สำหรับ Killing Eve season 3 episode 4 นั้น ทีมเขียนบทก็จะพาทุกคนไปติดตามเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว ตั้งแต่ Eve Polastri ที่เอพนี้จะเป็นวันเกิดของเธอ และเธอใช้ชีวิตอย่างไรหลังจากที่วิลลาแนลล์ตามไปหาเธอบนรถบัสและเอาตุ๊กตาไปให้เธอถึงห้อง Niko Polastri สามีของอีฟ ที่หลังจากเขาออกจากโรงพยาบาลแล้วก็เดินทางไปยังบ้านเกิดที่โปแลนด์ทันทีและไม่ได้บอกอีฟด้วย Villanelle ที่ใช้เวลาไปกับการทำเค้กให้อีก ช้อปปิ้ง หรือแม้กระทั่งทำงานแลกกับสิ่งที่ต้องการกับ Constantin เพื่อให้ตัวเธอเองได้สิ่งที่ต้องการอย่างเรื่องราวของครอบครัวของตัวเอง Constantin กับการจัดการกับลูกสาวของเขาที่เรียกว่าดื้อและฉลาดสุดๆ รวมไปถึง Dasha ที่พยายามควบคุมวิลลาแนลล์ให้ทำตามสิ่งที่เธอและเบื้องบนอย่าง The Twelve สั่งมา และปิดท้ายกันที่ Carolyn Martins ที่เดินทางกลับบ้านแล้วก็พบว่าลูกสาวของเธอกำลังหาทางบุกเข้ามาในจิตใจของเธอเอง
Killing Eve Season 3 Episode 4 “Still Got It”
Final Moments of Niko Polastri?
แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะคิดอยู่ว่าซีซั่นนี้ Killing Eve จะไม่ใจร้ายกับเราเกินไป โดยเฉพาะหลังจากผ่านเหตุการณ์ในเอพแรกมาแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่าเอพสี่นั้น ก็ทำเอาช็อกอีกครั้งหนึ่ง กับโมเมนต์สุดท้ายของ Niko Polastri สามีของอีฟ (แม้ว่าจะมีหลายๆ คนดีใจก็เถอะ) ที่เดินทางไปโปแลนด์ แต่ก็ต้องบอกว่ามันออกจะน่ากลัวอยู่หน่อยๆ เพราะว่านั่นเป็นฝีมือของดาชาที่คิดว่าน่าจะพยายามทำให้อีฟคิดว่านั่นคือฝีมือของวิลลาเนลล์ และทำให้อีฟหันหลังให้กับวิลลาเนลล์ ซึ่งในส่วนนี้เราก็ต้องมาดูกันว่าอีฟจะทำยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ต้องบอกว่าในเอพนี้มันค่อนข้างจะตัดไปมาหน่อยๆ เล่าย้อนนิดๆ ด้วยเหมือนกัน
แล้วก็มีคนจาก The Twelve เดินทางมาหาดาชา เพื่อบอกว่าวิลลาเนลล์ร่อนไปทั่วลอนดอนเพื่อช่วยอีฟเหรอ ไหนว่าคุมได้ แล้วก็ถามเธอกลับว่านี่อยากกลับรัสเซียจริงๆ ใช่มั้ย ดาชาน่ะอยากกลับบ้านมากๆ และหาทางที่จะเข้ามาจัดการในส่วนนี้ ซึ่งเธอก็ยืนยันว่าวิลลาเนลล์เปลี่ยนไปแล้ว และเสนอตัวว่าจะไปฆ่าโพลาสตรีให้ เขาก็บอกว่ามันจะมากปัญหาเกินไป ลองหาวิธีที่จะแยกสองคนนี้ออกดู วิธีไหนก็ได้ นั่นจึงทำให้ดาชาปลอมตัวไปอยู่ที่โปแลนด์เพื่อดักรอนิโค ผูกมิตรกับเขา ก่อนจะเสียบเขา ซึ่งแน่นอนว่าดาชากะเวลาที่จะให้อีฟมาหานิโค ก่อนที่จะเสียบเขาที่คอโดยตรง ดูก็รู้ว่าช็อก (เพราะเพิ่งผ่านช่วงเวลาการตายของเคนนี่ไปไม่นานด้วย) และมีกระดาษโน้ตแปะ STILL GOT IT ไว้เพื่อให้อีฟคิดว่าเป็นฝีมือของวิลลาเนลล์
