*บทความนี้มีเนื้อหาสปอยล์ภาพยนตร์ Black Widow*
ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่รับชมภาพยนตร์ Black Widow แล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าหลังจากที่คุณอ่านบทความนี้ คุณจะรู้สึกรักตัวละครและเหล่า Widow Family มากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนอกจากเราจะได้สอดส่องเรื่องราวที่ไม่เคยรู้ของ Natasha Romanoff แล้ว คุณยังจะได้พบกับเหล่าครอบครัวที่คุณไม่เคยเจอ ไม่ว่าจะเป็น Yelena Belova, Melina Vostokoff และ Alexei Shostakov นั่นเอง
Mood & Tone ของ Black Widow
“โทนของหนังมาพร้อมกับตัวละคร” Cate Shortland กล่าว “ตัวละครที่มาพร้อมความสวยงามและแสงเงาในตัวของเธอและเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจ เราเริ่มต้นกันด้วยความที่เธอรู้สึกกังวล กังวลเกี่ยวกับโอกาสของเธอ เธอรู้เกี่ยวกับคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ แต่เธอไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองเลย มันก็เลยสวยงามมากๆ ที่ได้เริ่มต้นขื้นมากับโมเมนต์ที่เธอต้องอยู่คนเดียว และได้แนะนำไปพร้อมๆ กับตัวละครอื่นๆ ซึ่งตัวละครเหล่านั้นก็ได้เปิดเผยสู่โลกใบนี้ และในตอนจบมันก็เป็นเรื่องราวที่สวยงามเช่นกันที่เกี่ยวกับกลุ่มหรือครอบครัว ที่มันเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะว่าฉันคิดว่าผู้กำกับทั้งหลายต่างรักที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงที่ยอดเยี่ยม”
อะไรที่ทำให้เรเชล ไวซ์ เข้ามาร่วมทีม MCU
“เพราะสคริปต์ทั้งหมดที่ฉันคิดว่ามันน่าประทับใจและรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้ร่วมจอยในครอบครัวนี้ มันให้ความรู้สึกที่เป็นครอบครัวมากๆ เพราะมันเป็นการทำงานที่ใหญ่มากๆ และอันที่จริง เคท ชอร์ทแลนด์ ผู้กำกับ ก็เป็นคนที่ฉันอยากร่วมงานมานานมากๆ ในหลายๆ ปี
“และสำหรับเมลิน่า เธอเป็นคนที่ไม่เหมือนใคร เป็นทั้งแบล็กวิโดว์ เป็นสปาย และเป็นนักวิทยาศาสตร์ เธอไม่เหมือนใครมากๆ สำหรับฉัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความที่เธอขาดอารมณ์ขัน เรื่องหมูของเธอ และเรื่องอื่นๆ อีกมาก ซึ่งฉันไม่ค่อยได้รับบทอะไรแบบนั้นเท่าไหร่ นั่นก็เลยทำให้บทบาทนี้มันน่าท้าทาย และฉันอยากที่จะเล่น”
“หมู” ตัวละครสำคัญที่ขาดไม่ได้
เคท ชอร์ทแลนด์ บอกว่าหมูในเรื่องนี้เป็นหมูพันธุ์นิวซีแลนด์ ที่มีขนเยอะๆ มีหางน่ารักๆ แล้วฟลอเรนซ์ก็บอกว่า หัวนมมันเหมือน chocolate hole เลย ตัวของเคทก็เสริมต่อว่า “พวกเรารักหมูเหล่านั้น เรารักพวกมันเหมือนกับว่ามันเป็นครอบครัวของพวกเรา”
เรเชล ไวซ์ ให้เครื่องประดับกับผู้กำกับ เป็นหนึ่งในประโยคจากซีนหมู ‘Make stiffy with tail’
เรเชลบอกว่า มันอาจจะไม่ค่อย PG แต่ว่าเธอชอบมาก “ฉันไม่เคยแสดงร่วมกับสัตว์มาก่อน มันน่าประทับใจมากๆ” เธอยังบอกอีกด้วยว่าไม่คิดว่าจะได้มาเล่าเรื่องราวของหมูและการตั้งชื่อหมูตามคนรักของเธอเมื่อ 25 ปีก่อนว่าอเล็กซี่ แล้วก็เอามาอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อน
