สำหรับภาพยนตร์หรือซีรีส์ นอกจากเนื้อเรื่องและตัวละครที่มีความหนักแน่น เข้มข้นแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยที่จะเข้ามาช่วยเสริมสร้างอารมณ์ร่วมไปกับผลงานเหล่านั้นก็คือ สกอร์และเพลงประกอบที่ถูกหยิบมาใช้อย่างพิถีพิถันในแต่ละฉากแต่ละตอน ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงการลุ้นระทึก ร้องไห้ หัวเราะ โดดเดี่ยว ไปจนถึงการอึดอัดใจในสถานการณ์บางอย่าง อาจเรียกได้ว่า ดนตรีส่งผลต่ออารมณ์ของเรานั่นเอง และยังสามารถกระตุ้นการตอบสนองในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปได้ สำหรับ Killing Eve ก็เช่นกัน มีการเลือกสรรอย่างพิถีพิถันในส่วนของเพลงประกอบเพื่อให้เข้ากันได้ดีกับเรื่องราวที่กำลังดำเนินไป
คนที่อยู่กับงานเสียงและเพลงประกอบก็คงจะหนีไม่พ้นกับ Catherine Grieves ที่เป็น Music Supervisor ของ Killing Eve Keefus Ciancia และ David Holmes ผู้เป็น Co-composer ของซีรีส์เรื่องนี้ และ Unloved ที่ทำเพลงประกอบให้กับซีรีส์เรื่องนี้ด้วยนั่นเอง และกว่าจะมาเป็นเป็นคิลลิ่งอีฟในทุกวันนี้ที่นอกจากจะทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นกับเรื่องราวที่ชวนค้นหาในทุกๆ ตอนแล้ว แฟนๆ ต่างก็ยังคงเฝ้ารอว่าเพลงประกอบของในแต่ละซีซั่นจะออกมาในรูปแบบไหน
สำหรับซีซั่นแรก Catherine Grieves บอกว่าพวกเขาต้องการที่จะโชว์เสียงที่เข้ากันได้ของตัวละครตั้งแต่ซีซั่นแรกเลย “เพราะอย่างนั้น ซาวด์แทร็กก็เลยเป็นส่วนสำคัญมากๆ เกือบที่จะเป็นเสียงที่สามของอีฟและวิลลาแนลล์ก็ว่าได้ เหมือนเสียงร้องของผู้หญิงที่มีความน่าสนใจและชัดเจนมากๆ เรารวบรวมเพลย์ลิสต์ของนักร้องที่พวกเราชื่นชอบและมีเพลงจำนวนมาก แล้วก็พบว่า อิทธิพลจากยุค 60 สุดคลาสสิกและเสียงที่ไร้กาลเวลานั้น มันเวิร์กกับซีรีส์มากจริงๆ”
การเลือกเพลงประกอบถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน แคทเธอรีน กรีฟส์ ก็ได้บอกว่า พวกเขาใช้วิธีแบบออร์แกนิกในการค้นหาเพลงเหล่านั้น เมนหลักในการหาซาวด์แทร็กก็คือ การเลือกใช้เพลงที่คนไม่เคยได้ยินมาก่อน “พวกเขาชอบที่จะค้นหาคอลเลคชั่นแล้วก็หยิบเอา B-side จากซิงเกิลยุค 60 แล้วก็เพลงอื่นๆ มานั่งฟังนั่นแหละ” เธอเสริมต่อด้วยว่า “บางครั้งกับเพลงดังๆ หรือเพลงที่คุ้นเคยเนี่ย ก็อาจจะทำให้คิดถึงสิ่งที่เคยมีเกิดขึ้นมาก่อน ในขณะที่พวกเราอยากที่จะทำให้เพลงในซีรีส์เรื่องนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”
นอกจากนี้แล้ว การเลือกเพลงประกอบให้เข้ากับสถานที่ ก็จะช่วยสร้างโมเมนต์ที่ยอดเยี่ยมให้กับแต่ละฉากได้อย่างดี แคทเธอรีนบอกว่า “เรามักจะจับคู่ว่าตอนนั้นหรือฉากนั้นอยู่ที่ประเทศไหน อย่างเพลงยุโรปบางเพลงที่ใช้บ่อย เช่น ในซีซั่นสอง เราชอบที่จะใช้เพลงจากประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะเพลงในภาษานั้น มันสนุกมากๆ ที่ได้ค้นหาเพลงดีๆ ที่เราอาจไม่คุ้ณเคย อย่างตอนที่อยู่ที่ฝรั่งเศส มันง่ายมากที่จะหาเพลงฝรั่งเศสยุค 60 ที่ยอดเยี่ยมอย่าง