“ฉันกับแลนซ์เคยอยู่ในโตเกียวมาก่อน” Sofia Coppola ผู้กำกับ Lost in Translation ให้สัมภาษณ์กับ Focus Features ที่เล่าเรื่องราวของการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกา แต่โลเคชั่นในการถ่ายทำทั้งหมดนั้น อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ในพื้นที่มหานครโตเกียว สถานที่ที่ไม่เคยหลับใหล สถานที่ที่บ็อบและชาร์ล็อตต์ได้มาพบกัน ท่ามกลางความเหงาและหลงทางของคนทั้งคู่ ที่ตรงข้ามกับความวุ่นวายของเมือง
“ฉันชอบภาพลักษณ์ของเมืองมากๆ มันมีความเป็นธรรมชาติที่เราต้องการรวบรวมไว้อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้” โซเฟียบอกผ่านบทสัมภาษณ์ “ฉันต้องการความเป็นกันเองของการเดินทางไปรอบๆ และการถ่ายแบบสแนปช็อตเป็นหลัก ความทรงจำของฉันคือภาพสแนปช็อต เขา (แลนซ์) ต้องการที่จะถ่ายไวๆ และไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัว และไม่ต้องเปิดไฟ พวกเขาแอบทำกันนะ เราอาศัยผู้คนตามท้องถนนเป็นตัวเสริมของเรา เรามีกล้องขนาดเล็กและพกพาสะดวก คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพในรถไฟใต้ดิน เราต้องเคลื่อนไหวต่อไปเพื่อไม่ให้ถูกหยุด และเพื่อให้ได้ภาพพวกนั้น ก็จะมีแค่ฉัน แลนซ์ สการ์เล็ต และคนอื่นๆ อีก 1-2 คน”
รอสบอกกับ Focus Features ว่า “โซเฟียบอกตลอดเลยว่าเธออยากที่จะเคลื่อนไหวให้คล่องตัว ไม่อยากเป็นภาระกับการที่ในกองมีคนจำนวนมากจนไม่สามารถวิ่งไปถ่ายแล้วได้ช็อตเด็ดๆ มาได้” เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิงสุด “ด้วยหเตุผลสองประการก็คือ (1) ในแง่ของระยะเวลาที่เรามี และ (2) เราต้องการเปิดกว้างในสถานที่ที่เราอยู่ บอกอีกแง่ก็คือ เมื่อคุณสร้างภาพยนตร์ ทุกอย่างจะเข้มงวดมากๆ ในแง่ของการถ่ายทำ ทั้ง ‘สถานที่ที่จะถ่ายทำ ว่าสามารถถ่ายได้แค่จุดนี้เท่านั้น นี่คือกำหนดการ และในวันนี้ เรากำลังถ่ายสิ่งนี้อยู่’ เราต้องการความสามารถในการทิ้งแผนที่ที่มีและไปยังสิ่งที่ต้องการมาให้ได้”
เมื่อพูดถึงโรงแรม Park Hyatt Tokyo “สิ่งที่ยากที่สุดคือการโน้มน้าวให้โรงแรม Park Hyatt Tokyo อนุญาตให้พวกเราถ่ายทำที่นั่น” เธอบอกกับเว็บไซต์ The Daily Beast “พวกเขาไม่ต้องการให้เราไปถ่ายภาพยนตร์กันที่นั่น แต่สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ปล่อยให้เราถ่ายภาพในโถงทางเดินและสถานที่ส่วนกลางตอนตีสามหรือตีสี่เท่านั้น เราก็เลยไม่รบกวนแขกคนอื่นๆ เลย แต่พวกเรามักจะแอบไปถ่ายรอบๆ โรงแรมอยู่”
นอกจากนี้แล้ว เรื่องน่าตื่นเต้นในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการโดนยากูซ่าตามล่านั่นเอง โซเฟียบอกว่า “เราแอบถ่ายช็อตเด็ดๆ หลายช็อตอยู่บนถนนนะ แต่แล้ววันนึง โรมัน พี่ชายของฉัน กำลังให้กองถ่ายที่สองถ่ายอยู่ แล้วบังเอิญเจอกับยากูซ่า พวกเขาบอกว่า เราต้องจ่ายเขานะ เพราะว่าพวกเขามีย่านของเขา และนั่นคือจุดสิ้นสุดของย่านนั้น ทีมงานของเราก็เลยช่วยกันนำทางแล้วก็พาเราออกจากย่านยากูซ่าอื่นๆ ด้วย”
สำหรับช็อตเด็ดๆ ที่อยู่นอกเหนือแผนงานนั้น รอสก็เล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พวกเขาวางแผนถ่ายทำภายในที่ร่วมทั้งหมด แล้วฝนก็เริ่มตกลงมา “คือเราวางแผนและฝนก็เริ่มตกลงมาในสถานที่ที่น่าสนใจมาก ตรงทางแยกที่มีช้างและไดโนเสาร์ และทั้งหมดทั้งมวล โซเฟียต้องการถ่ายให้เห็นชาร์ล็อตต์ท่ามกลางชาวญี่ปุ่นหลายร้อยคนที่กำลังเดินทางไปทำงาน ไปทานอาหารกลางวันและถือร่ม เราจบลงด้วยการถ่ายที่อาร์เคต จุดที่เราถ่ายทำกันนั่นแหละ ทิ้งทุกอย่าง คว้าอุปกรณ์ แล้ววิ่งออกไปหลายช่วงตึกและเริ่มถ่ายภาพกลางสายฝน เราทำแผนใหม่ทั้งหมด เพราะสภาพอากาศมันไม่น่าไว้ใจ และเราเพิ่งรู้ว่ามันจะไม่ดูดีแบบนี้อีกแน่ๆ เราก็เลยเริ่มกันเลย ผมมีความสุขมากที่เราไทำได้ และคุณสามารถเห็นมันได้ในภาพยนตร์”
Lost in Translation
Genre: romantic comedy-drama
Country: สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น
Language: ภาษาอังกฤษ
Director: Sofia Coppola
Screenwriter: Sofia Coppola
Producers: Ross Katz, Sofia Coppola
Actors: Bill Murray, Scarlett Johansson, Giovanni Ribisi, Anna Faris, Fumihiro Hayashi
Cinematographer: Lance Acord
Editor: Sarah Flack
Music: Kevin Shields, Brian Reitzell, Roger Joseph Manning Jr.
Running Time: 102 minutes
Production company: American Zoetrope, Elemental Films
Distributors: Focus Features
sources:
- https://faroutmagazine.co.uk/sofia-coppola-lost-in-translation-lost-images/
- https://www.focusfeatures.com/article/lost-in-translation_15-anniversary