Cate Blanchett มองว่าอัตลักษณ์ทางเพศของ Lydia Tár ไม่เรื่องที่ควรถูกหยิบมาพูดเป็นประเด็น

| | , ,

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Cate Blanchett นักแสดงชาวออสเตรเลีย ผู้ฝากผลงานสุดประทับใจไว้ให้กับวงการฮอลลีวูดเอาไว้เป็นจำนวนมาก มารับบทบาทเป็นเลสเบี้ยน เพราะว่าล่าสุด เธอมารับบทเป็น ลิเดีย ทาร์ วาทยกรสาว ผู้แต่งงานกับ ชารอน นักไวโอลินมือหนึ่งของวงออร์เครสตร้า และเลี้ยงลูกสาวคนหนึ่งไว้ด้วยกัน ซึ่ง เคท แบลนเชตต์ เองก็เคยรับบทเลสเบี้ยนมาก่อนแล้ว ทั้งจาก Carol และจนมาถึงภาพยนตร์เรื่อง Tár โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง Carol ก็ถือเป็นภาพยนตร์แซฟฟิคคริสต์มาสสุดคลาสสิคไปโดยปริยาย

แต่สำหรับบทสัมภาษณ์ของเคทจาก Vanity Fair ที่เธอพูดถึงตัวละครของเธอจากภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องว่า เธอไม่ได้คิดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเธอรับบทเป็นเกย์ทั้งในเรื่องแครอลและทาร์ เพียงแต่สนใจเฉพาะข้อมูลที่ว่า ในช่วงเวลาของภาพยนตร์ Tár มีแค่เพียงผู้หญิงไม่กี่คนที่เป็นผู้นำวงออร์เครสตร้าใหญ่ๆ แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิงที่เป็นเกย์ ตัวของลิเดีย ทาร์ ก็ได้ครอบครองตำแหน่งนี้เอาไว้อยู่ มันแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่อีกด้วย

แม้ว่าเบื้องหลังของตัวละคร ลิเดีย ทาร์ จะมีความคล้ายคลึงกับศิลปินและนักดนตรีหลายคน แต่เธอก็ยังคงย้ำว่าเรื่องนี้คือเรื่องสมมติที่เกิดขึ้น และเป็นแฟนตาซี คำถามต่อมาก็คือ การที่เธอมารับบทเป็นเควียร์นี้ถือเป็นการท้าทายความสามารถหรือแค่เพราะลุ่มหลงในอำนาจ “ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องของเพศสภาพ (Gender) และเพศวิถี (Sexuality) ของฉันเลย สำหรับตอนเรียน มันคือ David Bowie มันคือ Annie Lennox มันมีความลื่นไหลทางเพศอยู่ตลอด”

และเมื่อพูดถึงภาพยนตร์ I’m Not There ที่เล่าถึงเรื่องราวของ Bob Dylan ในหลากหลายมุมมอง เคทเองก็ให้สัมภาษณ์บอกว่า “ฉันต้องตั้งใจฟังมากๆ เลย เมื่อคนมีปัญหากับมัน ฉันแค่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด และฉันต้องการที่จะเข้าใจมัน เพราะคุณไม่สามารถปฏิเสธความหลงใหลในคำนิยามเหล่านั้นได้ เบื้องหลังความหลงใหลนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ฉันไม่เคยมีมันเลย”

สำหรับบทบาทของเคทในเรื่องนี้ เธอบอกกับ Indie Wire ว่า “ตัวละครนั้นมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก เรามีเวลามากมายที่จะพูดคุยถึงเบื้องหลังของพวกเขาอย่างละเอียด และทำให้เห็นได้ชัดในสิ่งที่พวกเขาทำ” เธอบอกต่อว่า “สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับเรื่องราวที่ท็อดด์เขียน วิธีการที่เขากำกับมัน และวิธีที่เราเข้าถึงมันก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันของพวกเขานั่นเอง มันไม่ใช่ประเด็นของหนังและไม่ใช่เรื่องเจนเดอร์ของตัวละครเลย”