Brigitte Bardon แต่สำหรับบางประเทศก็ยากมากๆ อย่างในซีซั่นสองที่ไปอัมสเตอร์ดัม นั้นนั้นก็ยากแล้วก็ท้าทายมากๆ ที่จะหาเพลงให้เหมาะกับ Killing Eve และเป็นภาษาดัตช์ด้วย” เธอเสริมต่อว่า “เพราะว่าเพลงดัตช์ส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษ แต่เราได้เพลง ‘Angel of the Morning’ (Vlinder van een zomer – Willeke Alberti) ฉบับคัฟเวอร์โดยศิลปินชาวดัตช์ แถมยังเข้ากับฉากนั้นมากๆ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ค้นพบอันยิ่งใหญ่เลยล่ะ”
เธอบอกด้วยว่า “ในแง่ของผู้เผยแพร่และค่ายเพลงส่วนใหญ่ ทุกคนล้วนกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกับเราอย่างมาก แต่นั่นก็มีเพลงเก่าสองสามเพลงที่ศิลปินปฏิเสธเราเพราะว่าซีรีส์มันมีความรุนแรง” นอกจากนี้แล้ว เธอยังบอกด้วยว่า พวกเขาพยายามที่จะเลือกใช้เพลงอินดี้ (Independent Music) แล้วก็ใช้เพลงจากค่ายใหญ่ๆ ด้วยเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะหันไปหาเพลงอินดี้มากกว่า
สำหรับกระบวนการเลือกเพลงเพื่อขอเพลงนั้น แคทเธอรีนบอกว่าเธอกับเดวิดจะสร้างเพลย์ลิสต์เพลงทั้งก่อนถ่ายและช่วงตัดต่อ ก่อนที่จะส่งไปให้ผู้กำกับและคนตัดต่อของซีรีส์ “พวกเราชอบที่จะให้ editor และผู้กำกับคุ้นเคยกับเพลงตั้งแต่แรก เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าใจฉากนั้นๆ ได้ดีกว่าเดิม และเมื่อโปรดิวเซอร์และผู้กำกับคุ้นเคยกับฉากและเพลงนั้นๆ ไปแล้ว การเปลี่ยนเพลงอาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะว่ารสนิยมเรื่องเพลงมันเป็นเรื่องปัจเจก และเราอยากที่จะลองทำทุกอย่างให้ดูแตกต่าง แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้กำกับจะแนะนำเพลงดีๆ ไม่ได้นะ พวกเราต่างอยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับซีรีส์เรื่องนี้”
การเข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์ Killing Eve
“ตอนแรกที่ Sid Gentle Films บริษัทผู้ผลิตซีรีส์เรื่องนี้เข้ามาหาผมแล้วก็ส่งสคริปต์ให้ช่วงวันหยุด มันก็ไม่ได้อะไรผมขนาดนั้น” David Holmes บอก “แต่พอเห็นชื่อของ Phoebe Waller-Bridge แล้วมันก็เหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละ ผมเป็นแฟนตัวยงของ Fleabag เลย มันทำให้ผมตื่นเต้นมากๆ เพราะงั้น ผมก็เลยอ่านมันทันทีแล้วก็ตอบตกลงไป” เดวิดเสริมต่อว่า “ผมคิดว่าฟีบี้เป็นอัจฉริยะนะ เธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง แล้วก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากๆ” เขายังบอกด้วยว่า “ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับเธอ งานเขียนของเธอนั้นมันสดใหม่มากจริงๆ”
ส่วนแคทเธอรีนก็บอกว่าเธออ่านเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ตอนที่มันกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาบทอยู่ “ฉันคิดว่ามันน่าตื่นเต้นนะ จริงๆ ฉันก็หมกมุ่นอยู่กับ Fleabag แล้วก็อยากที่จะมีส่วนร่วมในซีรีส์เรื่องนี้ แล้วฉันก็เคยทำงานร่วมกับ Sid Gentle Films กับ Colin Wratten โปรดิวเซอร์ซีรีส์มาก่อนแล้ว ทุกอย่างมันเป็นไปได้ดี”
