สการ์เล็ต โจแฮนส์สัน ยื่นฟ้อง Disney หลังจากปล่อย Black Widow ทาง Disney+ พร้อมกับฉายในโรงหนัง

| |

หลังจากที่ Disney ตัดสินใจปล่อย Black Widow ภาพยนตร์เรื่องใหม่จากค่าย Marvel บน Disney+ ไปพร้อมๆ กับการฉายในโรงภาพยนตร์ ทำให้สการ์เล็ต โจแฮนส์สัน นักแสดงนำและ Executive Producer ของภาพยนตร์เรื่องนี้ตัดสินใจยื่นฟ้องทางดิสนีย์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ศาลสูงลอสแองเจลิส โดยกล่าวหาว่าสัญญาของเธอถูกละเมิดเมื่อดิสนีย์เปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้บนบริการสตรีมมิ่ง Disney+ พร้อมๆ กับการฉายในโรงภาพยนตร์

Natasha Romanoff (สการ์เล็ต โจแฮนส์สัน) in Marvel Studios’ BLACK WIDOW
Natasha Romanoff (Scarlett Johansson) in Marvel Studios’ BLACK WIDOW

สการ์เล็ต โจแฮนส์สัน ยื่นฟ้อง Disney

โดยในคำฟ้องบอกว่า “ดิสนีย์จงใจให้ Marvel กระทำการละเมิดข้อตกลง โดยปราศจากเหตุผลที่เพียงพอ เพื่อไม่ให้คุณโจแฮนส์สันได้ตระหนักถึงผลประโยชน์เต็มที่ที่ควรจะได้รับจากการต่อรองกับ Marvel” ซึ่งค่าตอบแทนของสการ์เล็ตส่วนใหญ่จะอยู่กับรายได้ที่ได้จากการฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น โดยที่ตัวแทนของเธอพยายามเจรจากับ Disney ใหม่ หลังจากที่รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในรูปแบบ Premier Access บน Disney+ ในวันเดียวกันกับที่ฉายในโรงภาพยนตร์ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ จากทาง Disney และ Marvel

ดิสนีย์ประกาศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่าภาพยนตร์ Black Widow จะฉายพร้อมกันทั้งในโรงภาพยนตร์และบนบริการสตรีมมิ่ง Disney+ Premier Access ที่จะต้องสมัครสมาชิกเพิ่มในราคา 29.99 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับชมนั่นเอง ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในโรงภาพยนตร์หลังจากที่อุตสาหกรรมโรงหนังฟื้นตัวจากการงดฉายหนังเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย ก็สร้างสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศด้วยการเปิดตัวไปได้ถึง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอเมริกาเหนือ และ 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐในต่างประเทศ รวมไปถึงยอด 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการฉายบน Disney+ อีกด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ยอดขายตั๋วลดลงเป็นอย่างมากในสัปดาห์ต่อมา และทำให้ตอนนี้ Black Widow อาจจะกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ของมาร์เวลที่ทำรายได้ต่ำที่สุดตลอดกาล

The Wall Street Journal ผู้เปิดเผยรายละเอียดข่าวคดีความนี้ ในรายงานก็ได้อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับสการ์เล็ต โจแฮนส์สัน ว่าการตัดสินใจฉายภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกันทั้งในโรงหนังและบนสตรีมมิ่ง ทำให้เธอสูญเสียโบนัสไปถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 1,600 ล้านบาท) นอกจากนี้แล้วทีมกฎหมายของสการ์เล็ตก็ได้เปิดเผยอีเมลที่ตอบโต้กับ David Galluzzi หัวหน้าที่ปรึกษาของมาร์เวลที่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ตามแบบแผนที่เคยตกลงมา และทางทีมกฎหมายก็ได้บอกว่า “เราเข้าใจว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงแผนการฉาย เราจะต้องหารือเรื่องนี้กับคุณ และทำความเข้าใจกับข้อตกลงนี้ใหม่ เนื่องจากข้อตกลงนี้อิงตามโบนัสบ็อกซ์ออฟฟิศชุดใหญ่มาก”

