื่อให้งานราบรื่นและแฟนคลับสามารถยืนเข้าคิวเพื่อเข้าร่วมงานได้อย่างง่ายดาย หน้าฮอลล์มีสินค้าขาย ทั้งเสื้อฮู้ดสีน้ำเงินสุดคลาสสิก ที่คิดว่าตอนนี้ไม่น่ามีขายแล้ว เสื้อยืดรุ่น asia + australia tours กระเป๋าผ้า bewitched และโปสเตอร์สุดพิเศษจากศิลปิน Stella Lam มาวางขายหน้างานให้แฟนๆ ได้ซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก
ก่อนเข้าไปในฮอลล์ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้ไปเข้าคิวรอที่ชั้นสอง เพื่อรอเวลาเข้าฮอลล์ ก่อนเข้าก็จะมีการสแกนบัตร ปั๊มข้อมือ และตรวจกระเป๋า เราโชคดีหน่อยที่เดินทางไปถึงฮอลล์เร็ว และเข้าคิวรอ เลยได้เข้าฮอลล์ไวและอยู่โซนหน้าๆ ถึงแม้ว่าจะติดมุมขวาของเวที แต่ถือว่าเป็นมุมที่ดีและเห็นชัดในทุกๆ โซนเลยก็ว่าได้ ภายในฮอลล์ก็จะเปิดเพลงอินดี้ให้ฟังระหว่างรอ พอใกล้ถึงเวลา (ประมาณสองทุ่มตามเวลาฮ่องกง) เพลง standard jazz จากศิลปินคนโปรดของเลเฟวย์ก็ลอยขึ้นมาให้ฟัง เรียกได้ว่าบิลท์บรรยากาศสุดๆ
แต่กว่า Laufey จะออกมา ก็เลทจากเวลาจริงเล็กน้อย แฟนๆ ก็มีกรี๊ดรอ กรี๊ดหลงกันบ้าง เป็นสีสันก่อนที่เลเฟวย์เดินออกมาจากหลังเวทีจริงๆ เสียงกรี๊ดและเสียงต้อนรับก็ดังขึ้นมา เธอเริ่มด้วยเพลง Fragile จากอัลบั้ม Everything I Know About Love เป็นเพลงแรก ก่อนจะชวนแฟนๆ พูดคุยและบอกด้วยว่าเธอจะเล่าเบื้องหลังของเพลงนั้นให้ฟัง พร้อมกับบอกด้วยว่าไม่อยากที่จะเล่นตามแพลนที่วางเอาไว้ สำหรับเพลงที่สองที่เธอจะเล่นเพลง Valentine จากอัลบั้มเดียวกันมาให้ฟัง Second Best จากอัลบั้ม Bewitched ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้แฟนๆ ฟังเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และตามมาด้วยเพลง Beautiful Stranger และเพลง Falling Behind จากอัลบั้ม Everything I Know About Love พร้อมบอกกับแฟนๆ ว่าเธอจะร้องเพลงนี้ให้กับสาวโสดทุกคน
เธอย้ายไปเปียโน เพื่อเล่นเพลงแรกของอัลบั้มใหม่อย่าง Dreamer ที่เธอเขียนขึ้นมาเพื่อบอกว่าเธอจะช่างทุกคนและจะล่องลอยไปกับก้อนเมฆของเธอ ก่อนจะกลับมาบรรเลงเพลงแรกที่เธอร่วมแสดงกับวง Philharmonic Orchestra ของลอนดอน อย่างเพลง Let You Break My Heart Again และต่อด้วยเพลงสุดปวดใจที่เธอเขียนขึ้นมาถึงคนบางคนที่ทิ้งแคลิฟอร์เนียและเธอไป อย่างเพลง California And Me จากอัลบั้ม Bewitched
เธอพักคุยกับแฟนๆ ไม่นาน พร้อมกับบอกด้วยว่าเธอกำลังเลือกอยู่ว่าจะเล่นเพลงอะไรดี เพราะว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงเล่นทุกเพลงแล้ว แต่พอเป็นตอนนี้คงต้องใช้เวลาสามชั่วโมงครึ่งกว่าจะเล่นหมด ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเลือกเล่นเพลง Promise จากอัลบั้ม Bewitched ก่อนจะเข้าสู่โหมดร็อกด้วยเพลง Lovesick จากอัลบั้มเดียวกัน
หลังจากนั้นเธอก็เล่นเพลง I Wish You Love เพลงคัฟเวอร์แจ๊สสแตนดาร์ดที่อยู่ในอัลบั้ม Typical of Me EP พร้อมร้องร่วมกับแฟนๆ ด้วย เธอเล่น Best Friend จากอัลบั้ม EP แรก แล้วต่อด้วย Bewitched และปิดจบด้วยเพลง From The Start ก่อนที่เธอจะขึ้นมาพูดคุยกับแฟนๆ ฮ่องกงพร้อมสัญญาว่าจะกลับมาอีก และเล่นเพลง Magnolia จากอัลบั้ม Typical of Me EP และโบกมือลาแฟนๆ ฮ่องกงในคืนแรก
แม้ว่าจะมีแค่เครื่องดนตรีเพียงสองชิ้น อย่างกีตาร์แจ๊สจาก Epiphone และแกรนด์เปียโนหลังใหญ่ แต่สำหรับเลเฟวย์ ทุกอย่างก็ดูราวกับมนต์สะกด ชวนต้องมนต์ในทุกๆ ครั้งที่เธอเริ่มบรรเลงเพลง รวมไปถึงการพูดคุย เล่นสนุก และโต้ตอบกับแฟนเพลงได้อย่างเป็นกันเองสุดๆ นอกจากนี้แล้ว ก็ยังชวนแฟนๆ ถ่ายรูปด้วยกัน โดยให้น้องสาวฝาแฝดอย่าง Junia มาเป็นช่างภาพจำเป็นให้กับเธอ
โดยรวมถือว่าเป็นคอนเสิร์ตที่น่าประทับใจเป็นอย่างมากคอนเสิร์ตหนึ่ง และเป็นคอนเสิร์ตต่างประเทศคอนเสิร์ตแรก ที่เต็มไปด้วยแฟนเพลงสุดน่ารัก การจัดการที่ดี แถมศิลปินก็ยังเต็มที่สุดๆ ด้วย และถือเป็นโชคดีของคนที่ได้มาชมคอนเสิร์ตในครั้งนี้มากๆ เพราะว่าถือเป็นคอนเสิร์ต Asia + Australia Tour ที่สุดท้ายของทัวร์นี้ ก่อนจะเริ่มทัวร์ Bewitched ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งคอนเสิร์ตในครั้งนี้จัดขึ้นหลังจากที่มีการปล่อยอัลบั้ม Bewitched เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เลเฟวย์เลือกเล่นเพลงจากอัลบั้มใหม่ และให้แฟนๆ ได้ร้องเพลงไปด้วยกัน
ส่วนตัวยังคงอยากให้เลเฟวย์มาจัดแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย และเชื่อว่าแฟนๆ ชาวไทยต่างรอคอยให้เธอมาแสดงที่นี่ และบอกรักแฟนเพลงชาวไทยอย่างแน่นอน