Dickinson มอบสคริปต์และอุปกรณ์ต่างๆ ของซีรีส์ให้กับ Emily Dickinson Museum และ Harvard University

| | ,

Dickinson ซีรีส์คอเมดี้จาก Apple TV+ ที่นำเอาเรื่องราวของ Emily Dickinson กวีหญิงของอเมริกา มาเรียงร้อยเล่าเรื่องราวไปพร้อมๆ กับการนำบทกวีมาตีความใหม่ เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น และมีการนำเอาเรื่องราวและปัญหาสังคมที่ในอดีตและปัจจุบันมาล้อกันให้เข้ากับเนื้อเรื่อง ซึ่งซีรีส์ชุดนี้มีทั้งหมด 3 ซีซั่น และซีซั่นที่ 3 เป็นซีซั่นสุดท้ายที่จะฉายวันสุดท้ายในวันที่ 24 ธันวาคม 2021

Marina Parker, the set decorator ของซีรีส์ “Dickinson” ถือ scrapbook ที่รวบรวมข้อมูลงานดีไซน์ของเธอ
Credit: Matt Cosby for The New York Times

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2021 ทางทีมผู้สร้างและทีมงานก็ได้มอบเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ของตกแต่ง อุปกรณ์ประกอบฉากของซีรีส์ ให้กับพิพิธภัณฑ์เอมิลี่ ดิกคินสัน (the Emily Dickinson Museum) ในเมืองแอมเฮิร์สต์ รัฐแมสซาชูเซตส์ และมอบสคริปต์ เอกสารการผลิต การออกแบบเครื่องแต่งกายและฉาก อุปกรณ์ประกอบฉากที่เป็นกระดาษ และรวมไปถึงต้นฉบับต่างๆ ของ Dickinson ที่เป็นลายมือเขียน ให้กับห้องสมุด Houghton แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ก็ตรงกับวันเกิดของ Emily Dickinson ด้วย

Alena Smith ผู้สร้างซีรีส์ชุดนี้ได้บอกกับ The New York Times ว่ามันเป็นของขวัญให้กับเอมิลี่ ดิกคินสัน และยังบอกอีกว่า “ทุกสิ่งที่คุณเห็นในซีรีส์จะต้องสมบูรณ์แบบสำหรับช่วงเวลานั้น ดังนั้นทั้งดนตรีและภาษาจึงเป็นการแสดงความขบถต่อความสมบูรณ์แบบนั้นได้”

The Emily Dickinson Museum

Jane Wald ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เอมิลี่ ดิกคินสัน ได้ไปเยือนกองถ่ายของ Dickinson เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว และคิดว่าเธอจะหยิบของออกมาสักสองสามชิ้น และสุดท้ายก็จบลงด้วยการรับมอบเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ จากซีรีส์ รวมไปถึงรถม้าที่ Death ขับ ก็จะมาจัดตกแต่งอยู่ภายในพื้นที่ผลิตภัณฑ์อีกด้วย ซึ่ง Jane Wald ก็ได้บอกว่า “มันเป็นมรดกอย่างหนึ่งที่ผสมผสานเข้ากับอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการรับรู้ถึงพลังอมตะแห่งกวีนิพนธ์ของเอมิลี่ ดิกคินสัน”

Dickinson Dresses / The Emily Dickinson Museum
Dickinson Dresses / The Emily Dickinson Museum

“ฉันไม่สามารถจินตนาการถึงบทสรุปที่มีความหมายมากกว่าการเดินทางในการสร้างดิกคินสันได้มากไปกว่าการมอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับพิพิธภัณฑ์ดิกคินสัน” Alena Smith ผู้สร้างซีรีส์ชุดนี้กล่าว “มันเป็นจุดจบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรื่องราวที่ฉันอยากจะเล่า และทำให้ฉันรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ผลงานการผลิตของเรานี้จะมีส่วนในมรดกของเอมิลี่ และช่วยพิพิธภัณฑ์ในภารกิจของการอนุรักษ์ทางวิชาการและประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฉันชอบที่ซีรีส์นี้สามารถแนะนำเอมิลี่ให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลกรู้จัก และนั่นจะช่วยทำให้พิพิธภัณฑ์เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้นไปอีก แค่ได้รู้ว่าในอีก 20 ปีที่ผ่านมาแฟนๆ สามารถมาที่พิพิธภัณฑ์และเห็นชิ้นส่วนที่ยั่งยืนของโลกดิกคินสันที่เราสร้างขึ้นนั้นน่าทึ่งมากสำหรับฉัน มันทำให้หัวใจของฉันโลดแล่นเลยล่ะ”

“ทั้งซีรีส์ดิกคินสันและพิพิธภัณฑ์มีเป้าหมายร่วมกันในการเผยแพร่บทกวีอันทรงพลังและการปฏิวัติวงการของเอมิลี่ ดิกคินสัน” Jane Wald กล่าว “และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ซีรีส์ได้เผยแพร่บทกวีมากมาย และของขวัญสุดวิเศษจาก Dickinson, Apple TV+ และ wiip Productions ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานกวีนิพนธ์ของ Dickinson ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ซีรีส์ตั้งแต่แรก และไม่ได้อยู่แค่ที่บ้านของเธอเท่านั้น แต่ยังคงอยู่ทั่วโลกอย่างที่ควรจะเป็น”

ซึ่งของตกแต่ง เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ จะถูกจัดตั้งภายในพื้นที่ Homestead และ The Evergreens และจะเปิดให้บริการอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิปี 2022

จี้รูป Sue Gilbert ของ Austin Dickinson
Credit: Matt Cosby for The New York Times
Credit: Matt Cosby for The New York Times

