ใน Killing Eve ซีซั่นสาม เราจะเห็นโอกาสใหญ่ๆ ของวิลลาแนลล์มากมาย โดยเฉพาะในตอนที่ห้า ที่เธอจะต้องเผชิญหน้ากับผีตัวเก่าในอดีตของเธอที่ตามมาหลอกหลอนอยู่ ซึ่งในซีซั่นนี้ ทางทีมงานก็ต้องตัดสินใจแล้วว่าอะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับวิลลาแนลล์ แฟชั่น หรือว่าครอบครัว ในตอนที่ห้านั้น มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับตัววิลลาแนลล์อย่างมาก รวมไปถึงตอนที่เหลือของซีซั่นนี้ด้วย มันทำให้เกิดการตัดสินใจครั้งใหญ่ว่าเธอจะต้องสูญเสียอะไร ระหว่างเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเธอ แฟชั่นต่างๆ หรือเธอจะพยายามทำตัวให้เป็นปกติและทำตัวปกติกับตัวเอง ซึ่งเราจะได้พบกับเรื่องราวพวกนี้
ต้องบอกว่าวิลลาแนลล์เป็นคนที่มีความสามารถมากๆ เธอพูดได้หลายภาษา เป็นคนที่มีเทสต์เรื่องแฟชั่นและสไตล์การแต่งตัวของเธอ แถมยังแต่งตัวสวยพร้อมกับพกอาวุธเพื่อไปฆ่าอีกด้วย ดูเหมือนว่าเธอจะทำได้ทุกอย่างแล้วโดยที่ไม่ผิดซะด้วย นอกจากนี้แล้วความสามารถของวิลลาแนลล์ในเอพนี้ที่ทำให้เห็นก็คือ เธอโยนห่วงเก่งใช่เล่นเลยล่ะ
Home Is “Wear” the Heart Is
Sally Woodward Gentle ในฐานะของ executive producer ของ Killing Eve นั้น เธอบอกกับ EW เอาไว้ว่า “นี่มันเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนโกหกเธอ (Villanelle) ไว้ ตั้งแต่เธอถูกเลือกมาฝึกให้เป็นนักฆ่า หนึ่งสิ่งที่เป็นวิธีควบคุมก็คือการที่บอกว่า ‘มันไม่มีทางเลือกสำหรับคุณ ไม่มีใครรอคุณอยู่ พวกเขาไม่ได้รักคุณตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งพวกเขาตายกันไปหมดแล้ว’
พอคนอย่างวิลลาแนลล์ตระหนักได้ว่ามันเป็นสิ่งที่สามารถใช้ควบคุมคนได้ ทีนี้เธอเองก็ต้องการที่จะเป็นคนควบคุมและใช้พลังอำนาจนั้นทั้งหมด นั่นกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ผลักดันเธอได้จริงๆ แล้วมันก็ส่งผลต่ออัตตาของตัวเองอีกด้วย วิลลาแนลล์ใช้เวลาในการคิดทบทวนว่าเธอเป็นใครแล้วกำหนดตัวเองยังไง นั่นทำให้วิลลาแนลล์เป็นตัวละครที่น่าดึงดูด และมีการคิดวิเคราะห์อย่างมากมาย รวมไปถึงทำให้อารมณ์ต่างๆ นั้นแปรปรวนอีกด้วย”
โจดี้บอกกับ W Magazine บอกว่าเธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องมีเรื่องราวในอดีตของวิลลาแนลล์โผล่มาสักทางหนึ่ง แล้วก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น โดยเฉพาะการพบกับแม่ของเธอ โจดี้คิดว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่มันน่ารัก และหวังว่ามันจะออกมาดี ถือเป็นความชาเลนจ์ของโชว์นี้ที่จะพูดถึงเรื่องราวในอดีตของวิลลาแนลล์เลยก็ว่าได้ แล้วก็ไม่ได้เป็นข้ออ้างในการตัดสินใจของเธอด้วยเหมือนกัน มันน่าสนใจตรงที่ว่าเราจะได้เห็นมุมอ่อนแอของวิลลาแนลล์ ความเป็นมนุษย์ แล้วก็ด้านอารมณ์ของวิลลาแนลล์มากขึ้น มันทำให้เซอร์ไพรส์ด้วย แถมยังโชคดีที่ได้ Shannon Murphy มากำกับเอพนี้ให้ด้วย โจดี้คิดว่าถ้าได้คนอื่นมากำกับเอพนี้ ก็คงจะไม่ได้ออกมาอย่างนี้แน่นอน เพราะว่า Shannon Murphy นั้นยอดเยี่ยมและเอาเอเนอจี้ใหม่ๆ มาด้วย เธอกล้าที่จะเสี่ยงและท้าให้พวกเธอนั้นสนุก โจดี้คิดว่ามันเป็นแรงผลักดันให้กับทุกๆ คนนั้นทำในสิ่งที่แตกต่าง