ทางฝั่งของ Sally Woodward Gentle (executive producer) ของ Killing Eve ก็ออกมาบอกว่า ตัวของนิโคนั้นไม่ได้ตั้งใจจะให้อยู่โยงยาวแล้ว ตั้งแต่ซีซั่นแรก มันเริ่มตั้งแต่ตอนที่พวกเขาคิดว่าจะให้นิโคไปยังไง แต่ว่า Owen McDonnell ผู้รับบทนิโค เป็นคนที่น่ารักมากๆ แล้วทั้งอีฟกับนิโคเขาก็รักกันจริงๆ แต่ว่ามันถึงบางจุดของความสัมพันธ์นั้น มันก็อาจจะถอยกลับไปจุดเริ่มต้นไม่ได้แล้ว และทางที่ดีก็คงจะเป็นการหย่ากันนี่แหละ แล้วสำหรับตัวของดาชานั้นก็ไม่ได้เข้าใจสิ่งที่วิลลาเนลล์คิดพอๆ ไดดามิกของความสัมพันธ์ระหว่างอีฟและวิลลาเนลล์ด้วย แล้ววิลลาเนลล์ก็เป็นคนที่มี dark sense of humour ด้วย แล้วทาง EW ก็ถามด้วยว่าสรุปคอนเฟิร์มไหมว่านิโคตาย ตัวของ SWG ก็บอกว่าเธอไม่เคยคอนเฟิร์ม อาจจะตายหรือไม่ตายก็ได้ แล้วรีแอคของโอเว่นนั้น เธอก็บอกว่าเขารู้เลยว่ามันจะต้องมาถึง แค่ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นยังไงหรือตอนไหน
Broken Eve
ต้องบอกว่า Killing Eve ซีซั่นนี้ทำร้ายอีฟมากๆ ตั้งแต่เอพแรกแล้วที่โผล่มาก็เป็นเรื่องราวของเคนนี่เลย ซึ่ง Sally Woodward Gentle ก็บอกว่าอีฟต้องผ่านเรื่องราวมากมาย แล้วก็ต้องดูกันต่อไปถึงสิ่งที่เธอทำและมันจะมีผลกระทบตามมาอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นจุดแตกหัก ความยืดหยุ่น ไปจนถึงสถานที่ที่เธอจะเดินทางไป พอถึงจุดๆ หนึ่ง เธออาจจะล้มเหลว แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น บางทีอาจจะเป็นสิ่งที่อีฟวาดภาพไว้ในหัวก็เป็นได้
คำถามต่อมาที่จะเกิดขึ้นกับอีฟก็คือ ทำไมนิโคถึงตัดสินใจเดินทางไปที่โปแลนด์แล้วไม่ยอมบอกเธอ แถมยังดูแฮปปี้ด้วย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคู่นี้นั้น มันอาจจะถึงจุดที่ตอกกลับคู่นี้ แล้วก็อาจจะไปถึงจุดที่แย่แล้วก็ได้ อย่างที่อีฟบอกกับ Jamie Hayward ว่าเธอทำให้นิโคต้องเผชิญเหตุการณ์ต่างๆ จนทำให้เป็น PTSD ด้วย
the ultimate juggler
เมื่อพูดถึง the ultimate juggler ก็ต้องบอกว่าคงหนีไม่พ้นคอนสแตนติน ที่แม้กระทั่งลูกสาวของเขายังบอกเองเลยว่าเป็นพวกกลับกลอกที่รับใช้ตัวเองมากกว่าที่ทำงานที่เขาทำงาน เพราะเขาทั้งทำงานให้กับ FSB, MI6 แล้วก็ the Twelve ตัวของ executive producer อย่าง Damon Thomas บอกว่า คาแรกเตอร์ของคอนสแตนตินนั้นเป็นพวก ultimate survivor เพราว่าเขาซ่อนสิ่งต่างๆ ไว้ตลอดเวลา ไม่มีใครรู้ ไม่เคยมีใครค้นเจอ และไม่เคยพลาด เขาอาจจะเป็นผู้รอดชีวิตจากหายนะก็เป็นได้ และในซีซั่นนี้ เราได้เห็นเรื่องราวของคอนสแตนตินมากขึ้น ทั้งเรื่องส่วนตัวและการทำงานอีกด้วย