Houghton Library, Harvard University

Christine Jacobson ผู้ช่วยภัณฑารักษ์หนังสือและต้นฉบับสมัยใหม่ของ Houghton Library ได้บอกว่า “ใครๆ ก็สามารถชมซีรีส์ Dickinson ได้ เพื่อดูหลักฐานการสะท้อนวัฒนธรรมที่ยืนยงของดิกสินสันได้ แต่ถ้าหากต้องการที่จะรู้ว่าผู้สร้างคิดอะไรอยู่ กระบวนการทำงานของพวกเขาคืออะไร อะไรส่งผลและเป็นอิทธิพลให้กับพวกเขา คุณต้องมาที่ห้องสมุด”

ซึ่งนี่คือเป็นครั้งแรกที่ได้รับมอบเอกสารจากรายการโทรทัศน์เข้าห้องสมุด ไม่ว่าจะเป็นเอกสารต่างๆ งานรวบรวมภาพตัดปะอย่าง tone books หรือจะเป็นหนังสือ illustrating สำหรับการสร้างแอนิเมชั่นยุควิตอเรียน เป็นต้น รวมไปถึงกระดาษงานเขียนต่างๆ ตลอดชีวิตของเอมิลี่ด้วยลายมือของเธอ

นอกจากนี้แล้วยังรวมไปถึงหนังสือพิมพ์ในสมัยศตวรรษที่ 19 (ที่มาพร้อมกับรอยเปื้อนหมึก) เช่น Springfield Republican ที่เอมิลี่ตีพิมพ์บทกวี “A Narrow Fellow in the Grass” ในปี 1866 สำเนา The Constellation ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ผู้นิยมลัทธิการล้มเลิกการเลิกทาส (อ้างอิงจากบทความของเฟรเดอริค ดักลาสเรื่อง The North Star) ที่เฮนรี่แอบตีพิมพ์ในโรงนาของพวกเขา

The Harvard donation includes reproductions of 19th-century newspapers, like the Springfield Republican, where Dickinson published “A Narrow Fellow in the Grass” in 1866.
Credit: Matt Cosby for The New York Times

ที่สำคัญเลยก็คือ การผลิตสำเนาต้นฉบับของเอมิลี่ ดิกคินสัน ขึ้นมาใหม่สำหรับซีรีส์ชุดนี้ ที่รวมไปถึงหนังสือที่เย็บด้วยมือหลายสิบชุดที่ Lavinia Dickinson น้องสาวของเธอ ถูกค้นพบหลังการตายของเธอ อาจจะทำให้ไฟในหัวใจของนักวิชาการหลายๆ คนลุกโชนอีกครั้ง

Deidre Lynch ศาสตราจารย์วิชาวรรณคดีแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้บอกว่า “งานเขียนบนกระดาษของเอมิลี่ ดิกคินสัน นั้นจางมากๆ จนแทบจะมองไม่เห็นเลย และเมื่อเอกสารเหล่านั้นมาถึงที่ห้องสมุด Houghton มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ ที่ได้เข้าไปในห้องนั้น และเห็นเอกสารต่างๆ ของซีรีส์วางอยู่บนโต๊ะ ทั้งในรูปแบบสามมิติและขนาดจริงๆ” เธอยังบอกอีกด้วยว่า “ซีรีส์เรื่องนี้เอาใจใส่อย่างดีเยี่ยมกับหลายรูปแบบงานเขียนที่สามารถพบได้ในศตวรรษที่ 19”

Dickinson also embedded poems within letters, including those written to her sister-in-law, Sue.
Credit: Matt Cosby for The New York Times
Some scholars have argued that Dickinson and Sue, who lived in adjoining houses, were lovers, an idea the show explores.
Credit: Matt Cosby for The New York Times

แต่เดิมแล้ว Alena Smith เป็นนักเขียนบทละครเวที เธอบอกว่าไอเดียในการสร้างซีรีส์ Dickinson เกิดขึ้นในหัวของเธอเมื่อปี 2015 ที่เธอได้เข้าไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ และได้ยืนอยู่ในห้องนอนของลาวิเนีย น้องสาวของเอมิลี่ “ฉันแค่รู้สึกถึงจิตวิญญาณบางอย่าง และฉันก็สามารถเข้าถึงโทนที่ต้องการของซีรีส์ชุดนี้ได้เลย”

เธอยังบอกอีกด้วยว่า ซีรีส์ชุดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าหาก Harvard และ Amherst College ไม่ได้ร่วมมือกันในปี 2013 เพื่อสร้าง Emily Dickinson Archive ออนไลน์ ที่ทำให้ได้ภาพความสะเอียดสูงของต้นฉบับของเอมิลี่ ดิกคินสัน ที่สามารถทุกคนสามารถอ่านฟรีได้ทุกที่ ทุกเวลา

งานสเก็ตและตัวอย่างผ้าโดย costume designer ของซีรีส์ Jennifer Moeller
Credit: Matt Cosby for The New York Times
Tone books from the show illustrate its mix of period and contemporary influences.
Credit: Matt Cosby for The New York Times

คุณสามารถรับชม Dickinson ได้ทาง Apple TV+

sources:

  • https://www.emilydickinsonmuseum.org/press-release-dickinson-gift-appletv/
  • https://www.nytimes.com/2021/12/10/arts/television/emily-dickinson-archive-harvard.html
Previous

พอดแคสต์ Be Witches, Bitches: EP.2 Get To Know Raelle Collar & Scylla Ramshorn

ต้อนรับเทศกาล Christmas ด้วยเพลงคริสต์มาสใหม่ ประจำปี 2021

Next