ภาพยนตร์ หนึ่งในสื่อหลักที่หลายคนเลือกใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขา โดยเฉพาะภาพยนตร์เควียร์ ที่นำเสนอตัวตนของตัวเองผ่านความเควียร์ที่ส่งผ่านมายังหน้าจอ ตั้งแต่การทำความเข้าใจตัวตนของตัวเอง ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนรัก ไปจนถึงความพยายามในการทวงคืนพื้นที่ของพวกเขาในสังคม
Asian LGBTQ Films เองถือเป็นอีกหนึ่งสื่อที่ผู้ชมชาวเอเชียสามารถทำความเข้าใจ สัมผัส และมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวภาพยนตร์ได้ไม่มากก็น้อย เพราะด้วยสภาพสังคม การกดทับ ไปจนถึงครอบครัว ที่ทำให้ผู้ชมชาวเควียร์อย่างเราๆ เข้าใจตัวละครเหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
ครั้งนี้ The Noize Team ขอพาทุกคนไปพบกับลิสต์ภาพยนตร์ LGBTQ+ ส่งตรงจากประเทศในแถบเอเชียที่น่าสนใจมาให้กับคุณ นอกเหนือจากภาพยนตร์ที่คุณคุ้นเคยกัน ไม่ว่าจะเป็น Happy Together, Saving Face เป็นต้น ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลยว่าจะมี Asian LGBTQ Films เรื่องไหนกันบ้างที่น่าสนใจ
Asian LGBTQ Films
Joyland (جوائے لینڈ)
Content warning: homophobia, transphobia, discussions of self-harm, sexually suggestive themes
ดินแดนเสรีอันรื่นรมย์อยู่หนไหน
Joyland ภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมท้าทายขนบจากประเทศปากีสถาน เจ้าของรางวัล Queer Palm จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2022 บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ Haider (Ali Junejo) ลูกชายคนโตของบ้านที่ต้องออกหางานเพื่อมาเลี้ยงดูภรรยาและครอบครัว ท่ามกลางความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่อาจทำได้อย่างที่ใครคาดหวัง โชคชะตากลับเล่นตลก ผลักให้เขาตกหลุมรัก Biba (Alina Khan) นักเต้นระบำทรานส์ และเข้าไปทำงานเป็นแดนเซอร์ให้กับเธอ ช่วงเวลาอันแสนสั้นทำให้เขาค้นพบตัวตน แรงปรารถนาภายใน และความใฝ่ฝันที่เก็บซ่อนไว้ จนเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เหลือไปตลอดกาล
แม้ว่าภาพยนตร์จะเน้นสำรวจชีวิตของ Haider แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งตัวละครที่เหลือ มันสะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของผู้หญิง อย่าง Mumtaz (Rasti Farooq) ภรรยาของเขา ที่จำเป็นต้องแต่งงานและไม่อาจทำตามความฝันของตัวเองได้ เมื่อหน้าที่ความเป็นภรรยาและแม่นั้นผูกติดอยู่กับงานบ้านอย่างเดียว รวมไปถึงเรื่องราวของตัวละคร Biba ที่ถูกกีดกันและด้อยค่าจากผู้คน เพียงเพราะเธอเป็นทรานส์ แน่นอนว่าเมื่อแนวคิดปิตาธิปไตย (ชายเป็นใหญ่) ปกคลุมไปทั่วทุกตารางนิ้วในชุมชน มันกัดกินและทำร้ายทุกคนโดยทั่วถึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนหรือใครก็ตามที่ไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคม
ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าในสิ่งที่สั่นคลอนความเชื่อฝังรากลึก สะท้อนความเป็นจริงอันเจ็บปวดที่ผู้หญิงและคนที่มีความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญ และจะทำให้คุณเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงอิทธิพลและความโหดร้ายของปิตาธิปไตย
Genre: Drama
Language: ภาษาอูรดู และภาษาปัญจาบ
Director: Saim Sadiq
Run time: 127 minutes
Country: ปากีสถาน
Year: 2022
Funeral Parade of Roses (薔薇の葬列, Bara no Sōretsu)
Content warning: transphobia, homophobia, sex & nudity, violence & gore, alcohol, drugs & smoking, incest
โดย First S.