ตัวนักแสดงอย่าง Kim Bodnia ก็บอกว่า มันสนุกนะที่ได้เห็นสิ่งที่คอนสแตนตินคิดเอาไว้ในหัวจริงๆ มันมีทั้งเรื่องเซ้นส์และความรู้สึกด้วย มันเป็นสิ่งที่จะต้องเผชิญหน้ากับตัวเองแล้วมันก็ยากซะด้วย สำหรับความสัมพันธ์กับวิลลาเนลล์นั้น Sally Woodward Gentle บอกว่าเคมีระหว่างคิมและโจดี้นั้นสุดยอดมาก แล้วพวกเขาก็ไม่เคยเจอกันมาก่อนด้วยจนกระทั่ง table read ตอนซีซั่นแรก
between parents and daughters
อย่างที่บอกไปในคราวก่อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างแคโรลินอย่างเจอราดีนรับบทโดย Gemma Whelan เธอพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูกสาวและแม่ว่าทั้งคู่นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างตัวเจอราดีนนั้น มีทั้งทางอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจและรู้สึกทุกอย่างและพูดถึงทุกสิ่ง ซึ่งมันแตกต่างกับแคโรลินอย่างมาก ที่มักใช้เวลาไปกับการทำงานและไม่ยอมเสียเวลากับสิ่งต่างๆ ไม่มีความรู้สึกใดๆ ไม่ละสายตาจากสิ่งที่ต้องการ และเป็นคนที่เย็นชามากๆ แต่ก็ต้องบอกว่าต่างคนต่างสูญเสียคนที่ตัวเองรัก และพยายามที่จะแสดงความเสียใจในมุมของตัวเอง แล้วพอทั้งคู่มาอยู่ด้วยกันนั้น เจอราดีนก็อยากที่จะแก้นิสัยของแคโรลัน พยายามดูแลแล้วก็คุยด้วยตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าแคโรลินปิดใจ มันเป็นความสัมพันธ์ที่ยุ่งยาก และรับมือยากด้วย สำหรับเจอราดีนนั้นก็คิดว่าแคโรลินอยากที่จะมีพื้นที่สำหรับตัวเอง ซึ่งตัวของแคโรลินรู้ดี เธออ่านคนออก เธอมองผู้คนแล้วก็พยายามมองหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ แล้วตัวเจอราดีนนั้นก็เป็นลูกสาวของแคโรลินเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันค่อนข้างชาเลนจ์อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างคอนสแตนตินและน้องน้อยสุดแสบที่ต่อปากต่อคำกับวิลลาเนลล์อย่าง Irina นั้น ก็ต้องบอกว่ามันค่อนข้างอันตรายอยู่เหมือนกัน น้องกลับเข้าไปเรียนที่มอสโคว์เหมือนเดิม คุณแม่ยังแต่งงานใหม่กับแฟนใหม่ชาวเยอรมัน ซึ่งคราวนี้น้องก็ยังคงแสบเหมือนเดิม แถมยังต่อปากต่อคำกับคอนสแตนตินได้ไม่ต่างกับตอนที่คุยกับวิลลาเนลล์ในซีซั่นแรกเลยล่ะ แล้วพอน้องบอกว่าให้คอนสแตนตินวางแผน เขาก็บอกว่าเขามีแผนอยู่แล้วนะ ซึ่งแผนนั้นคืออะไร ก็ต้องไปลุ้นกัน
