ปฏิเสธไม่ได้ว่า girl in red คือหนึ่งในศิลปินอินดี้ที่น่าจับตามอง เพราะด้วยผลงานของเธอที่ทำให้ผู้ฟังประทับใจ แถมยังรีเลทกับใครหลายๆ คนอีกด้วย วันนี้ The Noize Magazine ได้รับโอกาสดีๆ จาก Love Da Records ให้สัมภาษณ์กับ girl in red เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลงานใหม่ของเธอในอัลบั้มเดบิวต์ แรงบันดาลใจในการทำเพลง อัลบั้มโปรดของเดือนธันวาคม บุคคลที่อยากร่วมงานด้วย และเรื่องราวที่คุณอาจจะไม่เคยรู้เกี่ยวกับเธอ
The Noize Team: สวัสดีมารี พวกเราคือ The Noize Magazine จากประเทศไทยนะ เป็นเกียรติมากๆ ที่ได้มาพูดคุยกับคุณในวันนี้
girl in red: ไง สวัสดีๆ
คุณเป็นยังไงบ้าง โดยเฉพาะช่วงกักตัวที่ผ่านมา
มันมีหลายอย่างเลยนะ อันที่จริงฉันกำลังจะขึ้นแสดงหลายๆ ที่เลยอย่าง Coachella งี้ แต่ว่าด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและการกักตัว ฉันก็เลยไม่ได้ทำอะไรเลย แต่นั่นก็ถือเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ฉันจะได้ใช้เวลาในการจัดการอัลบั้มให้เสร็จ แม้ว่าคุณจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าอยู่ไม่น้อย แต่ฉันก็สามารถทำสิ่งดีๆ ออกมาได้เช่นกัน
คุณกำลังทำอัลบั้มเดบิวต์และมันจะปล่อยออกมาในปีหน้าใช่ไหม?
ช่าย มันเป็นอัลบั้มแรกของฉัน และฉันหวังว่าจะปล่อยออกมาให้ทุกคนได้ฟังกันในช่วงต้นปีหน้านะ
คุณมีโพรเสจการทำงานเกี่ยวกับการเขียนเพลงยังไงบ้าง แบบคุณเริ่มเขียนเพลงยังไง
ฉันมักจะเริ่มด้วย chord progression ก่อน ไม่ก็เริ่มด้วยไอเดียเนื้อเพลงสั้นๆ แล้วก็ค่อยเขียนมันขึ้นมาจากตรงนั้น แล้วก็ค่อยมาอ่านดูอีกทีว่าเขียนอะไรไป เพราะว่าเพลงแต่ละเพลงมีรายละเอียดและจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน มันก็เลยแบบ ฉันรู้ว่าทุกเพลงนั้นมันแตกต่างกันออกไป มันก็เลยไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่สำคัญสำหรับฉันมันก็คือสิ่งที่ฉันทำ ฉันก็แค่ทำเพลงนี่แหละ
คุณเคยมีช่วงเวลาที่เขียนไม่ออกบ้างไหม แบบ artistic block งี้
ฉันเคยเจอมาเยอะเลยนะและฉันก็คือว่าปีนี้ฉันได้พบกับความเป็นศิลปะจริงๆ แบบ ฉันไม่ได้สงสัยตัวเองในด้านศิลปะมานานแล้ว และฉันก็มี writer’s block เหมือนกัน มันบ้ามากๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องยากเลยนะสำหรับคนที่กำลังอัลบั้ม แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกหลังจากที่ผ่านมานานมากแล้วที่ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้เจอปัญหานั้นเลย และสิ่งที่ดีที่สุดคือแบบ ให้คุณจำไว้ว่า (ปัญหา writer’s block) มันจะไม่คงอยู่ตลอดไป ลองคิดดูว่าคุณจะไม่สามารถเขียนเพลงได้อีกเลย หรือบางทีก็อาจจะไม่สามารถถ่ายรูปสวยๆ ได้อีก หรือเขียนกลอนเพราะๆ หรืออะไรก็ตามที่คุณชอบทำมัน มันก็เหมือนจะทำลายมนต์ขลังของคุณไปนะ มันก็เหมือนกับการที่ไม่คิดว่ามันจะอยู่ตลอดไปนะ อารมณ์แบบนั้น
คุณคิดถึงตัวเองตอนอายุ 25 ยังไงบ้าง
ตอนที่ฉันจะอายุ 25 เหรอ มันก็อีกประมาณ 3 ปีนะ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ มันแปลกมาก ฉันคิดว่าตอนนั้นคงจะไปทัวร์รอบโลก ไปเจอคนที่ฟังเพลงของฉันเยอะๆ แต่เอาตามตรง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าฉันไม่อยากคาดหวังไว้สูงเพราะว่าไม่อยากผิดหวัง แต่มันก็เจ๋งนะถ้าได้ทำอะไรที่ฉันได้ทำอยู่ แต่ในสเกลที่ใหญ่ขึ้น มันโคตรจะคูลเลย
ฉันคิดว่าคุณทำได้แน่นอน ฉันเชื่อว่าคุณทำได้ เพราะว่าคุณมีความสามารถมากๆ เลยล่ะ
ฉันก็หวังว่างั้นเหมือนกัน
โอเค คำถามต่อมากันเลยละกัน มีศิลปินคนไหนบ้างที่อยากจะร่วมงานด้วย
Taylor Swift แน่นอนเลย ฉันอยากคอลแลบกับเธอมาก
ช่าย ฉันรู้ ถ้าเกิดฉันเป็นศิลปิน ฉันก็อยากจะร่วมงานกับเธอด้วยเหมือนกัน เพราะว่าเธอแบบ เป็นพระเจ้า
เธอเยี่ยมมาก เพลงของเธอก็น่ามหัศจรรย์สุดๆ ฉันรู้สึกเหมือนว่าได้เรียนรู้จากเธอเยอะมาก เธอเป็นเหมือนครูเลย เหมือนแบบตำนานครูดนตรีเลยล่ะ
ฉันคิดว่ามันคงสนุกน่าดู เพราะว่าเธอมีประสบการณ์ด้านดนตรีเยอะมาก เนอะ?