ในภาษาญี่ปุ่น Bara แปลว่า ดอกกุหลาบ ในอีกแง่หนึ่งยังหมายถึงเกย์ชาย
Funeral Parade of Roses ภาพยนตร์เควียร์จากญี่ปุ่น เป็นการนำโศกนาฏกรรมกรีกเรื่อง Oedipus Rex มาดัดแปลงอย่างหลวม ๆ และเป็นการเล่าเรื่องผ่านภาพยนตร์ทดลอง ควบคู่กับสารคดีมาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน โดยตัวละครหลักอย่าง เอ็ดดี้ ผู้หญิงข้ามเพศ และมีปมเรื่องพ่อของตัวเอง ที่ทำอาชีพเป็นทั้งนักแสดง พนักงานรับรองและดาวรุ่งของร้าน Genet ที่มีความสัมพันธ์กับเจ้าของคลับ และทำให้คนรักของเขาเกิดความหึงหวงและเกิดความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้แล้ว ความสัมพันธ์นั้นยังกระทบต่อตัวเอ็ดดี้โดยตรง และเรื่องราวในอดีตก็ได้ตามหลอกหลอนเธอ กลายเป็นฝันร้ายอันน่าสยดสยอง
Genre: Avant-Garde, Cult, Drama, Surreal classic
Language: ภาษาญี่ปุ่น
Director: Toshio Matsumoto
Run time: 105 minutes
Country: ญี่ปุ่น
Year: 1969
อนธการ (The Blue Hour)
Content warning: murder, attempted murder, blood, mold/moss, guns, theft, dead bodies, family violence, physical assault resulting in minor blood and major bruising, drowning, mentions of fire
โดย First S.
ภาพยนตร์เกย์จากประเทศไทยที่เป็นเวอร์ชั่นขยายจากซีรีส์ เพื่อนเฮี้ยน… โรงเรียนหลอน ตอน คืนสีน้ำเงิน ที่เล่าเรื่องราวของตั้ม เด็กมัธยมที่ถูกเพื่อนแกล้งเป็นประจำ และครอบครัวที่ไม่เคยเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับตั้ม จนกระทั่งได้พบกับภูมิ เด็กหนุ่มที่เจอกันในอินเตอร์เน็ต และนัดพบกันที่สระว่ายน้ำร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างตั้มและภูมิต่างค่อยๆ หล่อหลอมให้กลายเป็นความรู้สึกที่ตั้มโหยหามาโดยตลอด ความใกล้ชิด ความอบอุ่น การเอาใจใส่ ที่ไม่เคยได้รับมันจากใครเลย จนกระทั่งวันที่ภูมิพาตั้มไปดูที่ดินของครอบครัวเขาที่โดนโกงไปถูกทำให้กลายเป็นพื้นที่เก็บขยะ และภูมิก็พยายามหาทางที่จะนำที่ดินผืนนั้นคืนกลับมา ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ค่อยๆ เติบโตขึ้นในใจ และตั้มก็ดำดิ่งเข้าสู่พื้นที่ระหว่างความฝันและความเป็นจริง ความมืดและอันตราย ที่นำไปสู่การก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตของเขา
Genre: Drama, Horror
Language: ภาษาไทย
Director: อนุชา บุญยวรรธนะ
Run time: 97 minutes
Country: ไทย
Year: 2015
รับชมเบื้องหลังได้ที่: https://www.facebook.com/thebluehour.onthakan/videos/955229924564861/
House of Hummingbird (벌새, Beol-sae)
“ท่ามกลางผู้คนที่พานพบ จะมีสักกี่คนที่เข้าใจเราอย่างแท้จริง”
House of Hummingbird ภาพยนตร์จากประเทศเกาหลีใต้ ผลงานกำกับและเขียนบทเรื่องแรกโดย Kim Bo-ra ที่คว้ารางวัล Best Feature Film – Grand Prix of the Generation 14plus International Jury จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลินปี 2019 รวมถึงกวาดรางวัลจากหลากหลายเวทีในบ้านเกิด มันถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง บอกเล่าถึงช่วงชีวิตหนึ่งของ Eunhee (Park Ji-hu) เด็กสาวที่รู้สึกแปลกแยกและเป็นอื่นจากสังคม ทั้งชีวิตในโรงเรียนที่ไร้เพื่อนฝูง รอยร้าวและความห่างเหินของคนในครอบครัว ความเปราะบางที่ต้องเผชิญทำให้เธอสับสนราวกับนกที่โบยบินไร้ทิศทาง จนกระทั่งได้เจอคนที่เปรียบเสมือนบ้านและพื้นที่ปลอดภัย หากแต่ทุกความปรารถนาคงไม่อาจเป็นได้ดังใจ เมื่อนกปีกหักถูกทดสอบจากโชคชะตาว่าจะทนทานต่อการแตกสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้มากแค่ไหนกัน