Family Dinner Scene
ฟลอเรนซ์บอกว่าฉากนั้นพวกเธอคุยกันมานานมากๆ มันเป็นความที่แบบแม่ก็ดุพี่สาว พี่สาวก็ไม่พอใจ แล้วพ่อก็พูดนั่นนี่ มันเหมือนกับเป็นครอบครัวจริงๆ เลย แล้วเธอก็ยังบอกอีกด้วยว่าซีนนั้นมันเต็มไปด้วยการด้นสด
เคท ผู้กำกับบอกว่า ฉากกินข้าวเย็นกับครอบครัวเป็นไอเดียของเควิน “ตอนที่ฉันเริ่มร่วมงานกับมาร์เวล สคริปต์มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน แต่สำหรับซีนนั้น เขาอยากได้มันมาตั้งแต่ต้นเลย มันก็เลยอยู่ตรงนั้นมาตลอด ฉันคิดว่าเราเข้าใจมัน แล้วเราก็เข้าใกล้มันด้วย และฉันคิดว่า มันเหมือนกับที่เดวิดบอกก่อนหน้านี้ที่ว่ามันเหมือนจะเป็นต้นแบบ และมันสนุกมาก”
สการ์เล็ต บอกว่ามันเป็นไอเดียของไฟกีที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเอากลุ่มคนพวกนั้นมาอยู่ด้วยกันในไดนามิกนั้น แต่เควินก็ทำให้มันเวิร์ก คือต่อให้มันดูไม่เมคเซนส์ แต่มันทำออกมาแล้วเวิร์กมาก เธอบอกอีกด้วยว่าเธอใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจ
เดวิดบอกอีกด้วยว่า ของที่อยู่ในซีนมื้อเย็นมันเป็นของของพวกเขาด้วย มันเป็นสิ่งที่พวกเขาทำกันก่อน pre-production มันเป็นอะไรที่ลึกซึ้งสำหรับพวกเขามาก และเขายังบอกอีกด้วยว่า “เคทอนุญาตให้พวกเขาใช้เวลาสัปดาห์หนึ่งในการสร้างมันขึ้นมา” อย่างของที่เดวิดบอกก็จะเป็นเพลงของอเล็กซี่และเยเลน่า ที่เวลาลูกสาวของเขาจะต้องเผชิญกับอะไรสักอย่างหนึ่ง เขาก็จะจับลูกนั่งในรถ เปิดเพลง แล้วก็พาขับไปทั่วๆ เมือง เขาเสริมต่อด้วยว่า “มันก็เลยกลายเป็นสิ่งเล็กๆ ที่มีความหมาย และมันเป็นส่วนตัวมากๆ และมันก็เป็นสิ่งที่เคทสนใจด้วยเหมือนกัน” เขายังบอกด้วยว่าเขาไม่เคยเจอผู้กำกับที่ผลักดันเขาในทางที่ดีได้มากขนาดที่เคททำ และแม้ว่าบางสถานการณ์ที่มันทั้งน่าตลกและมันสนุก เธอก็จะผลักดันมัน แล้วก็ส่งเสียงสะท้อนกลับมา
เคทบอกว่า “จากเหล่านักแสดงทั้งหมด ฉันจำได้ว่าเรเชลเป็นคนที่มาก่อนเวลามากๆ แล้วก็มานั่งอยู่กับฉันในออฟฟิศ กับ Brian Chapek (co-producer) แล้วก็มานั่งอ่านสคริปต์ พร้อมกับพูดคุยเกี่ยวกับตัวละครของเธอ ทั้งเพิ่มทั้งเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ที่สการ์เล็ตและฟลอเรนซ์จะทำ และเราเปิดรับกับมันนะ ถ้าเรายังคงเก็บหัวมใจสำคัญของซีนนั้นเอาไว้ และนักแสดงจะทำให้มันสวยงามมากยิ่งขึ้น ทำให้มันดูเรียลมากยิ่งขึ้น และฉันคิดว่า มันเป็นขั้นตอนที่ดีมากๆ เพราะว่านักเขียนของเราก้อยู่ด้วยตอนนั้น
ส่วนเรเชลบอกว่าเธอไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้อย่างที่เคทได้อธิบายมาเลย “ฉันไม่เคยได้แสดงในหนังที่ไบรอั้นเขียนมาก่อนเลย แต่เขาก็เปิดรับทุกๆ ไอเดียของเรา และบางไอเดียก็ได้เข้าไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว เป็นส่วนหนึ่งของตัวละคร แล้วฉันก็เซอร์ไพร์สมากๆ”