ใช่ๆ มันคงจะเจ๋งเลยล่ะ
ไหนๆ ก็สิ้นปีแล้ว อัลบั้มไหนเป็นอัลบั้มโปรดของคุณสำหรับเดือนนี้
เดือนนี้ฉันฟัง ‘evermore’ ของ Taylor Swift นะ อัลบั้มปล่อยออกมาต้นเดือนธันวาคม อ้อ 13 ธันวาคม และเหมือนที่เคยบอกไป ฉันเป็น SWIFTY น่ะ
แล้วเพลงไหนคือเพลงโปรดของคุณในอัลบั้มนี้ล่ะ
ของฉันก็คงเป็น gold rush กับ willow นะ สองเพลงนี้คือเพลงโปรดเลย gold rush มันดีมากๆ
กลับมาที่อัลบั้มของคุณดีกว่า อัลบั้มใหม่ของคุณที่กำลังทำอยู่นั้น คุณพอจะบอกใบ้อะไรได้บ้างมั้ย
ฉันคิดว่ามันจะเป็นการสำรวจ และมันจะแตกต่างกับเพลงก่อนๆ ของฉัน เหมือนแบบ ฉันได้ทำเพลงที่ฉันอยากจะอัดจริงๆ และฉันคิดว่ามันน่าจะมีความสนุกสนานอยู่ในนั้น และคุณจะได้ยินมัน มันเต็มไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ เพราะว่ามันจะไม่น้อยเลย หรือมันเหมือนการรวมเอาทุกๆ อย่างเอาไว้ และฉันรู้สึกว่ามันสนุกและเต็มไปด้วยพลัง
เรารู้ว่าคุณได้ทำเพลงเพื่อประกอบหนังและซีรีส์อยู่หลายเรื่อง เราอยากรู้ว่าคุณเริ่มทำเพลงพวกนั้นยังไง อย่างหนังเรื่อง The Turning
ฉันทำเพลงประกอบให้ The Turning นะ แต่โพรเซสมันออกจะแปลกหน่อย เพราะว่าพวกเขาบอกฉันว่าแบบ ‘เฮ้ อยากทำเพลงประกอบหนังมั้ย’ แล้วแบบตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมานานเลย เพราะว่าฉันค่อนข้างยุ่ง แต่แล้ววันนึง วันสุดท้ายที่ LA ฉันก็เข้าสตูดิโอ แล้วก็เอาออกมาให้พวกเขาดูสิ่งที่ฉันทำ แล้วก็ไปทัวร์ต่อ พวกเขาบอกว่า ‘เราชอบมันนะ’ แล้วฉันก็ทำมันให้เสร็จในสตูดิโอ แต่ฉันยังไม่เคยดูหนังเรื่องนั้นเลย ฉันก็เลยไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับมัน เพราะงั้น ถ้าในอนาคตฉันได้ทำเพลงประกอบให้กับหนัง ซีรีส์ หรืออะไรก็ตาม ฉันก็อยากจะรู้เกี่ยวกับมันหน่อย แบบฉันก็อยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วยเหมือนกัน
ใช่เลย ฉันคิดว่ามันน่าจะช่วยกับตัวศิลปินด้วยเช่นกัน เพราะว่าคุณจะได้สามารถจับทางและสไตล์ของหนังหรือซีรีส์ได้ด้วย
นั่นแหละ ถูกเผง
โอเค แล้วถ้าคุณได้มีโอกาสทำเพลงให้กับหนังสักเรื่อง หรือผู้กำกับสักคน คุณอยากที่จะทำเพลงให้ใครหรืออยากทำหนังแนวไหน
เป็นคำถามที่ดีเลย ฉันแบบอยากทำเพลงให้กับ เอ ฉันคิดว่าเขาน่าจะชื่อเกรซนะ ฉันจำนามสกุลเขาไม่ได้ แต่เขากำกับ Lady Bird กับ Little Women
นั่น Greta Gerwig นี่
ใช่ๆๆ (เห็นมั้ย ชื่อของเธอไม่ใช่เกรซ) ฉันคิดว่าเธอเจ๋งมาก ฉันดูสัมภาษณ์ของเธอเยอะมาก แล้วฉันก็คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักเลยล่ะ แล้วก็มีความสามารถมากๆ ด้วย แล้วบางทีก็อาจจะได้พบกับ Timothée Chalamet ด้วยนะ รู้มั้ย แบบ มันเหมือนกันไปทำเพลงสักเพลงเลยนะ
ช่าย มันคงจะสนุกน่าดูเลยล่ะ โอเค คำถามถัดไปก็คือ คุณมีหนังที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณบ้างมั้ย แบบหนังโปรดที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ
เดี๋ยวนะ หนังที่ให้แรงบันดาลใจกับฉันในปีก่อนๆ หรือว่าตอนนี้นะ
ตอนนี้ๆ
