กว่าจะถึงฤดูรัก Happiest Season

“เงื่อนไขชีวิตคนเราแตกต่างกัน การที่ฮาร์เปอร์ไม่พร้อม ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ได้รักเธอ”

Happiest Season ไม่มีฤดูไหนไม่รักเธอ

• เรื่องและกำกับโดย Clea Duvall
• เขียนบทโดย Clea DuVall และ Mary Holland
• กำกับภาพโดย John Guleserian
• นำแสดงโดย Kristen Stewart, Mackenzie Davis, Alison Brie, Aubrey Plaza, Daniel Levy, Mary Holland, Victor Garber, Mary Steenburgen
• ออกแบบงานสร้างโดย Theresa Guleserian
• ตัดต่อโดย Melissa Bretherton
• เพลงประกอบโดย Amie Doherty

Happiest Season ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่เป็นเรื่องราวของแอ๊บบี้และฮาร์เปอร์คู่รัก ที่ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปงานคริสต์มาสที่บ้านของฮาร์เปอร์ แอ๊บบี้ก็เตรียมตัวที่จะไปขอฮาร์เปอร์แต่งงาน แต่เรื่องราวกลับตาลปัตร เพราะว่าฮาร์เปอร์ยังไม่ได้บอกกับครอบครัวของเธอว่าเธอเป็นเกย์ และทั้งคู่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในบ้านของฮาร์เปอร์ในฐานะเพื่อน

ตัวผู้กำกับอย่าง Clea DuVall ก็บอกว่าเธอต้องการที่จะสร้างภาพยนตร์ที่บอกเล่าประสบการณ์ของเธอ “สิ่งที่ฉันต้องการจากหนังเทศกาลก็คือหนังที่สามารถแสดงออกถึงประสบการณ์ของฉัน เพราะงั้น ฉันก็เลยสร้างมันขึ้นมา” Clea DuVall บอกผ่านทวิตเตอร์ของเธอในวันเดียวกันกับที่ปล่อยภาพแรกของภาพยนตร์ Happiest Season เธอยังย้ำอีกด้วยว่า “นั่นทำให้ฉันรู้ว่าฉันอยากจะทำอะไรเมื่อได้เล่าเรื่องราวของตัวเอง”

กว่าจะถึงฤดูรัก

ในการร่วมงานกับ Clea DuVall ทั้งตัวของ Kristen Stewart และ Mackenzie Davis ในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น ถือเป็นสิ่งที่เข้าคู่กันอย่างมาก ภายในกองถ่ายก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น และผู้กำกับเองก็ยืนยันว่าเคมีของตัวนักแสดงทั้งคู่นั้น มีมาตั้งแต่เริ่มต้น ในครั้งแรกที่ได้พบกัน บางครั้งก็เหมือนกับว่าพูดคุยและต่อคำแทนกันได้แล้ว และไม่สามารถปฏิเสธเคมีของคู่นี้ได้เลย “ฉันรู้สึกประหม่ามากๆ และพวกเขาก็ไม่เคยได้พบกันมาก่อนด้วย ฉันยังคำได้ว่าคืนแรกที่พวกเขาพบกันและกันนั้นเป็นตอนที่พวกเราออกไปทานมื้อเย็นกัน แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนกำลังไปนัดบอดที่ฉันจัดขึ้นมา ซึ่งทั้งคู่จะต้องแต่งงานกัน และฉันรู้ดี”

สำหรับตัวของ Mackenzie Davis ผู้รับบทฮาร์เปอร์ ก็ได้บอกกับ Flaunt Magazine ว่าในตอนแรกเธอไม่รู้จัก Clea DuVall เลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเพื่อนของเธอเป็นเพื่อนของผู้กำกับ ก็เลยนำมาบอกเธอ “ฉันได้ยินบางสิ่งที่น่ามหัศจรรย์เกี่ยวกับเธอนะ แล้วนั่นก็เลยทำให้ฉันอยากร่วมงานกับเธอ บังคับให้เธอมาเป็นเพื่อนของฉันด้วยเลย … เธอเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมาก เธอทำให้เราอยู่ในหนังเรื่องนี้ได้”