ในตอนที่วิลลาแนลล์สวมชุดที่มีหัวใจอยู่กลางอกและทำตาร้องไห้นั้น Sam Perry คอสตูมดีไซเนอร์บอกว่า ชุดนี้มันเป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาตอนที่กำลังถ่ายทำกันอยู่ มันไม่ได้อยู่ในสคริปต์เลย แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่โจดี้แล้วก็แชนนอนอยากให้ลองสวมผ้ากันเปื้อนดู ซึ่งทั้งเธอและ Gracie (เด็กฝึกงาน) ก็มาช่วยทำผ้ากันเปื้อนนั้นในนาทีสุดท้าย หยิบเอาสีสัน แพทเทิร์น แล้วก็ซิมโบลิกของวิลลาเแนลล์มาอยู่ในชุดของแม่
การที่วิลลาแนลล์เผชิญหน้ากับแม่นั้นถือเป็นความเปราะบางทางอารมณ์เลยก็ว่าได้ ถ้าถามว่าวิลลาแนลล์จะมีความเสี่ยงมากกว่านี้อีกไหม ก็ต้องบอกว่าเธอฆ่าคนที่บ้านนั้น แต่ก็ช่วยชีวิตปีเตอร์และบอริสเอาไว้ด้วย มันอาจจะเป็นความพยายามของวิลลาแนลล์ แต่ก็ทำให้เห็นว่าเธอยังไม่สามารถทิ้งอดีตนั้นได้ ตอนที่ขึ้นรถไฟกลับ เธอทิ้งความเป็นอ็อกซาน่าไว้ แต่ว่าสวมชุดจุมป์สูทสีฟ้าของแม่
Villanelle
ในขณะที่วิลลาแนลล์ถูกทั้งโลกปฏิเสธ แม้กระทั่งแม่ของตัวเอง แต่อีฟกลับยอมรับ นั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการและโจดี้ก็ยังบอกด้วยว่าเธอคิดว่าวิลลาแนลล์นั้นมีความรู้สึกที่หนักแน่นและต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในบางสิ่ง ซึ่งเราจะไปหาที่ไหนได้นอกจากครอบครัวจริงๆ ของตัวเอง แต่พอไปที่นั่น กลับเชื่อมต่อกันไม่ได้ซะงั้น เธอไม่ได้เข้าใจมันจริงๆ นอกจากนั้นแล้วแม่ของเธอก็ไม่ได้ต้องการเธอด้วย โจดี้บอกว่ามันการเปิดบทสนทนาของความสัมพันธ์ระหว่างวิลลาแนลล์และคอนสแตนติน และสิ่งที่เขายอมรับเธอ และทำไมเขาถึงพาเธอมาร่วมด้วย มันซับซ้อนมากๆ คู่นี้เกี่ยวพันกันและกันสุดๆ
นอกจากนี้แล้ว โจดี้ยังคิดว่าทางเดียวที่วิลลาแนลล์จะรู้จักวิธีการจัดการกับมัน มันเป็นทางเดียวที่เธอจะรู้ได้ว่าเธอจะต้องก้าวจากมันไป เธอเดินทางไปยังรัสเซียกับไอเดียเพื่อที่ว่าจะตัดความเป็นอ็อกซาน่าออกไป และวิลลาแนลล์ที่พร้อมจะตัดความสัมพันธ์กับคนที่สร้างเธอขึ้นมา มันกลายเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดสำหรับเธอว่าเธอไม่สามารถก้าวออกจากความเป็นตัวเองได้ “เราพบกับวิลลาแนลล์ในซีซั่นแรก แต่ฉันพูดเสมอว่า วิลลาแนลล์คือ candy-coated exterior มันเป็นอุดมคติที่สร้างผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา มันคือกลไกการเผชิญหน้ากับปัญหา เธอมีความสุขได้จากเสื้อผ้าที่มีราคาแพง ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แต่ฉันคิดว่าลึกๆ แล้ว เธอต้องการสิ่งที่คนอื่นๆ ต้องการ แต่กับสิ่งที่เธอเป็นนั้น เธอไม่อนุญาตให้ตัวเองเป็นแบบนั้น”