อืม ฉันคิดว่ามันไม่มีนะ เพราะว่าฉันจำไม่ได้เลยว่าดูอะไรไปบ้าง แล้วฉันก็หมือนจะไม่ได้แรงบันดาลใจจากหนังเลยในช่วงที่ผ่านมา แต่ว่าเมื่อเดือนมกราคม 2020 ฉันเพิ่งได้ดู ‘Portrait of a Lady on Fire’ มา แบบในปีนี้ มันคงจะเป็นหนังที่ดีที่สุดที่ฉันได้ดูมาแล้วล่ะ
แล้วแบบปีนี้มันเต็มไปด้วยอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะเลยนะ ฉันเข้าใจเลย เพราะว่าฉันก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าฉันดูหนังครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
ไม่เลย แบบ ฉันหมายถึง มันเต็มไปด้วยหนังที่ไม่ดีเยอะไปหมด
แล้วถ้าเกิดคุณได้มีโอกาสกำกับหนังสักเรื่อง หนังแบบไหนที่คุณอยากทำ
ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นหนังอินดี้แหละ แบบที่ถ่ายด้วยฟิล์ม 16mm มันจะให้ภาพที่สวยเลย แต่ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นหนังแนวไหน แต่อาจจะเป็นหนัง coming-of-age ที่พูดถึงเรื่องหนังสือกับเพลง ประมาณนั้น แล้วฉันก็อยากทำหนังเกี่ยวกับชีวิตของ Patty Smith ด้วยนะ ฉันคิดว่าฉันคงจะทำมัน
มันคงจะน่าสนุกแน่ๆ เลย
ช่าย ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น
แถมคุณยังสามารถทำเพลงให้กับหนังของคุณได้อีกด้วย
ไม่แน่เหมือนกันนะ
โอเค มาคุยเรื่องทัวร์กันบ้าง คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการไปทัวร์ในหลายๆ ประเทศ
การได้รวมตัวอยู่กันเป็นวงดนตรี และการที่ได้อยู่ท่ามกลางคนที่ฟังเพลงของฉันในพื้นที่จริง มันเป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์และสำคัญสำหรับฉันมากเลย เพราะว่าฉันคิดถึงมันมากในปีนี้ คิดถึงการที่ได้อยู่กับแฟนๆ คิดถึงการที่ได้พูดคุยและอยู่ท่ามกลางผู้คนในพื้นที่ตรงนั้น ฉันคิดถึงมันมากๆ มันสอนฉันเยอะแยะเลยในฐานะนักดนตรีว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการทำเพลง มันเป็นงานที่ยากเลยนะ และฉันนับถือศิลปินดังๆ หลายคนเลย อย่าง Miley Cyrus, Dua Lipa, Shawn Mendes ฯลฯ ที่ไปทัวร์รอบโลก ฉันนับถือพวกเขาจริงๆ
มาที่ข้อสุดท้ายกันแล้วก่อนจะจากกันไป คุณมีอะไรที่อยากฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยบ้างไหม แบบเขารอสัมภาษณ์นี้กันอยู่ แล้วก็รอให้คุณมาทัวร์ไทยด้วย
โอเคเลย ฉันอยากไปที่ไทยมากๆ ฉันไม่เคยไปมาก่อนเลย อันที่จริงฉันคิดว่าเราควรที่จะต้องไปทัวร์เอเชียกันปีนี้ แต่ก็นั่นแหละ ไม่แน่อาจจะเป็นปีหน้านะ ฉันอยากที่จะไปรอบโลกเลยถ้าเกิดทำได้ ฉันรักพวกคุณนะ ฉันกำลังจะไปหาคุณ~
ขอบคุณมากๆ เลย นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ที่ได้พูดคุยกับคุณ งานของคุณมันเจ๋งมาก ขอให้โชคดีนะ ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย
ขอให้โชคดีกับทุกๆ อย่างเลย ดูแลตัวเองด้วยนะ
คุณก็ด้วยเหมือนกัน
ขอขอบคุณ Love Da Records Thailand กับช่วงเวลาสุดมหัศจรรย์ในครั้งนี้
สัมภาษณ์โดย กัญจนสุดา อ่อนแสงจิตเกษม
ถอดเทปโดย วสุนธรา ทรัพย์ไพฑูรย์
เรียบเรียงโดย วสุธร ทรัพย์ไพฑูรย์