Mackenzie Davis บอกว่า “มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่รักกัน และมีอุปสรรคที่พวกเขาจะต้องเอาชนะให้ได้ และนั่นคือเรื่องเพศของพวกเขา มันมีหลายสิ่งที่ทำให้เรารู้ได้ว่า พวกเขาเป็นเลสเบี้ยน มันมีเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักเกย์และเลสเบี้ยน หรือคนชายขอบที่มันน่าเศร้า หรืออย่างน้อยที่สุดก็มีดราม่ามากมายตามมา มันดีมากที่มันเป็นแบบ ‘จะมีปัญหาเกิดขึ้นนะ แต่ก็จะจบลงด้วยดี'”

สำหรับตัวของ Kristen Stewart แล้ว เธอได้ Clea DuVall เข้ามาช่วยสร้างตัวละครเควียร์อย่างแอ๊บบี้ให้ดูมีมิติมากขึ้น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์กระแสหลัก “ฉันต้องการให้ตัวละครที่ฉันเล่นมีความเฉพาะเจาะจงสุดๆ ถ้าหากคุณเห็นคนประเภทนี้ในภาพยนตร์โฆษณา ที่ปกติแล้วคุณจะไม่ได้เห็นพวกเขาเป็นตัวชูโรง ฉันไม่ได้อยากที่จะให้คนเหล่านี้เป็นเพียงแค่การบันทึกเอาไว้ว่ามีตัวตนเท่านั้น ฉันอยากให้ดูเหมือนว่าเป็นคนที่ตระหนักแล้วก็รู้จักตัวเองเป็นอย่างดี ซึ่งรายละเอียดเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่มารวมกันและทำให้คุณเชื่อสุดใจ” คริสเตนยังบอกอีกด้วยว่า “มันใช้เวลานานหลายปีเลยนะกว่าจะค้นหาจุดสมดุลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับตัวตนของเธอได้ และวิธีการนำเสนอสิ่งนั้นมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดหรือสำหรับคนที่คิดว่าจำเป็น เพราะว่ามันไม่มีความสับสนแล้ว และ Abby ก็มั่นใจในตัวเองจริง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอธิบายให้กับผู้กำกับหรือ costume designer ที่เป็น straight มันเป็นอะไรที่ใช้คำเพียงไม่กี่คำในการถ่ายทอดสิ่งที่จำเป็นจะต้องอธิบายอย่างซับซ้อนให้กับคนที่ไม่มีประสบการณ์แบบเดียวกัน”

สำหรับบทภาพยนตร์ของเรื่องนี้ คริสเตนบอกว่าเธออยากจะสื่อสารประสบการณ์ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน (ในโลกภาพยนตร์) ซึ่งมันคล้ายกับสิ่งที่เธอเคยพบมา ขณะที่เธออ่านสคริปต์ มันก็ทำให้เธอค่อนข้างทริกเกอร์อยู่ไม่น้อย “มันส่งผลกระทบกับฉันอย่างมาก มากกว่าอะไรบนโลกใบนี้เลย แต่ว่าตัวภาพยนตร์มันทั้งตลกและน่ารัก ฉันรักทั้งแอ๊บบี้และฮาร์เปอร์เลยนะ พวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นคู่ที่ฉันอยากจะปกป้องมากๆ เพราะว่าฉันเองก็เคยอยู่ทั้งสองฝั่งมาก่อน แต่ละฝั่งต่างมีช่วงเวลาที่ยากลำบากและซับซ้อนกว่าจะยอมรับว่าตัวเองเป็นใคร และฝ่ายที่กำลังอยู่ในช่วงยอมรับตัวเอง โดยส่วนตัวแล้ว ฉันก้าวมาอยู่ในจุดที่ชีวิตซับซ้อนกว่านั้นนิดหน่อย เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ฉันไม่อยากที่จะทำให้ตัวเองต้องรู้สึกเจ็บปวด เพราะฉันรู้ว่าความเจ็บปวดของคนอื่นนั้นใหญ่ยิ่งกว่า การมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ในฐานะเควียร์ มันเป็นสิ่งที่คอยทำร้ายอยู่ตลอดเวลาเลยนะ แต่ตอนที่ฉันอ่านสคริปต์เรื่องนี้ ฉันก็ไม่คิดว่าสตูดิโอจะทำมันจริงๆ”