โฆษกของ Disney ออกมาพูดหลังการยื่นฟ้อง

แต่สำหรับทางด้านของโฆษกดิสนีย์ก็ได้ออกมาบอกหลังจากที่ทีมทนายความของสการ์เล็ตยื่นฟ้องว่า “การยื่นฟ้องนี้ไม่ทำให้เกิดผลดีใดๆ เลย มีแต่จะนำมาซึ่งความเศร้าและความวิตกกังวลในการเพิกเฉยต่อผลกระทบที่ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดที่น่ากลัวและยาวนานของโควิด-19” ซึ่งทางดิสนีย์ก็ได้บอกด้วยว่าทางบริษัทได้ปฏิบัติตามสัญญาอย่างเต็มที่ และการที่ฉาย Black Widow ลงบน Disney+ ด้วยระบบ Premier Access ก็ทำให้สการ์เล็ตได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติมจาก 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เธอเคยได้รับไปด้วย

แต่ทางดิสนีย์ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงใหม่กับสการ์เล็ต โจแฮนส์สัน เพื่อที่เธอจะได้ส่วนแบ่งจากรายได้การเช่าผ่านสตรีมมิ่งนั่นเอง

Scarlett Johansson - Black Widow
Natasha Romanoff (Scarlett Johansson) in Marvel Studios’ BLACK WIDOW

ทาง John Berlinski ทนายของสการ์เล็ต ก็ได้กล่าวกับ Variety เกี่ยวกับคดีนี้ด้วยว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ Disney จะปล่อยภาพยนตร์ Black Widow ทาง Disney+ โดยตรง เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิก และนั่นก็ทำให้ราคาหุ้นของดิสนีย์เพิ่มขึ้นด้วย และนั่นก็เป็นหนึ่งในข้ออ้างช่วงหลังโควิด-19 ที่จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมานั่นเอง เขายังบอกอีกด้วยว่า “แต่การเพิกเฉยต่อสัญญาของศิลปินที่รับผิดชอบต่อความสำเร็จของภาพยนตร์ ในการส่งเสริมกลยุทธ์ที่ไม่มองการณ์ไกลนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของพวกเขา และเราหวังว่าจะได้รับการพิสูจน์ในชั้นศาล นี่จะไม่ใช่กรณีสุดท้ายที่เหล่านักแสดงฮอลลีวูดจะยืนหยัดต่อหน้าดิสนีย์อย่างแน่นอน และทำให้ชัดเจนว่าบริษัทจะไม่แสร้งทำเป็นว่าตามสัญญา แต่บริษัทมีภาระผูกพันทางกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาด้วย”

นี่อาจจะไม่ใช่คดีความแรกที่ทางนักแสดงยื่นฟ้องเกี่ยวกับสัญญาของพวกเขา เพราะเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Warner Bros. ที่เปลี่ยนช่องทางในการฉายจากโรงภาพยนตร์มายังช่องทางสตรีมมิ่งอย่าง HBO Max แทน ทำให้สตูดิโอต้องจ่ายเงินหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับนักแสดงหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็น Denzel Washington หรือแม้กระทั่ง Keanu Reeves ก็ตาม

ล่าสุด Matthew Belloni อดีตบรรณาธิการของ The Hollywood Reporter ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นของสการ์เล็ตและดิสนีย์ พร้อมกับอ้างว่า เควิน ไฟกี ประธานของมาร์เวล สตูดิโอส์ ไม่พอใจกับการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งในโรงภาพยนตร์และทาง Disney+ “ผมบอกได้ว่าเขาโกรธและอับอายมาก เขาโน้มน้าวดิสนีย์ไม่ให้ฉาย Black Widow ทั้งแบบโรงภาพยนตร์และสตรีมมิ่งพร้อมกัน โดยอยากให้ฉายทางจอภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว และไม่อยากให้คนของเขาผิดหวัง” เขายังบอกด้วยอีกว่า เควินอยากให้ Disney ชดเชยให้สำหรับสการ์เล็ต ทางฟากของดิสนีย์ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในส่วนนี้

แต่หลังจากนี้ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าทางสการ์เล็ตและดิสนีย์จะมีทางออกกันอย่างไรกับเรื่องนี้

Source:

  • https://comicbook.com/marvel/news/marvel-studios-kevin-feige-report-disney-black-widow-release/
  • https://deadline.com/2021/07/scarlett-johansson-walt-disney-co-black-widow-lawsuit-1234802440/
  • https://variety.com/2021/film/news/disney-scarlett-johansson-black-widow-lawsuit-response-pandemic-1235030837/
  • https://variety.com/2021/film/news/scarlett-johansson-sues-disney-black-widow-1235030582/
  • https://www.wsj.com/articles/scarlett-johansson-sues-disney-over-black-widow-streaming-release-11627579278
Previous

Doctor Who ซีซั่น 13 วางแผนฉายปลายปี 2021

ประธาน CAA ออกโรงปกป้องสการ์เล็ตที่ยื่นฟ้องดิสนีย์

Next