นอกจากคอนสแตนตอนและอิริน่านั้น ผู้กำกับ Killing Eve อย่าง Shannon Murphy ก็บอกว่าคอนสแตนตินก็ยังต้องรับมือกับลูกสาวอีกคนอย่างวิลลาเนลล์ด้วย ซึ่งตัวของโจดี้ก็บอกว่าเธอคิดว่าวิลลาเนลล์พยายามหาตัวตนผ่านทางคอนสแตนตินเพราะว่าเขาใกล้เคียงกับคำว่าครอบครัวของเธอ แล้วตัวของคิมก็บอกว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ของคอนสแตนตินด้วยเช่นกัน เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอนั้นมันเป็นอะไรที่แข็งแกร่งมากกว่าสิ่งที่อยากจะให้เป็นจริงๆ แถมเขายังต้องหาวิธีบาลานซ์ความสัมพันธ์ในฐานะพ่อและต้องมีความเป็นโปรเฟสชันนอลอีกด้วย
Q&A with Dame Harriet Walter
ในตัวของดาชาใน Killing Eve season 3 นั้น Dame Harriet Walter ก็ออกมาบอกว่าดาชานั้นไม่ได้ icy bitch เท่าไหร่ แล้วก็ยังบอกอีกว่า โดยทั่วไปแล้วเธอไม่ค่อยได้เล่นบท naughty girl เท่าไหร่ด้วย นอกจากนี้แล้ว ครั้งแรกที่ได้อ่านบทแล้วรู้ว่านิโคจะต้องตายนั้น เธอบอกด้วยว่าตอนนั้นถ่ายไปแล้วหลายฉากเลยก่อนที่จะรู้ แล้วเธอเองก็ไม่ได้รู้ฉากนั้นก่อนที่นิโคจะตายด้วย มันเวิร์กนะที่จะมีหลายๆ อย่างออกมา แม้ว่าจะไม่ได้สคริปต์มาก่อนจนกว่าฉากนั้นมันจะโผล่ออกมา แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่เจ๋งด้วย เพราะว่าเธอก็ไม่เคยฆ่าใครมาก่อนเหมือนกัน
เหตุผลที่เธอมารับบทนี้ เธอบอกว่าเธอไม่ลังเลเลยตอนที่ตัดสินใจ เพราะว่าเธอดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วก็คิดว่ามันเจ๋งมากที่บาลานซ์ตัวละครได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการสังเกตการณ์หรือว่าความชั่วร้ายก็ด้วย ซึ่งเธอยังบอกอีกว่าการที่ได้ดูโจดี้แสดงและรู้ว่าโจดี้คือตัวละครนั้น เธอก็ควรที่จะต้องเทรนด้วยเหมือนกัน นั่นก็คือเธอก็อยากที่จะได้ฝึกสำเนียงใหม่ๆ แต่งตัวแปลกๆ แล้วก็ไปทำภารกิจบ้าง
เธอยังเล่าอีกว่าอย่าง Killing Eve ในเอพสองของซีซั่นนี้นั้น เธอค่อนข้างเป็นกังวลหน่อยๆ แล้ว แต่เธอรู้ทั้งโทนของซีรีส์เรื่องนี้ มันเป็นไปด้วยความโหดร้ายและเรื่องถากถางล้อเลียน แล้วพอมาเทียบกับการฆ่าของวิลลาเนลล์บางงานที่ทำสำเร็จ รวมไปถึงเรื่องของอีฟที่แหกกฎบางอย่าง มันเป็นเรื่องของผู้หญิงที่ไม่สามารถควบคุมได้และพวกเขาอยากที่จะทำทุกอย่างด้วย นั่นทำให้เธอรักมัน แล้วมันก็ทำให้เธอสนุกด้วย เธอหาวิธีพูดด้วยเสียงที่แตกต่างกัน มันเหมือนได้รับการปลดปล่อยจากบางสิ่งที่เธอไม่ค่อยได้ยินตัวเองอยู่บ่อยๆ แถมยังใช้ภาษากายมากขึ้นด้วย (ซึ่งฉากที่ว่านั้นโดนตัดออกไปในเอพแรก) เธอต้องพยายามทำให้หลังตรงตลอดเวลา แล้วก็ต้องมีความเป็นนักยิมนาสติกอยู่บ่อยๆ ด้วย