ระหว่างการสัมภาษณ์ Clea DuVall ก็ได้ถาม Kristen Stewart ว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดึงเธอเข้ามาในบทบาทนี้รึเปล่า คริสเตนก็บอกว่าใช่ แล้วก็บอกว่า “ครั้งแรกที่ฉันเดตผู้หญิง ฉันก็ถูกถามทันทีว่าฉันเป็นเลสเบี้ยนรึเปล่า มันแบบ ‘พระเจ้า ฉันอายุแค่ 21 เองนะ’ ฉันรู้สึกว่ามันอาจจะมีบางอย่างที่คอยทำร้ายคนที่ฉันเคยอยู่ด้วย ไม่ใช่เพราะว่าฉันรู้สึกอายกับการที่เปิดตัวว่าเป็นเกย์นะ แต่เพราะว่าฉันไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสายตาของสาธารณชน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับโดนขโมยบางอย่างไป แม้ว่าความสัมพันธ์ครั้งก่อนๆ ของฉันจะเป็นความสัมพันธ์แบบคู่ชายหญิงก็เถอะ ทุกๆ อย่างที่เราทำนั้นเราพยายามไม่ทำให้ถูกถ่ายภาพได้มากที่สุด ไม่งั้นมันก็จะไม่ใช่เรื่องราวของเราเลย เพราะงั้นฉันก็เลยคิดว่ามันเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับคนในกลุ่มนี้ กลุ่มที่พยายามจะเปิดเผยเรื่องความเควียร์ มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันเข้าใจเลย ตอนนี้สิ่งที่ฉันสามารถมองเหนได้ก็คือว่าฉันสามารถบอกคุณได้ว่าฉันมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในตอนนั้นฉันจะแบบ ‘ไม่ๆ ฉันสบายดี พ่อแม่ฉันก็โอเค ทุกอย่างเรียบร้อยดีล่ะ’ มันไร้สาระมากๆ มันเป็นเรื่องยาก มันแปลก แล้วมันก็เป็นแบบนั้นสำหรับทุกคน”

ในฐานะ Queer การที่มารับบทเกย์นั้นถือเป็นความคาดหวังที่จะมาเป็นตัวแทนของคอมมูนิตี้นี้มั้ย คริสเตนก็บอกว่า “ฉันน่ะทำเยอะกว่าตอนที่เป็นเด็กเยอะ โดยเฉพาะตอนที่ฉันโดนคาดคั้นว่าตัวเองเป็นอะไร ฉันไม่มีความลับหรอกนะว่าฉันเป็นใคร ฉันไปข้างนอกทุกวันโดยที่รู้ว่าจะโดยถ่ายรูปตอนที่ฉันอ้อนแฟน แต่ฉันก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้นะ มันเป็นความกดดันมากๆ แต่ว่าไม่ใช่ความกดดันจากกลุ่มคอมมูนิตี้นี้เลย ผู้คนต่างๆ มักจะได้เห็นรูปภาพแล้วก็อ่านบทความพวกนั้น พวกเขามักแบบ ‘ฉันอยากที่จะแสดงให้เห็น’ ตอนฉันยังเด็ก ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังถูกดูถูกอยู่นะ แต่ตอนนี้ฉันกลับรักความคิดที่ว่าฉันสามารถทำอะไรก็ได้ในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ”