นอกจากนี้แล้ว การทำงานร่วมกับทีมงานนั้น พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะในด้านของการทำเพลงประกอบ เดวิดบอกว่าการทำงานกับ Killing Eve ก็เหมือนกับการถูกหวย “พวกเราได้รับผ้าใบว่างเปล่า ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากทีมเขียน ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์” แคทเธอรีนบอกว่าเธอและเดวิด โฮล์ม สามารถนำเสนอสิ่งที่คิดว่ามันเหมาะสม และความเห็นของพวกเขาก็ไม่ถูกผลักตกด้วย “มีการหารือกันในทุกๆ อย่างเลย แต่ว่าพวกเราก็มีอิสระในการที่จะกล้าทำในสิ่งที่เรานำเสนอออกไป” และนั่นถือเป็นความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ความเข้ากันระหว่างเพลงประกอบกับตัวละคร
หลายครั้งที่เพลงประกอบแต่ละเพลงถูกคัดเลือกมาสำหรับตัวละครที่แตกต่างกันออกไป ใน Killing Eve ก็เช่นกัน การเลือกเพลงนั้นล้วนแล้วแต่ถูกเลือกมาอย่างละเอียด เพื่อนำเสนอบุคลิกที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละตัวละคร แคทเธอรีนบอกว่าการเลือกเพลงประกอบให้กับตัวของ Villanelle นั้นสนุกมาก เพราะเธอเป็นคนที่มีหลากหลายมุม แล้วดนตรีที่เลือกใช้มักจะเน้นความรู้สึกและความคิดภายในของเธอ “เธอมีด้านที่ดาร์ก แล้วก็มีด้านที่ตลก ซึ่งเราพยายามที่จะดึงมันออกมาด้วยดนตรีที่เล่นกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ” เธอบอกต่อว่า “เราก็เลือกเพลงบางเพลงให้เหมาะกับเธอ อย่างเพลง Killer Shangri-Lah ของ Pshycotic Beats สำหรับอารมณ์ที่บิดเบี้ยว หรืออย่างเพลง Contact ของ Brigitte Bardot ที่ถูกเลือกมาเพื่อแสดงออกให้เห็นถึงทัศนคติและความดื้อรั้นของเธอ หรือเพลง Durch dunkle Tannen ของ Die Wilde Jagd ที่จะสื่อถึงความดาร์คที่บริสุทธิ์ และเชื่อมโยงเข้าด้วยกันกับ Unloved” แต่ก็ต้องบอกว่า เพลงประกอบนั้นยังช่วยส่งเสริมและเชื่อมโยงตัวละครให้เข้าหากันได้อีกด้วย อย่างเพลง Angel of the Morning ฉบับคัฟเวอร์ ก็เป็นสิ่งที่เชื่อมอีฟและวิลลาแนลล์เข้าด้วยกันนั่นเอง
Unloved
เมื่อพูดถึงเพลงประกอบของ Killing Eve หลายคนก็จะนึกถึง Unloved เป็นอันดับแรกๆ เพราะนอกจากจะถูกหยิบมาใช้งานบ่อยแล้ว ก็ยังมีการคัฟเวอร์เพลง Strange Effect ของ The Kinks แล้วทำให้แฟนๆ แตกตื่นจากฉากนั้น และชวนให้อารมณ์พรั่งพรูออกมาอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว เพลงอื่นๆ ของพวกเขา ก็ยังเข้ากับบรรยากาศของซีรีส์สุดๆ ซึ่งตัวของแคทเธอรีนบอกว่า เดวิดเป็นคนพา Unloved เข้ามา แล้วพวกเขาก็เคยปล่อยอัลบั้มก่อนหน้านั้นด้วย ซึ่งเพลงของ Unloved กับสกอร์ที่เดวิดเขียน มันเข้ากันมากๆ แล้วมันก็ดูจะเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่นด้วย แคทเธอรีนยังบอกอีกด้วยว่า Unloved นั้นเหมาะที่จะสร้างดนตรีประกอบให้กับ Killing Eve ด้วยอารมณ์ที่ชัดเจน และยากที่จะจินตนาการว่าศิลปินคนอื่นจะมาทำได้