ภาพยนตร์พาเราย้อนกลับไปในปี 1994 ประเทศเกาหลีใต้ ขณะที่เรากำลังจับจ้องไปที่ชีวิตของ Eunhee ได้เห็นสิ่งที่เธอต้องเผชิญและก้าวผ่าน ทั้งเรื่องราวความรักที่สอนให้เรียนรู้ทั้งสุขและทุกข์ ความบาดหมางกับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว และรอยช้ำบนใบหน้าที่พี่ชายฝากเอาไว้ ฉากหลังของเรื่องก็ขับเคลื่อนไปด้วยหน้าประวัติศาสตร์สำคัญทางสังคมและการเมือง อย่างเหตุการณ์สะพานซองซูถล่มในเดือนตุลาคมที่ทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ สถานการณ์อันแสนเปราะบางและกระท่อนกระแท่นของเธอและคนในสังคมถูกบอกเล่าคู่ขนานกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรียบ นิ่ง แต่สร้างความปั่นป่วนภายในระหว่างที่เฝ้ามอง
ในชีวิตคนเรา อาจมีช่วงเวลาที่สับสนจนหาทางออกไม่ได้ ครั้นจะตั้งคำถาม แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบ ภาพยนตร์รสชาติขมปร่าเรื่องนี้ คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่วางมืออย่างแผ่วเบาบนบ่า และทำให้เราเข้าใจว่าความเจ็บปวดอันแสนงดงามนั้นหน้าตาเป็นแบบไหน
Genre: Drama
Language: ภาษาเกาหลี
Director: Kim Bora
Run time: 138 minutes
Country: เกาหลี
Year: 2018
Moonlit Winter (윤희에게, Yunhuiege)
โดย The Sky is White
หนังแซฟฟิคของประเทศเกาหลีอบอุ่นหัวใจใครเคยดูหนังญี่ปุ่นที่เป็นตำนานเรื่อง Love letter (1995) จะคุ้นเคยสถานที่ดีเพราะเรื่องนี้ก็ไปถ่ายทำที่เมืองโอตารุ ประเทศญี่ปุ่น และเดินเรื่องด้วยจดหมายรัก
Moonlit Winter เล่าถึงยุนฮี (คิมฮีแอ) ที่อาศัยอยู่กับลูกสาวแซบม (คิมโซฮเย) ยุนฮีมีอาการซึมเศร้าจากการเพิ่งหย่าร้างและไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกกับลูกจนวันหนึ่งได้รับจดหมายจากจุน (ยูโกะ นากามูระ) ที่ส่งมาจากเมืองโอตารุ แซบมได้เปิดอ่านจดหมายของแม่โดยบังเอิญจึงอยากรู้ความลับของแม่เลยวางแผนชวนยุนฮีไปเที่ยวญี่ปุ่นตามที่อยู่จดหมาย เพื่อให้แม่ได้กลับมาเจอรักแรกอีกครั้งความโหยหาที่มีต่อเพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน 20 ปี บรรจุอยู่ในจดหมายถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานความทรงจำที่อยู่ในมุมของหัวใจก็เริ่มสั่นคลอนผ่านตัวอักษรอีกครั้ง
เป็นหนังที่ถึงแม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้มีบทสนทนาจำนวนมากและฉากหลังเป็นเมืองโอตารุ ประเทศญี่ปุ่น ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะทำให้บรรยากาศดูเหงาและหนาวเหน็บ แต่เชื่อว่าคนที่ได้ดูเรื่องนี้จะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นผ่านยุนฮีได้อย่างแน่นอน
Genre: Mother & Daughter, Romance
Language: ภาษาเกาหลี
Director: Lim Dae-hyung
Run time: 105 minutes
Country: เกาหลี
Year: 2019
Girlfriend, Boyfriend (Gf*Bf)
หลายสิ่งนั้นเปลี่ยนผ่าน แต่บางสิ่งยังคงเดิม
Girlfriend, Boyfriend (GF*BF) ภาพยนตร์จากประเทศไต้หวัน กำกับโดย Ya-che Yang บอกเล่าเรื่องราวความรักและมิตรภาพอันยาวนานของ 3 เพื่อนรัก ที่แสนสุข เศร้า เคล้าน้ำตา โดยทุกอย่างเริ่มต้นในช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในประเทศไต้หวัน สังคมก้าวไปสู่การปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย เมื่อ Mabel (Gwei Lun-Mei) เด็กสาวหัวขบถที่หลายคนยำเกรง ได้ทำความรู้จักกับ Liam (Hsiao-chuan Chang) และ Aaron (Rhydian Vaughan) พวกเขาต่างพูดคุย แลกเปลี่ยนอุดมการณ์ จนกลายเป็นความสนิทสนมอันแน่นแฟ้น และต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยร่วมกัน จากความรัก ความหวัง และฝันอันแรงกล้าในวัยเยาว์ ได้ผูกโยงอนาคตของพวกเขาทั้ง 3 คนไว้ด้วยกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนเป็นการสำรวจชีวิตของคนหนุ่มสาวในช่วงเวลาที่เปล่งประกายและเปี่ยมหวังที่สุดยามที่ถูกกดขี่ เมื่อพวกเขาเติบโตและพบเจอกับจุดเปลี่ยนทางสังคม ทำให้เราได้เห็นการก้าวพ้นวัย (coming-of-age) จากสถานการณ์มากมายที่ต้องเผชิญ เรื่องราวการต่อสู้ทางการเมือง และรัก 3 เศร้า ของเพื่อนรักทั้ง 3 คน จึงเปรียบเสมือนความทรงจำและบทเรียนบนหน้ากระดาษที่ไม่อาจลบเลือนได้