ในตอนท้ายของเอพนี้วิลลาแนลล์ให้เงินปีเตอร์พอที่จะไปดูคอนเสิร์ตของเอลตันได้ โจดี้บอกว่าแม้ว่ามันจะดูเหมือนออกนอกคาแรกเตอร์ของวิลลาแนลล์ แต่โจดี้คิดว่าทุกคนคงคาดหวังให้พวกเขาไปกัน
แม้ว่าในซีซั่นสองที่วิลลาแนลล์อยู่กับเด็กผู้ชายในโรงพยาบาล สุดท้ายก็ไปฆ่าไอ้หนุ่มนั้น พอในซีซั่นสาม วิลลาแนลล์ไม่ได้ฆ่าเด็กปีเตอร์ มันก็น่าสนใจนะ โจดี้บอกว่ามันน่าสนใจเพราะว่าสิ่งที่ค้นพบในซีซั่นแรกนั้น มันไม่ถูกคาดหวังอีกต่อไป นั่นเป็นความจริง เราต้องพยายามฟังสิ่งที่คิดว่ามันถูกต้องแล้วก็ลองไปในเส้นทางที่แตกต่าง พร้อมกับหวังว่าแฟนๆ ที่มาดูนั้นจะได้เห็นมัน
ในตอนจบของเอพนี้ที่วิลลาแนลล์นั่งรถไฟ ฟังเพลงผ่านเฮดโฟนของเธอ โจดี้บอกว่าคำถามที่ว่าวิลลาแนลล์ฟังเพลงอยู่มั้ย ตอนที่พวกเขาตัดต่อกัน แชนนอนไม่แน่ใจว่าจะให้เปิดเพลงดีมั้ย ก็เลยไม่ใส่เพลงไป ตอนที่ถ่ายฉากนั้นบนรถไฟ มันเป็นฉากที่ถ่ายก่อนไปเจอครอบครัว เหมือนกับว่า “โอเค เราจะถ่ายจากจบก่อนที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นนะ เริ่ม!” โจดี้บอกว่าไปถ่ายฉากนั้นเป็นฉากแรกของเอพ 5 ที่สถานีรถไฟร้างในโรมาเนีย ตอนนั้นเปิดเพลง Crocodile Rock ให้ดังออกมาจากสปีกเกอร์ แล้วแชนนอนก็ให้เดินกล้องเลย
โจดี้บอกว่าเธอรักชุดของวิลลาแนลล์ตอนใส่ไปรัสเซียมาก เสื้อโปโลคอสูงสีท้องฟ้า แจ็กเกต short-waisted สีเบจ กับกางเกงลายตารางหมากรุก เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่มันให้ความรู้สึกที่ว่าโคตรจะ androgynous เลย เธอรัก silhouette ของมัน มันมีบางอย่างที่ไม่ได้ทันสมัยมาก ซึ่งโจดี้ก็รู้สึกว่ามันเพอร์เฟคเลยล่ะที่เธอจะไปในเวย์นั้น
Elton John and his music and looks
โจดี้บอกว่ามันเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ ในซีนที่เธอสวมวิกกับแว่นนั้นมันไม่อยู่ในสคริปต์เลย พอเธอไปถึงกอง เข้าไปในห้องของปีเตอร์ (Pyotr) แล้วเป็นครั้งแรกที่เห็นของของเอลตัน จอห์น ในห้องนั้น ทั้งแว่นเอย วิกเอย โจดี้ก็หยิบมันมาสวมแล้วเดินไปหาแชนนอน (ผู้กำกับ) แล้วบอกว่า “มันไม่มีทางเลยที่วิลลาแนลล์จะไม่หยิบมันมาสวม สำหรับผู้หญิงที่แต่งตัวและปลอมตัวอย่างนี้ มันคือสวรรค์เลยล่ะ ไอ้เด็กนั่นมีห้องนี้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็แต่งตัว แน่นอนว่าเราต้องสวมมัน” แล้วพอถ่ายฉากนี้จบ แน่นอนว่ามันดูไร้สาระพอแม่เข้ามาเห็นแล้วก็แพนิกเลย มันน่าประทับใจสุดๆ
แล้วฉากที่ร้อง Crocodile Rock ในห้องครัวนั้นโจดี้บอกว่าเป็นฉากโปรดของเธอเลย แล้วก็เป็นคัทที่ปราดเปรื่องของแชนนอนเลยล่ะ เธอตัดมันเพื่อให้เราได้เห็นวิลลาแนลล์อยู่ในนั้น ร้องเพลงไปพร้อมๆ กับครอบครัว มันยากมากซีนนั้น เราอยากเห็นประสบการณ์ของวิลลาแนลล์กับครอบครัวของเธอ โจดี้บอกว่าเธอรักฉากนั้นมากๆ เพราะว่ามันมาเสน่ห์ แล้วก็ได้เห็นจริงๆ ว่าวิลลาแนลล์คือวิลลาแนลล์ ได้เห็นพวกเขาเต้นรำรอบๆ ห้อง โจดี้คิดว่าวิลลาแนลล์น่าจะคิดว่าครอบครัวเธอโคตรคูลเลย มันเป็นสิ่งที่พวกเขาเป็น แล้วเธอก็รักฉากนี้มากๆ