Unloved เป็นการรวมตัวกันระหว่าง Jade Vincent (นักร้อง) David Holmes (มือเพอร์คัชชัน) และ Keefus Ciancia (มือคีย์บอร์ด) พวกเขาปล่อยเพลงออกมา 2 อัลบั้ม คือ Guilty of Love ปล่อยในปี 2016 และ Heartbreak ปล่อยในปี 2019 แล้วก็มีเพลงจากทั้งสองอัลบั้มที่อยู่ในซีรีส์ Killing Eve ด้วย
- David Holmes เป็นคอมโพสเซอร์ทำเพลงประกอบให้ Ocean’s 11, Ocean’s 12, Ocean’s 13, Logan Lucky
- Keefus Ciancia เป็นคอมโพสเซอร์ทำเพลงให้กับ Diana, The Hunger Games, SPIDER-Man 2, The Fall season 1-3, True Detective season 1-2 เป็นต้น
- Jade Vincent เขาเป็นนักร้องและนักแต่งเพลง เคยเขียนเพลงให้กับ Baby Driver
“ตอนที่ผมถูกทาบทามให้มาทำเพลงให้กับ Killing Eve ผมบอกไปสองอย่างเลยก็คือ หนึ่ง ดนตรีควรที่จะต้องมีนักร้องหญิงนำ และสอง ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ประเทศไหน ก็ควรที่จะต้องมีเพลงจากประเทศนั้นอยู่ ผมส่งโฟลเดอร์ขนาดใหญ่ที่รวมไอเดียอยู่ในนั้น แล้วก็มีเพลงของ Unloved บางเพลงที่ผมเลือกเองอยู่ในนั้นด้วย ตอนแรกที่ผมได้เห็นเอพิโสดแรก มันมีเพลงของ Unloved อยู่ในนั้นด้วยสามเพลง และนั่นเป็นเพลงที่ผมอยากจะให้มันเข้ากันกับตัวซีรีส์” เดวิดบอกกับ Flood Magazine
“สิ่งที่เราตามหาสำหรับ Killing Eve คือสิ่งที่แตกต่างออกไป” แคทเธอรีนบอก “เพลย์ลิสต์แรกที่ฉันสร้างขึ้นมาเต็มไปด้วยศิลปินหญิงที่มีศักยภาพ แล้วก็มีเพลงแบบ left-field (Left-Field Music เป็นเพลงที่อยู่นอกกรอบ ตกขอบไปฝั่งซ้าย ที่มักจะเป็นเพลงที่อยู่เหนือความคาดหมาย ไม่ได้อยู่ในกระแสหลัก อาจจะดังในอินเทอร์เน็ต แต่ก็แปลกกว่าที่จะเอามาใช้ในซีรีส์หรือภาพยนตร์1) อาจจะไม่ได้ left-field เท่ากับ Unloved แต่มันก็เวิร์กเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเพลงที่ใช้เสียงร้องบ่อยๆ แล้วทำให้เบนสายตาไปจากผลงานที่โชว์อยู่บนหน้าจอ แต่สำหรับน้ำเสียงของ Jade Vincent มันเหมือนจะเป็นเสียงของเครื่องดนตรีมากกว่าเสียงร้อง มันเข้ากันกับซีรีส์ได้เป็นอย่างดี”
“เสียงของเจดเป็นเสียงนำมากกว่าดนตรีพื้นหลัง ราวกับว่าเราได้เพิ่มตัวละครใหม่ให้กับเสียงโดยรวม บางครั้งเราก็จะบอกแนวทางคร่าวๆ ให้กับเธอ ซึ่งเธอก็กลับมาพร้อมกับท่วงทำนองเล็กๆ หรือในบางทีก็เป็นเพลงเลย การฟังเนื้อเพลงที่เกี่ยวกับบางสิ่งที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง มันงานที่สวยงามและคลุมเครือในเวลาเดียวกัน แม้ว่ามันอาจจะไม่คุ้นชินเท่าไหร่ก็ตาม แต่มันเข้ากันได้ดีอย่างมาก”
Soundtrack โดดเด่นใน Killing Eve
Killer Shangri-Lah โดย Pshycotic Beats feat. Pati Amor
Killer Shangri-Lah ของ Pshycotic Beats feat. Pati Amor เป็นหนึ่งในเพลงที่แคทเธอรีนชอบ ซึ่งเพลงนี้ถูกใช้ในตัวอย่างทั้งหมดแล้วก็ในซีนต่างๆ ของซีซั่นแรก