Q&A with Owen McDonnell
โอเว่นบอกว่าการทำงานระหว่างเขาและซานดร้าใน Killing Eve นั้นต้องทำงานด้วยกันตลอด แล้วก็มีหลายๆ สิ่งที่น่าสนใจ เขามักบอกกันและกันตลอดว่า “ตอนที่เราเริ่ม มันเป็นความสัมพันธ์ของคนสองคน และรักกันมากๆ และอยู่เพื่อกันมาโดยตลอด แต่พอถึงช่วงเวลาหนึ่ง ความสัมพันธ์นั้นมันก็เหมือนมีบางอย่างขาดหายไป สุดท้ายก็กลับมาเชื่อมต่อดังเดิมไม่ได้อีกต่อแล้ว มันก็กลายเป็นว่าความสัมพันธ์นั้นมันถึงจุดที่ต่างคนต่างต้องก้าวต่อไป”
สำหรับฉากที่นิโคไปโปแลนด์ใน Killing Eve ซีซั่น 3 เอพที่สี่นั้น จริงๆ แล้วไปถ่ายกันที่ Viscri ประเทศโรมาเนีย เป็นหมู่บ้านของชาวแซกซ่อนที่ตั้งรกรากอยู่ที่นี่กว่า 900 ปีมาแล้ว โอเว่นบอกว่าเขาคิดว่า Suzanne Heathcote น่าจะอยากที่จะสำรวจเรื่องราวต่างๆ ของตัวละครว่าพวกเขาทำแบบนั้นไปทำไม สำหรับตัวนิโคแล้ว เขาเป็นคนโปแลนด์ที่เราแทบไม่เคยเห็นเลยว่าโตมาได้ยังไง รู้แค่ว่าแม่มาจากไหน สำหรับโอเว่นแล้ว มันก็เหมือนเรื่องที่วาดฝันเอาไว้ เขาน่าจะอยากมีชีวิตเรียบง่าย และหาสถานที่ที่เหมาะจะเป็นบ้านให้กับเขา
ต้องบอกว่าตัวของนิโคนั้นเป็นหนึ่งในตัวละครที่กล้าเผชิญหน้ากับวิลลาเนลล์ อย่างที่วิลลาเนลล์บอกกับนิโคในซีซั่นสองว่า “ถ้าฉันทำร้ายคุณ อีฟคงไม่ให้อภัยฉันแน่” แล้วโอเว่นก็บอกว่ามันไม่น่าจะเป็นสิ่งที่นิโคภูมิใจเอาซะเลย
รีแอคแรกหลังจากที่โอเว่นอ่านบทเอพสี่จบก็คิดเลยว่า “นี่มันจบแล้วใช่มั้ย สรุปผมตายใช่รึเปล่า” แล้วก็คิดว่า “มันเป็นฉากที่โคตรเจ๋งเลย” แล้วพอเข้าฉากจริงๆ แล้ว เขาก็บอกว่ามันสนุกมาก การที่ Dame Harriet Walter แทงด้วย pitchfork มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นทุกวันนะ
อย่างสุดท้ายเลยก็ต้องบอกว่า “หนวด” ของนิโค เป็นอะไรที่ทำให้หลายๆ คนจำเขาในบทนิโคได้ ตอนนั้นเขาไปเจอ Jon East ผู้กำกับ Killing Eve ซีซั่นแรก เขาก็ทักทายปกติ อีกฝ่ายก็ทักทายเหมือนเพิ่งเคยเจอ โอเว่นก็บอกว่า “ผมเล่นเป็นนิโคไง คุณกำกับผมตั้งสามตอนแน่ะ” เขาก็แบบ “พระเจ้าช่วย จริงเหรอเนี่ย” แบบพอไม่มีหนวด คนอื่นก็จำไม่ได้เลย
source:
- https://www.elle.com/culture/movies-tv/a32343602/killing-eve-harriet-walter-niko-murder-interview/
- https://ew.com/tv/killing-eve-producer-shocking-niko-scene/
- https://www.amc.com/shows/killing-eve/talk/2020/05/killing-eve-episode-4-why-ultimate-survivor-konstantins-juggling-act-is-crumbling
- https://www.amc.com/shows/killing-eve/talk/2020/05/spoilers-killing-eve-qa-owen-mcdonnell-niko-polastri