หลังจากที่ Chucky ฝากรอยคิดถึงเอาไว้ให้กับครอบครัวของเจค แม่ของเดวอน และพ่อของเล็กซี่แล้ว และพวกเขาก็ดูเหมือนจะหาทางจัดการกับพวกชัคกี้ได้เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับซีซั่นสองที่กำลังเดินทางอยู่นั้น ก็ต้องบอกเลยว่ามันเพิ่มความน่ากลัวขึ้นทวีคูณ เพราะหลังจากที่ทั้งสามคนถูกส่งไปยังโรงเรียนดัดนิสัยที่ดำเนินการโดยศาสนจักรคาทอลิก นั่นหมายความว่า ไม่ใช่แค่พวกเขาที่จะต้องเผชิญหากับชัคกี้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และดราม่าครั้งใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
Alyvia Alyn Lind ผู้รับบท Lexy ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ io9 ว่า ตัวละครของเธอนั้น เปลี่ยนไปจากซีซั่นแรกอย่างสิ้นเชิง “เธอไม่ใช่ตัวละครที่เรารู้จักในซีซั่นแรกอีกต่อไป เล็กซี่เปลี่ยนไปนะ เธอเป็นคนที่ดีขึ้น มีความเห้นอกเห็นใจ และมีความรู้สึกมากขึ้นด้วย เธอก็แค่พยายามที่จะปกป้องคนรอบข้างและพยายามรับมือกับความบอบช้ำที่เธอเองต้องทนทุกข์ในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้”
ในช่วงต้นซีซั่นที่สอง เราได้พบกับนาดีน เพื่อนร่วมห้องในโรงเรียนดัดนิสัยของเล็กซี่ก็มีปัญหาบางอย่างเหมือนกัน ที่เป็นเด็กที่ชอบลักเล็กขโมยน้อยจนกลายเป็นนิสัย และไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ (Kleptomania) แต่สุดท้ายแล้ว ทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกันและมีมิตรภาพที่สำคัญต่อกัน “เราได้เห็นเล็กซี่และนาดีนสามารถช่วยเหลือกันและกันในปัญหาที่พวกเขาได้เจอ ทั้งคู่เองก็พยายามทำความเข้าใจผู้คนกันมากขึ้นด้วย แล้วนาดีนก็เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเล็กซี่ และพยายามที่จะช่วยเธอในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เธอเป็นคนที่ไม่เอาคำตัดสินของคนอื่นมาติด และอยากที่จะช่วยให้เล็กซี่รู้สึกดีขึ้นจริงๆ เล็กซี่ก็เลยซี่อสัตย์กับนาดีนอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าเล็กซี่จะชอบถากถางก็ตาม แต่เธอก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดที่ฉันคิดว่าคุณจะเจอนะ แล้วเธอก็แค่อยากจะอยู่เคียงข้างนาดีนและช่วยเธอเหมือนกัน”
แต่สำหรับ Bella Higginbotham ผู้รับบท Nadine เธอเองก็ให้สัมภาษณ์บอกว่าเธอไม่คุ้นเคยกับจักรวาล Child’s Play มาก่อน แต่ทุกคนก็ต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะ Don Mancini และ Alyvia Alyn Lind ซึ่งตัวเธอของเองก็ยังพบว่านาดีนน่ะ ถูกบังคับให้ขโมยของที่น่ารักๆ แล้วมันก็ยังจะมีประโยชน์ต่อๆ ไปในซีซั่นนี้อีกด้วย “โรค kleptomania ของนาดีนจะเป็นหนึ่งในนิสัยที่ฉันชอบเกี่ยวกับเธอนะ มันเป็นเรื่องไม่คาดคิดเลยและนาดีนก็พยายามจัดการกับมันผ่านการสารภาพบาป มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับฉันมาก เพราะเธอถือว่าการสารภาพบาปมันก็เหมือนกับการบำบัดนั่นแหละ ฉันคิดว่านั่นมันน่ารักจริงๆ แต่ในซีซั่นนี้ โรค kleptomania ของนาดีนก็มีประโยชน์มาก และฉันไม่คิดว่านั่นจะทำให้เธอมีแรงจูงใจในการหยุดขโมยของ”
อย่างที่แฟนชัคกี้รู้อยู่แล้วนั้น เจคและเดวอนบอกความรู้สึกของพวกเขาให้กันและกันในซีซั่นแรก ในตอนเริ่มต้น ระยะทางค่อนข้างที่จะเป็นอุปสรรคสำหรับความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่ในระยะเวลาไม่นาน ชัคกี้ก็ทำให้พวกเขากลับมารวมตัวกันได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวนี้มันถูกรวมเข้ากับความเป็นชัคกี้และเด็กเควียร์ทั้งสองคนที่มีความรักต่อกันพร้อมๆ กับการจัดการตุ๊กตาฆาตกรต่อเนื่องที่หวังจะถลกหนังเขาทั้งเป็น “รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ เลยนะที่ได้เล่าเรื่องราวแบบนั้นต่อ” Björgvin Arnarson ผู้รับบทเดวอนบอก “ผมคิดว่าการแสดงแบบนั้นมันจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือที่มากกว่านี้ โดยเฉพาะในเรื่องของความสยองขวัญ การที่ทำได้และทำได้ดีต่อเนื่องตลอดทั้งซีรีส์ มันทำให้รู้สึกดีเลยล่ะ”
Zackary Arthur เองก็เห็นด้วย “ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการแสดงแบบนี้ โดยเฉพาะกับผู้ชมเด็กๆ ที่กำลังดูอยู่เหมือนกัน สิ่งที่ทำได้ดีมากๆ ก็คือเขาเอาแนวคิดและธีมของเรื่องโดยไม่ทำให้คุณเสียหน้า มันเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่ง มันก็แค่ชีวิตจริง”
“ช่วงต้นซีซั่นสอง ทั้งเดวอนและเจคก็พยายามที่จะติดต่อกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้คุยกันมานาน” Björgvin Arnarson บอก “การถูกผลักเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น มันทำให้ทุกอย่างแย่ลง เจคอยากทำให้ทุกอย่างดูไม่เป็นเรื่องใหญ่ แต่เดวอนก็จะแบ ‘ไม่ๆ เราต้องทำมันซะ’ นั่นมันเริ่มสร้างความแตกแยกให้กับความสัมพันธ์ของพวกเขา”
แซคคารี่ยังบอกต่อว่า “โรงเรียนคาทอลิกมักจะไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบนั้น แล้วสิ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับฉากนั้นก็คือวิธีที่ Chucky ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมใหม่นี้ แบบชัคกี้ในโรงเรียนคาทอลิก มันจะเกิดอะไรขึ้น ผมหมายถึง นั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดที่เคยได้ยินมา มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับงานเขียนของดอน ทุกครั้งที่ชัคกี้มีอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา นั่นก็ทำให้แฟนๆ ได้เห็นและสดชื่นมากจริงๆ”