แคทเธอรีนบอกว่าเธอเจอเพลงนี้หลังจากอ่านสคริปต์ได้ไม่นาน แล้วก็คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องพิเศษ “บางครั้งมันก็ยากที่จะตัดสินว่าเพลงนั้นฟังดูคุ้นหูมั้ย แต่ว่าน้ำเสียงกับเนื้อร้องมันเข้ากันได้ดีมากๆ เพราะงั้น มันก็เลยเหมาะมากๆ เลยล่ะ”
Xpectations โดย Unloved
Expectations เป็นเพลงที่ใช้ในฉากจบ แคทเธอรีนบอกว่า มันเป็นเพลงที่รวมเอาบรรยากาศทั้งหมดไว้ด้วยกัน แล้วพอเราได้ยินว่ามันใช้ในฉากเปิดร้านไอศกรีม มันทำให้รู้สึกว่าพวกเขาไปถึงที่นั่นแล้วจริงๆ และรู้ว่ากำลังมุ่งหน้าที่ทางไหน
Heroes Everything โดย Pyrit
Heroes Everything โดย Pyrit เป็นเพลงที่ใช้ในซีซั่นสอง ในฉากที่วิลลาแนลล์เข้าไปในไนท์คลับ แคทเธอรีนและเดวิดบอกว่าพวกเขาต้องการศิลปินและเพลงที่มันเหมาะกับไนท์คลับ แต่ก็ยังคงความรู้สึกของการสูญเสียการควบคุมของวิลลาแนลล์ในสถานการณ์ที่กดดันด้วย “เพลงนี้มีรีเวิร์บและเสียงดีเลย์ของเสียงร้องจริงๆ ที่ช่วยคงความรู้สึกนั้นเอาไว้”
Vlinder van een zomer โดย Willeke Alberti
แคทเธอรีนและเดวิดบอกว่าเพลงนี้ใช้ในช่วงที่วิลลาแนลล์อยู่ในจุดที่อ่อนไหวและเปราะบางมากๆ แล้วเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่เกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวังแต่ก็ยังคงโหยหามันอยู่
I’m Gonna Haunt You โดย Fabienne DelSol
เพลงนี้เป็นเพลงที่ใช้ตอนที่วิลลาแนลล์กำลังตามล่าหาอีฟ แคทเธอรีนและเดวิดบอกว่าพวกเขาต้องการที่จะแทรกเพลงที่มีองค์ประกอบที่ดูคุกคาม แต่ต้องเข้ากับความคอเมดี้ในซีนนั้นๆ ด้วย เพลง I’m Gonna Haunt You ของ Fabienne DelSol จึงเหมาะมากๆ ด้วยอิทธิพลของ Garage Rock ยุค 60 กับเสียงที่ดูเจ้าเล่ห์ ไปจนถึงเนื้อเพลงก็ยังเข้ากันได้อย่างดี มันเต็มไปด้วยความหมกมุ่นและการแก้แค้นมากๆ
Cry Baby Cry โดย Unloved
Cry Baby Cry เป็นเพลงที่ใช้บ่อยมากในซีรีส์เรื่องนี้ และอย่างในซีซั่น 2 ที่มีการใช้เพลงนี้อีกครั้งในฉากที่อีฟและวิลลาแนลล์พบกันในห้องครัวของอีฟ แคทเธอรีนและเดวิดบอกว่า “เพลงนี้ทำงานเหมือนธีมความรักที่บิดเบี้ยว ซึ่งทำให้เราคาดเดาว่าอีฟตั้งใจที่หลอกวิลลาแนลล์ด้วย”
Listen To Your Heart โดย Roxette
แคทเธอรีนและเดวิดบอกว่านี่ถือเป็นจุดที่สนุกในการค้นหาเพลงให้กับซีรีส์ Killing Eve “เราต้องการเพลงรักที่เป็นมิตรกับวิทยุ FM แล้วก็ต้องเป็นเพลงที่วิลลาแนลล์ไม่คุ้นเคย รวมถึงขัดแย้งกับเพลงปกติที่เราได้ฟังกัน เราไม่ต้องการอะไรที่มันมากเกินไป และเพลงคลาสสิกจากยุค 80 มันก็ลงตัวพอดีเลย”
Strange Effect โดย Unloved
แคทเธอรีนบอกว่าเธอชอบเพลงคัฟเวอร์ของ Unloved อย่างเพลง This Strange Effect ของ The Kinks มากๆ
“เดวิดส่งเวอร์ชันของ The Kinks มาให้ฉันเพื่อเป็นไอเดียสำหรับซีรีส์นี้นะ แล้วพอฉันได้อ่านบทแล้วฉันก็รู้เลยว่ามันเป็นเพลงที่สมบูรณ์แบบ แล้วตอนนั้นก็ได้ Raven Violet ที่มักร้องเป็นเสียง Backing track ให้กับ Unloved อยู่แล้ว มาร้องเป็นเสียงหลัก เธอมีน้ำเสียงที่ใสมากๆ ซึ่งเข้ากันกับเพลงได้อย่างลงตัว”
Look What You Made Me Do โดย Jack Leopards & the Dolphin Club