คริสเตนบอกว่า “ฉันไม่อยากถูกเรียกว่า ‘lesbo‘ และฉันก็ไม่ได้ต้องการให้เรียกว่า ‘dykey’ girl มันแย่นะ มันน่ากลัว แต่ฉันมักติดใจกับความแปลก และความเป็นอื่นๆ ฉันชอบที่จะมีตัวอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไม่ถูกหัวเราะเยาะเย้ยและเป็นประเด็นในการค้นหาตัวเอง มันออกจะยอดเยี่ยมเลยล่ะ”

นอกจากนี้แล้ว แม็กเคนซี่ยังบอกอีกว่า “เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่คำถามเหล่านั้นถูกถามขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำ ฉันตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาเหล่านี้ และการได้รับเชิญนี้ด้วย ฉันถามเคลียตอนที่เธอขอให้ฉันมารับบทนี้ถ้าหากมันทำให้รู้สึกซับซ้อน เพราะว่าฉันไม่ได้มีประสบการณ์นี้ ซึ่งคุณจำเป็นที่จะต้องรู้ เมื่อคุณกำลังใช้พื้นที่ที่คุณควรจะต้องไปหาคนอื่นๆ และเมื่อคุณมีส่วนร่วมกับบางสิ่งที่คุณได้รับเชิญและมีบทบาทในพื้นที่นั้น ฉันชอบเล่าเรื่องราวความรักเกี่ยวกับ queer women หรือแค่ความสัมพันธ์ของผู้หญิงที่สามารถจัดการกับความซับซ้อนทั้งหมดในความสัมพันธ์เหล่านั้นได้ แต่ว่าคุณไม่ได้ทิ้งให้ใครเศร้าเสียใจในตอนท้าย หรือไว้ทุกข์ให้กับชีวิตที่น่ากลัว หรือมีการถูกลงโทษ ฉันคิดว่าผลกระทบมันทำให้เปลี่ยนไป ถูกดันให้ไปในทางบวก และเป็นมาตรฐานที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์แบบที่ว่าไม่ได้ให้เราเห็นบทโลกบ่อยครั้ง”

“มันไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่ชาว LGBTQ+ จะรู้สึกรีเลทและเชื่อมต่อไปกับมัน มันคือเรื่องราวที่ฉันคิดว่ามันมีความเห็นอกเห็นใจในตัวละครทุกๆ ตัว เมื่อมีคน come out ออกมา มันไม่จำเป็นจำต้องเป็นแค่การ coming-out ของคนๆ นั้นด้วยซ้ำ มันเป็นเหมือนต้นไม้ มันเป็นกิ่งก้านที่แตกกระจายและกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของผู้คนอื่นๆ ซึ่งมันไม่ใช่มุมมองของฉันจนกระทั่งฉันโตขึ้นมา แต่มันเป็นประสบการณ์ของใครก็ตามที่เคยเผชิญเวลากลับบ้านวันหยุดและพาคนอื่นกลับบ้านด้วย”

สามารถรับชม Happiest Season ได้แล้ววันนี้ที่โรงภาพยนตร์ และทาง Hulu

source:

• https://flaunt.com/content/mackenzie-davis-happiest-season
• https://rollacoaster.tv/products/aubrey-plaza-covers-rollacoaster-magazine-spring-summer-2021
• https://www.advocate.com/exclusives/2020/11/12/how-happiest-seasons-clea-duvall-kristen-stewart-queered-christmas
• https://www.autostraddle.com/happiest-season-set-visit/
• https://www.buzzfeednews.com/article/shannonkeating/kristen-stewart-lesbian-rom-com-hulu-happiest-season
• https://www.instyle.com/celebrity/kristen-stewart-november-2020-cover
• https://www.hungertv.com/editorial/digital-cover-mackenzie-davis/