เควินยังแอบบอกด้วยว่า เดวิดบอกว่าอยากที่จะร้องเพลงร่วมกับฟลอเรนซ์ในซีนนั้น แล้วคุณก็สามารถตัดมันออกได้ตลอดเลยนะ และมันก็เจ๋งมาก มันเป็นไฮไลต์ของหนังเลยในตอนนี้เลยล่ะ
เคทก็เลยบอกว่า นี่แหละที่ทำให้มันสนุก มันเต็มไปด้วยไอเดีย แล้วนักแสดงก็สามารถอินโพรไวส์ในมุมที่แตกต่างกันออกไป มันก็เลยกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้สนุกมากๆ ในหนังเรื่องนี้
สการ์เล็ตในฐานะนักแสดงและ Executive Producer ของ Black Widow
“มันเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมากในหลายๆ มุม จากหนังทุกเรื่องที่ฉันแสดงกับมาร์เวล” เธอยังบอกอีกด้วยว่า “เควิน ไฟกี เป็นเหมือนกับ cinephile movie buff, movie nerd และนั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่มีผู้กำกับเจ๋งๆ หลายคนอยู่ในมือของเขาที่จะมาร่วมงานกับสตูดิโอ” เธอยังเสริมด้วยว่ามันไม่เหมือนกับที่เคยทำมาก่อน เวลาอยู่ในกอง และต้องทำงานในแต่ละวันร่วมกับผู้กำกับที่สุดเจ๋ง และสำหรับเคท สการ์เล็ตบอกว่า “เธอเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมาก เธอมีเส้นทางที่ชัดเจนและเป็นคนที่มีเทสต์ที่แบบไร้ที่ติ เธอคูลมากๆ และมีมุมมองที่น่ามหัศจรรย์ เธอกำกับนักแสดงได้อย่าง actor’s director”
เคทบอกว่า “ฉันคิดว่ามันดูฉลาดนะ เพราะเวลาที่คุณเหนื่อย คุณก็แค่บอกกับนักแสดงว่า คุณคิดอะไรอยู่ คุณก็ทำมันได้เลย” เธอยังบอกอีกด้วยว่า มันสนุกมากๆ “ฉันมีร้องไห้ด้วยนะ บางครั้งน่ะ แล้วก็ร้องไห้ระหว่างที่พวกเขาแสดงและดึงเอาความรู้สึกเหล่านั้น ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม มันคือความยินดีมากๆ ที่ได้รวมงานกับพวกเขาเหล่านี้”
ถึงแม้ว่า Brad และ Brian จะเป็นโปรดิวเซอร์และกำลังมองหาผู้กำกับอยู่ เควินบอกว่าสการ์เล็ตเป็นคนเสนอชื่อของ Cate Shortland ขึ้นมา โดยหยิบเอาผลงานของเธอขึ้นมาให้ดู เขายังบอกต่อด้วยว่าตอนนั้นเหมือนกับว่าเคทจะไม่ว่าง แต่มันเป็นเพราะสการ์เล็ตที่ผลักดันให้เคทอยู่ในเรดาร์ที่พวกเขากำลังมองหา พวกเขาก็เลยหยิบเอามาพิจารณากัน
ส่วนสการ์เล็ตก็บอกว่า เธอไม่รู้เลยว่าใครเป็นตัวแทนของเคท เควินก็ถามสการ์เล็ตตอนนั้นด้วยว่า เธอยังไม่ติดต่อกลับมาอีกเหรอ สการ์เล็ตบอกว่ามันใช้เวลาเป็นปีเลยนะ แล้วเธอก็คิดกับตัวเองด้วยว่า สรุปแล้วเคทมีตัวตนจริงๆ ใช่มั้ย แล้วอาชีพของเธอล่ะ เธอควรที่จะต้องอยู่สักที่หนึ่ง
ส่วนเคทก็บอกว่าเธอคิดว่าตัวเองน่าจะทำไม่ได้ เธอบอกว่า “ฉันกลัวมากตอนที่มาร์เวลติดต่อมาหาฉัน ฉันคิดว่าตัวเองไม่สามารถที่จะทำงานนี้ได้ ฉันคิดว่าไม่น่าจะถ่ายหนัง ไม่สิ หนังมันไม่ใช่งาน มันคือชีวิตของคุณ เวลาที่คุณหยิบเอาบางสิ่งขึ้นมาเหมือนแบบนี้ แล้วคือมันเจ๋งมากเลยนะ มันถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับฉันที่ได้ก้าวออกมาจากความกลัว และได้ทำหนังเรื่องนี้ และฉันขอบคุณมากๆ”
คุณสามารถรับชม Black Widow ได้ทาง Disney+ Hotstar วันที่ 6 ตุลาคม 2021
source:
- https://ew.com/movies/black-widow-around-the-table-interview/