Look What You Made Me Do โดย Jack Leopards & the Dolphin Club เป็นเพลงคัฟเวอร์จากอัลบั้ม reputation ของ Taylor Swift ที่ขับร้องโดยน้องชายของเธอ Austin Swift แล้วตัวของเทย์เลอร์ก็โพสต์คลิปพร้อมแคปชั่นของเวอร์ชั่นคัฟเวอร์นี้ด้วย หลังจากที่เอพิโสดนี้ได้ปล่อยออกมาให้รับชม
Tell Me โดย Johnny Jewel feat. Saoirse Ronan
แคทเธอรีนบอกว่าเพลง Tell Me เป็นเพลงที่เดวิดส่งหา editor ตั้งแต่เริ่มทำงาน และเพลงนี้ถูกวางเอาไว้เป็นเพลงสำหรับฉากสุดท้ายตั้งแต่ต้น มันเวิร์กมากๆ และเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นด้วย เธอยังบอกอีกว่า “ฉันตั้งตารอที่จะได้เห็นฉากจบที่มาพร้อมกับเพลง Tell Me เพราะว่าเราเพิ่งเห็นมันตอนถ่ายทำในฉากเขียว จนกระทั่งได้ดูในทีวี”
Sources:
- https://blog.tunefind.com/2018/03/killing-eve-killer-soundtrack-catherine-grieves-david-holmes/
- https://blog.tunefind.com/2020/06/top-tv-song-look-what-you-made-me-do-by-jack-leopards-the-dolphin-club-killing-eve/
- https://floodmagazine.com/78221/behind-the-music-that-drives-killing-eve/
- https://heavenlyrecordings.com/artist/killing-eve-ost/
- https://pantip.com/topic/35385630
- https://stage.bbcamerica.com/blogs/behind-the-music-of-killing-eve-episode-2–19158
- https://stage.bbcamerica.com/blogs/behind-the-music-of-killing-eve-episode-4–19162
- https://stage.bbcamerica.com/blogs/behind-the-music-of-killing-eve-episode-5–19164
- https://stage.bbcamerica.com/blogs/behind-the-music-of-killing-eve-episode-6–19165
- https://thesoundofvinyl.com/*/Pre-Order-Vinyl/Killing-Eve-Season-One-Original-Series-Soundtrack-Limited-Edition-Clear-Red-Splatter-Vinyl/6B1P0JXN000
- https://www.bbc.com/news/entertainment-arts-45828680
- https://www.bbcamerica.com/blogs/behind-the-music-of-killing-eve-episode-3–1014057
- https://www.esquiresg.com/why-bbc-killing-eve-tv-series-boasts-a-killer-music-soundtrack-thrills-equally-with-plot/
- https://www.gq-magazine.co.uk/culture/article/killing-eve-soundtrack-interview
- https://www.guildofmusicsupervisors.co.uk/killing-eve-season-3-the-music-supervisor-behind-the-soundtrack/
- https://www.huffingtonpost.co.uk/entry/killing-eve-music-david-holmes_uk_5bb369c8e4b0d1ebe0e4e99f
- https://www.musicweek.com/media/read/an-artist-turned-us-down-because-of-the-violence-killing-eve-s-music-supervisor-on-the-hit-show-s-sound/076920
- https://www.musicweek.com/media/read/behind-the-music-of-killing-eve-with-catherine-grieves-and-david-holmes/080026
- https://www.nme.com/blogs/tv-blogs/killing-eve-soundtrack-david-holmes-2587078
- https://www.typeroom.eu/matt-willey-x-killing-eve-a-soundtrack-release-as-good-as-it-looks