Jodie Comer Q&A
โจดี้บอกกับ Vanity Fair ว่าตอนที่ 5 เป็นอะไรที่เปลี่ยนหลายต่อหลายรอบ มันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่ได้ค้นหาชีวิตเบื้องหลังของวิลลาแนลล์ มันมีความสำคัญกับเธอมากๆ แล้วก็ทำให้เห็นด้วยว่าทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น
โจดี้บอกว่าเธออยากจะร้องไห้ออกมามากๆ เลย ตอนที่ได้ทำงานร่วมกับ Evgenia Dodina (รับบทเป็นแม่ของวิลลาแนลล์) โจดี้บอกว่ามันให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับเธอมากๆ มันเป็นโชคดีของโจดี้มากๆ Evgenia Dodina นั้นน่าประทับใจสุดๆ พลังของเธอทำให้ฉากนั้นมันทรงพลังมากๆ
เพลงโปรดของเอลตัน จอห์น เพลงไหนที่โจดี้ชอบ โจดี้บอกว่าเพลง Are You Ready For Love เป็นเพลงที่ทำให้เธอแฮปปี้ ตลอดเวลาที่ได้ฟัง อินโทรโคตรดีเลย
W Magazine ก็ถามโจดี้ว่าคิดว่า Sir Elton John จะดู Killing Eve มั้ย โจดี้บอกว่า ‘ไม่รู้สิ แต่มันคงจะเจ๋งเลยนะ เพราะว่าเอพนี้มันเป็นตอนสำหรับเขาเลย’ (บอกเลยว่าเซอร์เอลตันก็ดูเช่นกัน เพราะว่าเขาโพสต์รูปวิลลาแนลล์แต่งแว่นกับวิกเอลตัน จอห์นลงโซเชียลมีเดียของเขาด้วย ทั้งโจดี้ ทั้งน้อง Temirlan Blaev ก็ดีใจกันยกใหญ่เลยล่ะ)
ชุดไหนเป็นชุดโปรดของโจดี้ในคอสตูมทั้งหมดทุกซีซั่นที่สวมมา โจดี้บอกว่าเธอชอบชุดสูทที่ไปฆ่าบิล เธอรู้สึกสะดวกใจมากตอนที่สวมมัน แล้วก็เจ๋งมากด้วยเหมือนกันที่สวมชุดนี้ไปหาบิลแล้วก็ฆ่าเขาในคลับ มันยิ่งใหญ่สุด แล้วก็เป็นความทรงจำที่ยาวนานด้วย แต่เอาจริงๆ เธอเกลียดผ้าพันคอด้วย โจดี้ยังบอกอีกว่าเธอรักชุดในคุกของวิลลาแนลล์
พอมีโอกาสที่ได้สวมชุดเหล่านี้ทั้งชุดนักโทษหรือชุดนอนของเด็กสิบขวบ มันเป็นช่วงเวลาที่วิลลาแนลล์ไม่สะดวกใจเอาซะเลย เหมือนโดนจับโยนออกจากนอกคอมฟอร์ตโซน แต่ว่าโจดี้กลับเอนจอยกับมัน “มันเป็นคำถามใหญ่เลยนะ เพราะว่าพอย้อนกลับไปซีนที่ถ่ายในรถไฟ เราได้เห็นวิลลาแนลล์ในจัมป์สูทของแม่ที่แม่ให้เธอมา คำถามก็คือ ทำไมวิลลาแนลล์ยังสวมชุดนั้นอยู่ เธอแคร์เรื่องแฟชั่นอยู่เหรอ มันเป็นสิ่งที่เราควรจะให้ความสนใจรึเปล่า แม้จะเป็นคำถามใหญ่ แต่ว่าวิลลาแนลล์พยายามทำให้ดูเหมือนกับว่าเธอมีส่วนร่วมในเกมนั้น แล้วก็ไม่ต้องการที่จะให้คนอื่นเห็นชัดๆ ว่าเธอน่ะกำลังลำบากอยู่ มันกลายเป็นปัจจัยใหญ่เลย”
source:
- https://www.amc.com/shows/killing-eve/talk/2020/05/killing-eve-episode-4-why-ultimate-survivor-konstantins-juggling-act-is-crumbling
- https://ew.com/tv/killing-eve-villanelle-family-reunion-clip/
- https://www.wmagazine.com/story/jodie-comer-killing-eve-villanelle-mother/
- https://www.amc.com/shows/killing-eve/talk/2020/05/killing-eve-fashion-file-home-is-wear-the-heart-is
- https://www.vanityfair.com/hollywood/2020/05/killing-eve-villanelle-jodie-comer-interview-season-three-episode-five