Genre: Drama
Language: ภาษาจีนแมนดาริน, ภาษาไต้หวัน
Director: Yang Ya-che
Run time: 105 minutes
Country: ไต้หวัน
Year: 2012
West North West (西北西)
Content warning: homophobia, xenophobia, physical assault
โดย Sharphorn
ในประเทศที่ไม่เคยหลับไหลอย่างญี่ปุ่น โชคชะตากลับพาหญิงสาว 3 คนมาผูกสัมพันธ์กันเพราะความเหงา
Kei บาร์เทนเดอร์สาวแกร่งผู้ยังไม่ยอมรับในรสนิยมทางเพศของตน ได้รู้จักหญิงสาวต่างเชื้อชาติและความเชื่ออย่าง Naima นักศึกษาเอกศิลปะชาวอิหร่าน ซึ่งมิตรภาพของทั้งคู่ก็ไม่พ้นสายตาแฟนสาวขี้หึงของ Kei อย่าง Ai นางแบบผู้ยืนหยัดในความต้องการของตนแม้จะอยู่ในสังคมที่ไม่ยอมรับความรักระหว่างคนเพศเดียวกัน
ถึงแม้ทั้ง 3 คนจะมีนิสัย เงื่อนไขชีวิต และความเชื่อแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขาไว้นั้น คือความโดดเดี่ยวและความสับสนต่ออนาคตของตนเองแม้จะรายล้อมไปด้วยเสียงอึกทึกในบาร์ แสงแฟลชและดนตรีเร้าอารมณ์ในกองถ่าย นักศึกษาเดินขวักไขว่ในรั้วมหาลัย แต่ West North West หลง ทาง รัก ก็ประสบความสำเร็จในการพาเราเข้าสู่ห้วงแห่งความเหงาของตัวละครหลักได้ หากใครชอบภาพยนตร์สโลว์เบิร์น ใช้สายตาแทนคำพูด อาจชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก สุดท้ายแล้วทางเลือกของ 3 สาวนั้นก็เกินกว่าคนดูจะตัดสิน เพราะชีวิตไม่อาจมีเข็มทิศคอยชี้หนทางที่ถูกต้องได้
Genre: Drama
Language: ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาเปอร์เซีย(ฟาร์ซี), ภาษาจีนแมนดาริน, ภาษาอังกฤษ
Director: Takuro Nakamura
Run time: 126 minutes
Country: ญี่ปุ่น
Year: 2015
LOEV
Content warning: toxic masculinity
โดย plustard
LOEV ภาพยนตร์เควียร์เอเชียจากประเทศอินเดีย ที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของ ซาฮิล ไจ และ อเล็กซ์ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ยังเด็ก และความสัมพันธ์ของพวกเขานั้น คือการประคองกันไปตลอดทั้ง ซึ่งตัวของผู้กำกับนั้น ต้องการที่จะให้ภาพยนตร์เกย์เรื่องนี้ไม่ได้ผูกติดอยู่แค่กับการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงความเป็นเกย์ในอินเดียกับระบอบการเมืองที่จัดเต็ม ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชม
Genre: Romantic Drama
Language: ภาษาฮินดี, ภาษาอังกฤษ
Director: Sudhanshu Saria
Run time: 92 minutes
Country: อินเดีย
Year: 2017
Blue
โดย First S.
Blue ภาพยนตร์เควียร์เอเชียจากประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นมาจากมังงะโชโจในชื่อเดียวกันของ Kiriko Nananan เล่าเรื่องราวของคิริชิมะ คายาโกะ และ เอนโด มาซามิ ที่ทั้งคู่ต่างเป็นคนนอกในกลุ่มเพื่อนในชั้นเรียนของโรงเรียนหญิงล้วนริมชายทะเล เพื่อสะท้อนถึงความโดดเดี่ยวของตัวละคร ให้ดูราวกับว่า อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโลก ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนนั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่ความรักที่เกิดขึ้น แต่ทั้งคู่จะสามารถรักษาความรักนี้ไปได้นานเพียงไหน ทั้งคู่ต่างไม่มีใครตัดสินกันและกัน แค่เปิดใจรับฟัง และเป็นที่พักใจให้กันตลอดมา ปล่อยให้สายลมและเสียงคลื่นขับกล่อมและปลอบประโลมทั้งคู่ จากโลกอันโหดร้าย
Genre: Romantic Drama
Language: ภาษาญี่ปุ่น
Director: Hiroshi Ando
Run time: 116 minutes
Country: ญี่ปุ่น
Year: 2002