ตัวของ เคท แบลนเชตต์ เองก็ได้ให้สัมภาษณ์ภายในงานเทศกาลภาพยนตร์เวนิช เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา เพื่อยืนยันว่าผลงานของเธอนั้น ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนไหวเรียกร้อง “”ฉันไม่เห็นถึงการปฏิบัติการเชิงศิลปะเป็นเครื่องมือในการศึกษานะ” เธอบอกต่อด้วยว่า “ฉันไม่สนใจในการใช้ภาพยนตร์เพื่อเผยแพร่แนวความคิดในเชิงการเมือง (Agitprop) แม้ว่ามันจะเป็นหัวข้อยอดฮิตมากมายจากหนังเรื่องนี้ มันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นเลย มันเป็นแค่เพียงพล็อต” นอกจากนี้แล้ว เธอก็ยังได้อธิบายต่อว่า “แล้วหลังจากที่เราสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา มันสามารถกลายเป็นเรื่องการเมือง การพูดคุย ผู้คนอาจจะรู้สึกรังเกียจ โกรธเคือง หรือได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่นั่นมันก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา”

นอกจากนี้แล้ว จากบทสัมภาษณ์กับ OK! Magazine เธอก็ยังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบทบาท ลิเดีย ทาร์ ในภาพยนตร์ TAR ด้วยว่า “เอาจริง ฉันก็ไม่ได้คิดถึงเพศสภาพและเพศวิถีของเธอ (ลิเดีย) เลย และฉันคิดว่าฉันชอบสิ่งนั้นเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ มันมีความเป็นมนุษย์มาก และฉันคิดว่าเราอาจจะโตพอแล้วที่เราจะสามารถดูหนังแบบนี้ได้โดยไม่เอามาเป็นพาดหัวข่าว และฉันก็ว่ามันน่าตื่นเต้นมากๆ”

หนึ่งในฉากที่สำคัญของ Tar คือฉากที่ลิเดีย ทาร์ โต้เถียงกับนักเรียนของเธอในคลาสที่ไปสอนที่ Juilliard เกี่ยวกับการแบ่งแยกศิลปะออกจากศิลปิน คุณค่าทางความคิดสร้างสรรค์ของความหลากหลาย และการเปลี่ยนแปลงไปตามผู้คุมกฎ ซึ่งเด็กที่มีปัญหาก็คือนักเรียนที่นิยามตัวเองว่าเป็น BIPOC แพนเจนเดอร์ (BIPOC = Black, Indigenous, (and) People of Color คนผิวดำ คนพื้นเมือง และคนผิวสี) และนั่นก็ทำให้ลิเดียรู้สึกแย่อย่างเห็นได้ชัด เธอทั้งขึ้นเสียง พูดหยาบคาย และโวยวาย “นั่นคือสิ่งที่ท็อดด์ทำ” เคทบอก “สิ่งเหล่านี้ไม่มีคำตอบ แต่บทสนทนานี้สำคัญมากๆ”

เธอหวนกลับไปนึกถึงแครอล “ถ้าแครอลสร้างขึ้นในตอนนี้ แล้วฉันไม่ใช่เกย์ ฉันจะได้รับอนุญาตจากสาธารณะให้เล่นบทนั้นมั้ยนะ” แล้วทาง Vanity Fair ก็ถามเธอว่า มันควรจะเป็นเธอไหม แล้วเคทก็บอกว่า “ฉันไม่รู้คำตอบสำหรับเรื่องนี้จริงๆ”

คุณสามารถรับชม Cate Blanchett ในภาพยนตร์ Tár ได้ในโรงภาพยนตร์

TÁR | Official Trailer | Thai Sub | UIP Thailand

TÁR

Genre: Psychological drama
Year: 2022
Country: United States, Germany
Language: English, German, French, Tagalog
Run time: 158 minutes
Director: Todd Field
Screenwriter: Todd Field
Actors: Cate Blanchett, Noémie Merlant, Nina Hoss, Sophie Kauer, Julian Glover, Allan Corduner, Mark Strong
Producers: Todd Field, Alexandra Milchan, Scott Lambert
Cinematography: Florian Hoffmeister
Editor: Monika Willi
Music: Hildur Guðnadóttir (Joker, Sicario: Day of the Soldado), Lucy Bright
Distributor: Focus Features, UIP Thailand

Sources:

  • https://www.france24.com/en/live-news/20220901-cate-blanchett-i-m-not-making-female-or-lesbian-propaganda
  • https://www.indiewire.com/2023/01/cate-blanchett-reacts-lesbian-icon-status-1234799844/
  • https://www.ok.co.uk/celebrity-news/cate-blanchett-says-privilege-gives-28947172
  • https://www.thedailybeast.com/obsessed/cate-blanchett-on-playing-iconic-lesbians-im-not-interested-in-agitprop
  • https://www.vanityfair.com/hollywood/2023/02/cate-blanchett-tar-awards-insider
Previous

Love & Death กำลังจะฉายทาง HBO Go *ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตก่อนสร้างผลงาน*

คุยกับ Lukas Dhont ผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ ผู้พา CLOSE เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2023

Next